ผลของการใช้คู่มือการดูแลผู้ที่มีภาวะกลืนลำบากต่อระดับความรู้และความพึงพอใจของผู้ดูแล
Main Article Content
บทคัดย่อ
วัตถุประสงค์: การวิจัยแบบกึ่งทดลอง เพื่อศึกษาระดับความรู้และความพึงพอใจในการใช้คู่มือของผู้ดูแลผู้ป่วยที่มีภาวะกลืนลำบากในผู้ดูแลผู้ป่วยที่มีภาวะกลืนลำบาก 26 ราย เวชศาสตร์ฟื้นฟู ศูนย์แพทย์กาญจนาภิเษก เดือน พฤศจิกายน พ.ศ.2566 ถึงเมษายน พ.ศ.2567
วิธีการศึกษา: เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ คู่มือการดูแลผู้ป่วยและแบบประเมินเกี่ยวกับความรู้ทั่วไปเรื่องภาวะกลืนลำบาก และการดูแลผู้ที่มีภาวะกลืนลำบาก 15 ข้อ โดยผู้ดูแลทำแบบประเมิน (pre-test) ก่อนได้รับความรู้ในการดูแลผู้ที่มีปัญหากลืนลำบากโดยทีมสหวิชาชีพร่วมกับให้คู่มือ เพื่อนำไปทบทวนที่บ้าน หลังจาก 1 สัปดาห์ นักกิจกรรมบำบัดจะนัดมาติดตามอาการ และให้ผู้เข้าร่วมวิจัย ทำแบบประเมินซ้ำ เพื่อเป็นคะแนนหลังได้รับความรู้ (post-test) จากนั้นอีก 1 เดือนแพทย์เวชศาสตร์ฟื้นฟูจะนัดติดตามอาการผู้ป่วย และให้ผู้ดูแลประเมินความพึงพอใจในการใช้คู่มือ การวัดผลลัพธ์คือการเปรียบเทียบคะแนนเฉลี่ยความรู้ในการดูแลผู้ป่วยก่อนและหลังให้คู่มือ คะแนนที่เพิ่มขึ้นบ่งชี้ถึงการมีความรู้เพิ่มขึ้นในการดูแลผู้ป่วยที่มีภาวะกลืนลำบาก
ผลการศึกษา: ผู้ดูแลที่เข้าร่วมวิจัย 26 ราย หลังได้รับคู่มือการดูแลผู้ป่วยที่มีภาวะกลืนลำบาก พบว่าความรู้ในการดูแลผู้ป่วยที่มีภาวะกลืนลำบากหลังได้รับคู่มือเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับก่อนได้รับคู่มือ โดยภายหลังได้รับคู่มือมีความรู้ (เฉลี่ย 13.04 ± 2.25) มากกว่าก่อนได้รับคู่มือ(เฉลี่ย 9.04+2.47) อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ p-value <.001 โดยมีนอกจากนี้ความพึงพอใจโดยรวมของคู่มืออยู่ในระดับ ดี และ ผู้ดูแลมีความพึงพอใจด้านการนำไปใช้ประโยชน์ อยู่ในระดับดีมาก
สรุป: ผลการศึกษาสนับสนุนว่าคู่มือมีประสิทธิภาพในการเพิ่มความรู้ของผู้ดูแลในการดูแลผู้ที่มีภาวะกลืนลำบาก สามารถนำไปใช้เป็นแหล่งเพิ่มความรู้ให้แก่ผู้ดูแลผู้ป่วยที่มีภาวะกลืนลำบากได้
Article Details

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
เอกสารอ้างอิง
World Health Organization. International Classification of Diseases for Mortality and Morbidity Statistics (11th Revision). World Health Organization, 2018.
สถาบันสิรินธรเพื่อการฟื้นฟูสมรรถภาพทางการแพทย์แห่งชาติ. แนวทางทางเวชปฏิบัติสำหรับผู้ที่มีภาวะกลืนลำบาก.นนทบุรี: สหมิตร
พริ้นติ้งแอนด์พับลิสชิ่ง, 2562.
Malagelada JR, Bazzoli F, Boeckxstaens G, De Looze D, Fried M, Kahrilas P, et al. World Gastroenterology Organisation global guidelines: dysphagia--global guidelines and cascades update September 2014. J Clin Gastroenterol 2015;49(5):370-8.
Victoria S, Elisa G, Rosemary M. The Benefit of Dysphagia Screening in Adult Patients With Stroke: A Meta‐Analysis. Journal of the American Heart Association 2021;10:e018753
โฉมพิไล นันทรักษา, พจีมาศ กิตติปัญญางาม, ภัทรา วัฒนพันธุ์. ความรู้เกี่ยวกับภาวะกลืนลำบากในผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองที่มีภาวะกลืนลำบาก. ศรีนครินทร์เวชสาร 2564;36(3):328-32.
สุภาวดี ศรีปัด, จริยาวัตร คมพยัคฆ์, จริยาวัตร คมพยัคฆ์. ผลของโปรแกรมการให้ความรู้การฝึกทักษะและการเตรียมความพร้อมด้วย การมีปฏิสัมพันธ์อย่างมีเป้าหมายเพื่อการกลืนอย่างปลอดภัยในผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง. วารสารพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยสยาม 2559;17(33):6-19.
Wolff JL, Spillman BC, Freedman VA, Kasper JD. A National Profile of Family and Unpaid Caregivers Who Assist Older Adults With Health Care Activities. JAMA Intern Med. 2016;176(3):372-9.
Patterson JM, Rapley T, Carding PN, Wilson JA, McColl E. Head and neck cancer and dysphagia; caring for carers. Psychooncology. 2013;22(8):1815-20.
จรูญลักษณ์ ป้องกัน, จันทร์ฉาย มณีวงษ์. ผลของโปรแกรมเตรียมความพร้อมต่อความพร้อมของญาติ/ผู้ดูแลผู้ป่วย โรคหลอดเลือดสมองก่อนจำหน่ายกลับบ้าน โรงพยาบาลเจ้าพระยายมราช จังหวัดสุพรรณบุรี. วารสารพยาบาลกระทรวงสาธารณสุข 2556;21(1):58-7.
Burns N, Grove SK. The practice of nursing research: conduct, critique, and utilization. 5th ed. St. Louis Missouri: Elsevier Saunders; 2005.
Best JW. Research in Education. 3rd ed. New Jersey: Prentice Hall Inc; 1977.
Likert R. The Method of Constructing and Attitude Scale. In Reading in Fishbeic, M (Ed.), Attitude Theory and Measurement. New York: Wiley & Son, 1967.
เกียรติสุดา ศรีสุข. ระเบียบวิธีวิจัย. พิมพ์ครั้งที่ 3. เชียงใหม่: ครองช่างพริ้นติ้ง; 2552:144
Ferreira JPF. Using a booklet to deliver information in patients with dysphagia - the impact on satisfaction with communication, knowledge and emotional state [Internet]. 2019. Available from: https://repositorio-aberto.up.pt/bitstream/10216/118360/2/307483.pdf