ผลของการใช้โปรแกรมอินเทอร์เน็ตในการสร้างเสริมสุขนิสัยการบริโภคอาหารในวัยรุ่นตอนต้น
คำสำคัญ:
โปรแกรมอินเทอร์เน็ต, สุขนิสัยการบริโภคอาหาร, วัยรุ่นตอนต้นบทคัดย่อ
สุขนิสัยในการบริโภคอาหารมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อภาวะโภชนาการของวัยรุ่น การวิจัยกึ่งทดลองครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาผลของการใช้โปรแกรมอินเทอร์เน็ตในการสร้างเสริมสุขนิสัยในการบริโภคอาหารในวัยรุ่นไทยตอนต้น มุ่งเน้นความรู้ เจตคติ และพฤติกรรมการบริโภคอาหารที่ถูกต้องของวัยรุ่นตอนต้น กลุ่มตัวอย่างเป็นเด็กนักเรียนจำนวน 76 คน ที่กำลังศึกษาในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ณ โรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่ง ในเขตอำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ แบ่งเป็นกลุ่มทดลอง 38 คน และกลุ่มควบคุม 38 คน นักเรียนกลุ่มทดลองใช้โปรแกรมอินเทอร์เน็ตเป็นเวลา 12 สัปดาห์ ส่วนนักเรียนกลุ่มควบคุมได้รับการสร้างเสริมพฤติกรรรมการบริโภคอาหารจากการได้รับความรู้ในห้องเรียนและจากกิจกรรมสร้างเสริมสุขภาพของโรงเรียนตามปกติ เครื่องมือที่ใช้ในการรวบรวมข้อมูลประกอบด้วย แบบทดสอบความรู้เกี่ยวกับการบริโภคอาหารของวัยรุ่น แบบสอบถามเจตคติต่อการบริโภคอาหารของวัยรุ่น แบบสอบถามพฤติกรรมการบริโภคอาหารของวัยรุ่น และแบบสอบถามความพึงพอใจในการใช้โปรแกรมอินเทอร์เน็ต วิเคราะห์ข้อมูลด้วยการใช้สถิติเชิงพรรณนาและสถิติค่าที ผลการศึกษาพบว่า
1. คะแนนเฉลี่ยด้านความรู้เกี่ยวกับการบริโภคอาหาร ด้านเจตคติต่อการบริโภคอาหาร และด้านพฤติกรรมการบริโภคอาหารของวัยรุ่นตอนต้น ภายหลังการทดลองสูงกว่าก่อนการทดลองอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 ทั้งกลุ่มทดลองและกลุ่มควบคุม
2. คะแนนเฉลี่ยด้านความรู้เกี่ยวกับการบริโภคอาหาร ด้านเจตคติต่อการบริโภคอาหาร และด้านพฤติกรรมการบริโภคอาหารของวัยรุ่นตอนต้น ภายหลังการทดลอง ในกลุ่มทดลองสูงกว่ากลุ่มควบคุม อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05
ผลการวิจัย พบว่า
โปรแกรมอินเทอร์เน็ตมีประสิทธิภาพในการสร้างเสริมให้วัยรุ่นไทยตอนต้นมีความรู้เกี่ยวกับการบริโภคอาหาร มีเจตคติที่ดีต่อการบริโภคอาหารที่ถูกต้อง ดังนั้นจึงควรใช้โปรแกรมอินเทอร์เน็ตในการส่งเสริมสุขนิสัยการบริโภคอาหารในเด็กวัยรุ่นตอนต้นและปรับปรุงให้ทันสมัยอยู่เสมอ
Downloads
เผยแพร่แล้ว
How to Cite
ฉบับ
บท
License
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของวารสารพยาบาลสาร
ข้อความที่ปรากฏในบทความแต่ละเรื่องในวารสารวิชาการเล่มนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนแต่ละท่านไม่เกี่ยวข้องกับมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และคณาจารย์ท่านอื่นๆในมหาวิทยาลัยฯ แต่อย่างใด ความรับผิดชอบองค์ประกอบทั้งหมดของบทความแต่ละเรื่องเป็นของผู้เขียนแต่ละท่าน หากมีความผิดพลาดใด ๆ ผู้เขียนแต่ละท่านจะรับผิดชอบบทความของตนเองแต่ผู้เดียว