การประยุกต์ใช้โปรแกรมสร้างโมเดลจำลองกล้ามเนื้อ 3 มิติ เพื่อการผลิตสื่่อทางการแพทย์

Main Article Content

มาโนทย์ ปรีชานันท์
ณิชาพร สุรินทร์วงศ์
โสภิตา สุวุฒิโฑ
จิราพร จิตประไพกุลศาล

บทคัดย่อ

บทความนี้มีจุดประสงค์เพื่อแสดงแนวทางการพัฒนาสื่อการสอน ด้วยวิธีการนำโปรแกรม 3 มิติ Poser มาประยุกต์ใช้ในการสร้างโมเดลจำลองกล้ามเนื้อ 3 มิติ สำหรับใช้ในการผลิตสื่อทางการแพทย์ ซึ่งในปัจจุบันเทคโนโลยีทางการแพทย์มีความก้าวหน้าอย่างมาก ดังนั้นสื่อการศึกษาทางการแพทย์จึงมีบทบาทสำคัญ มีหลากหลายรูปแบบ และมีการพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง การนำโปรแกรม 3 มิติ ที่มีจุดเด่นในการสร้างงานเฉพาะทางด้านการแพทย์ โดยเฉพาะทางด้านกายวิภาคศาสตร์ และสรีรวิทยา จึงเป็นประโยชน์อย่างมากต่อการนำไปใช้ผลิตสื่อทางการแพทย์ ให้มีความสมบูรณ์ และถูกต้องมากที่สุด อีกทั้งยังง่ายต่อการใช้งาน ลดระยะเวลาขั้นตอนการขึ้นรูปชิ้นงาน 3 มิติ ถือว่ามีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการนำไปประยุกต์ใช้สร้างสื่อการเรียนการสอนทางการแพทย์ให้มีคุณภาพยิ่งขึ้นต่อไปได้ ซึ่งโปรแกรม Poser ที่จะสามารถนำมาใช้สร้างโมเดลจำลองกล้ามเนื้อ 3 มิติ ให้อย่างถูกต้องและเสมือนจริงได้นั้น จำเป็นต้องอาศัยโปรแกรมเสริม ที่มีชื่อว่า Anatomy 4 Pro Bundle เข้ามาช่วย ด้วยเทคนิคการนำแผ่นภาพกราฟิกกล้ามเนื้อที่ถูกต้องตามหลักกายวิภาคศาสตร์ใส่ในตัวโมเดล และใช้เครื่องมือ สำหรับแก้ไข ปรับ ดัด ท่าทาง ให้ได้ตามที่ต้องการ แล้วจึงทำการ แปลงเป็นสื่อออกมา เพื่อนำไปใช้ผลิตสื่อการเรียนการสอนต่อไป

Article Details

รูปแบบการอ้างอิง
1.
ปรีชานันท์ ม, สุรินทร์วงศ์ ณ, สุวุฒิโฑ โ, จิตประไพกุลศาล จ. การประยุกต์ใช้โปรแกรมสร้างโมเดลจำลองกล้ามเนื้อ 3 มิติ เพื่อการผลิตสื่่อทางการแพทย์. เวชบันทึกศิริราช [อินเทอร์เน็ต]. 1 กรกฎาคม 2023 [อ้างถึง 30 ธันวาคม 2025];16(3):214-21. available at: https://he02.tci-thaijo.org/index.php/simedbull/article/view/260441
ประเภทบทความ
บทความทั่วไป

เอกสารอ้างอิง

กสิณ รังสิกรรพุม. การวิเคราะห์ปัจจัยในการผลิตสื่อการสอนทางการแพทย์จากการพิมพ์แบบเพิ่มขึ้น ด้วยกระบวนการลำดับชั้นเชิงวิเคราะห์. วารสารวิจัย มข. (ฉบับบัณฑิตศึกษา) 2564;21(1):133-44.

จิรัญดา กฤษเจริญ. การประยุกต์ใช้ Augmented Reality เพื่อการเรียนการสอนกายวิภาค. ศรีนครินทร์เวชสาร 2563; 35(1):99-102.

ทิศนา แขมมณี. การสอนจิตวิทยาการเรียนรู้ เรื่องศาสตร์การสอนองค์ความรู้เพื่อการจัดกระบวนการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพ. พิมพ์ครั้งที่ 5. กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัย; 2550.

ปณิธิ แก้วสวัสดิ์. สร้างและการจัดการแบบจำลอง 3 มิติ ด้วยโปรแกรม Maya 2017. กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์ ซีเอ็ดยูเคชั่น; 2560.

ปิยะ นากสงค์. สร้างงาน 3D และแอนิเมชันด้วย 3Ds Max 2018. กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์ ซิมพลิฟาย; 2561.

มาโนทย์ ปรีชานันท์, นิดาพรรณ สุรีรัตนันท์, ศิริพร ธิติเลิศเดชา. การบูรณาการกายวิภาคศาสตร์และการนําเสนอแบบ 3 มิติกับท่าพื้นฐานฤาษีดัดตน. ใน: เอกสารประกอบการประชุมเสนอผลงานวิจัย ระดับบัณฑิตศึกษาแห่งชาติครั้งที่ 14. กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ; 2552.

รำแพน พรเทพเกษมสันต์. กายวิภาคศาสตร์และสรีรวิทยาของมนุษย์. กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์ ศิลปาบรรณาคาร; 2556.

วรัฏฐา เหมทอง และ วีรยุทธ ศรีทุมสุข. ผลของการใช้ภาพเคลื่อนไหวสามมิติต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชากายวิภาคศาสตร์ระบบหัวใจของนักศึกษาวิทยาศาสตร์สุขภาพ. วารสารมหาวิทยาลัยคริสเตียน 2563;26(1):94-103.

กนกพรรณ วงศ์ประเสริฐ. สาระสำคัญกายวิภาคศาสตร์ของมนุษย์ เล่ม 1. กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์ ภาควิชากายวิภาคศาสตร์ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล; 2555.

สรชัย ชวรางกูร. การศึกษาเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์และความสนใจ ของนักเรียนช่วงชั้นที่ 2 ที่มีต่อการ์ตูนแอนิเมชันรูปแบบ 2 มิติและ 3 มิติ. วิทยานิพนธ์ครุศาสตรอุตสาหกรรมมหาบัณฑิต สาขาวิชาเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์, บัณฑิตวิทยาลัย สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ; 2550.

วรัทยา กุลนิธิชัย. การพัฒนาบทเรียนสื่อประสมเพื่อเสริมทักษะการเรียนรู้กายวิภาคศาสตร์ พื้นฐานระบบกระดูกของนิสิตพยาบาลศาสตร์ชั้นปีที่ 2 มหาวิทยาลัยพะเยา.วารสารพยาบาลทหารบก 2560;18(2):186-93.

Daz 3 D [Internet]. Daz Productions, Inc; [updated 2022 November 10; cited 2022 November 20] Available from: https://www.daz3d.com/