ผลของการใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบบูรณาการคุณธรรมจริยธรรม ต่อพฤติกรรมการปฏิบัติการพยาบาลของนักศึกษาพยาบาล
คำสำคัญ:
รูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบบูรณาการ คุณธรรม จริยธรรม, พฤติกรรมการปฏิบัติการพยาบาลบทคัดย่อ
การวิจัยนี้เป็นการวิจัยกึ่งทดลอง ใช้แบบแผนการทดลองเป็นแบบอนุกรมเวลา มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาผลของการใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบบูรณาการคุณธรรมจริยธรรมต่อพฤติกรรมการปฏิบัติการพยาบาลของนักศึกษาพยาบาล ประชากรในการวิจัย คือ นักศึกษาพยาบาลชั้นปีที่ 2 และ ปีที่ 3 วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี จังหวัดนนทบุรี กลุ่มตัวอย่างคือ นักศึกษาพยาบาลชั้นปีที่ 2 และปีที่ 3 วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี จังหวัดนนทบุรี ได้มาโดยการเลือกเฉพาะเจาะจงในกลุ่มที่ฝึกวิชาปฏิบัติการพยาบาลกับผู้วิจัยและผู้ร่วมวิจัย ซึ่งได้ขนาดตัวอย่าง 30 คน รูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบบูรณาการคุณธรรมจริยธรรม ประกอบด้วยหลักการ ดังนี้ 1) การเตรียมความพร้อมเพื่อนำสู่การเรียนรู้ 2) การยกระดับความคิดและการตัดสินใจเชิงจริยธรรม 3) การรับรู้ความสามารถของตนเองเพื่อจูงใจในการเรียนรู้ และ4) การจัดการเรียนรู้ในสถานการณ์จริง ขั้นตอนการเรียนการสอน ประกอบด้วย 2 ขั้นตอน คือ ขั้นตอนที่ 1) การเตรียมความพร้อมก่อนการฝึกปฏิบัติการพยาบาล และ2) การปฏิบัติการพยาบาลบนพื้นฐานของคุณธรรม จริยธรรม ซึ่งประกอบด้วย 2 กิจกรรม คือ 1) การเสริมสร้างความสามารถในการปฏิบัติการพยาบาลตามมาตรฐานวิชาชีพ และ 2) การเสริมสร้างคุณธรรม จริยธรรมในการปฏิบัติการพยาบาล ขั้นตอนที่ 2 ใช้กระบวนการเรียนรู้ในสถานการณ์จริง ได้แก่ การวางแผน การปฏิบัติ การประเมินผล และการสะท้อนคิด
ผลการศึกษา พบว่า พฤติกรรมการปฏิบัติการพยาบาลของนักศึกษาพยาบาลมีค่าคะแนนเฉลี่ยเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ทั้งในภาพรวม และแต่ละองค์ประกอบ และมีพัฒนาการในแต่ละช่วงเวลาดีขึ้น
References
Chowning, Jeanne Ting; et.al. (2012). Fostering Critical Thinking, Reasoning, and Argumentation Skills through Bioethics Education. PLoS ONE. 7(5): 1-8. Retrieved July 10, 2015, from https://doi: 10.1371/journal.pone.0036791.
Chris L. S. Coryn, et.al. (2009). Adding a Time-Series Design Element to the Success Case Method to Improve Methodological Rigor: An Application for Nonprofit Program Evaluation. American Journal of Evaluation, 30(1), 80-92. Retrieved April 10, 2015, from http://aje.sagepub.com hosted at http://online.sagepub.com.
Danulada Jamjuree; et al., (2014). The Study of the School and Community Participation in Education Management Case Study: Baan Don Sai School, Nakorn Sri Dhammaraj Province. Journal of Research and Curriculum Development, 4(1), 31-45. (in Thai)
Khaomala, J,. (2018). Development of a Learning Management Model to Enhance the Civic Professionalism Attributes of Nursing Students. Unpublished Doctoral’ Dissertation, Srinakharinwirot University. (in Thai)
Kholberg, Lawrence. (1976). Moral Stages and Moralization: The Cognitive Developmental Approach. In T. Lickona (Ed.), Moral Development and Behavior: Theory, Research and Social Issues (pp.31-53). New York: Holt: Rinehart & Winston.
Khonthai Foundation. (2014). Retrieved November 10, 2014, from http://www. Khonthaifoundation.org/news-detail.php?id=47.(in Thai)Kramer, M. and Usher, A. (2011). Work-Integrated Learning and Career-Ready Students: Examining the Evidence Toronto: Higher Education Strategy Associates.
Peters, Scott J. (2004). Educating the Civic Professional: Reconfigurations and Resistances. Michigan Journal of Community Service-Learning. 11(1): 47-58.
Sullivan, William M. (2005). Work and Integrity: the Crisis and Promise of Professionalism in America. 2nd ed. San Francisco, CA: Jossey-bass.
Molieri, W,. (2007). A Development of Instructional Model Based on Lickona’s Character Education Approach for Enhancing Professional Ethics in Responsibility of Vocational and Technology Students. Unpublished Doctoral’Dissertation. Chulalongkorn University. (in Thai)
Downloads
เผยแพร่แล้ว
How to Cite
ฉบับ
บท
License
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของวารสารวิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี สุราษฎร์ธานี
ข้อความที่ปรากฏในบทความแต่ละเรื่องในวารสารวิชาการนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนแต่ละท่านไม่เกี่ยวข้องกับวิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี สุราษฎร์ธานี และคณาจารย์ท่านอื่นๆในวิทยาลัยฯ แต่อย่างใด ความรับผิดชอบองค์ประกอบทั้งหมดของบทความแต่ละเรื่องเป็นของผู้เขียนแต่ละท่าน หากมีความผิดพลาดใดๆ ผู้เขียนแต่ละท่านจะรับผิดชอบบทความของตนเองแต่ผู้เดียว