พฤติกรรมการป้องกันอันตรายจากเสียงของพนักงานในโรงงานอุตสาหกรรมน้ำตาลทราย
คำสำคัญ:
พฤติกรรมการป้องกันอันตรายจากเสียง, โรงงานผลิตน้ำตาลทรายบทคัดย่อ
การวิจัยเชิงสำรวจนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาพฤติกรรมการป้องกันอันตรายจากเสียงของพนักงานในโรงงานผลิตน้ำตาล จังหวัดอุดรธานี กลุ่มตัวอย่าง คือ พนักงานทุกคนปฏิบัติงานในแผนกที่สัมผัสเสียงดังเกิน 85 เดซิเบล (เอ) จำนวน 16 แผนก อายุงานตั้งแต่ 1 ปีขึ้นไป จำนวนคน 165 คน เครื่องมือที่ใช้เป็นแบบสอบถามชนิดตอบเอง ระยะเวลาที่ทำการศึกษา เดือนธันวาคม 2559 – มีนาคม 2560 วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติเชิงพรรณนา จำนวน ร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน
ผลการวิจัยพบว่า แบบสอบถามมีอัตราตอบกลับ ร้อยละ 100.0 กลุ่มตัวอย่าง 165 คนทั้งหมดเป็นเพศชาย อายุเฉลี่ย 43.8 ปี ร้อยละ 29.1 จบมัธยมศึกษาตอนปลาย/ปวช. ส่วนใหญ่ (ร้อยละ 80.0) ไม่มีโรคประจำตัว เกือบครึ่งหนึ่งทำงานในโรงงานแห่งนี้และแผนกที่สัมผัสเสียงดังมานานกว่า 15 ปี ระยะเวลาทำงาน 36 – 48 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ และทำงานล่วงเวลา 2 – 28 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ พฤติกรรมการป้องกันอันตรายจากเสียงโดยรวมในระดับพอใช้ ร้อยละ 81.2 โดยเมื่อพิจารณาพฤติกรรมรายด้าน พบว่า การเลือกใช้อุปกรณ์ป้องกันเสียงอยู่ในระดับพอใช้ ร้อยละ 53.3 การสวมใส่อุปกรณ์ป้องกันเสียงอยู่ในระดับดี ร้อยละ 86.1 การดูแลรักษาอุปกรณ์ป้องกันเสียงอยู่ในระดับพอใช้ ร้อยละ 66.7 และการปฏิบัติตามกฎระเบียบขององค์กรอยู่ในระดับดี ร้อยละ 55.8
References
Mcreynolds, C. M. (2005). Noise Induce Hearing Loss. Air medical Journal ; 24 (2): 73-78.
National Occupational Research Agenda. [NORA] (2001). Hearing loss. Retrieved 10 November 2016, from http://www.cdc.gov/noish/nrhear.html
Nelson DI, Nelson RY, Concha- Barrientos M, Fingerhut M. (2005). The global burden of occupational noise-induced hearing loss. Am J Ind Med, 48, 446-458.
Raymond, D. M., & Lusk, S. L. Staging Worker. (2006). Use of Hearing Protection Devices Application of the Trastheoretical Model. American Association of Occupational Health Nurse, 54(4), 165-172.
พงศ์เทพ วิวรรธนะเดช. (2560). ภาวะประสาทหูเสื่อมจากเสียง (Noise-Induced Hearing Loss). เข้าถึงเมื่อวันที่ 9 มกราคม 2560, จากhttp://www.med.cmu.ac.th/dept/commed/2015/images/files/pdf/322315/sound.pdf
พรพิมล กรองทิพย์. (2545). สุขศาสตร์อุตสาหกรรม. พิมพ์ครั้งที่ 2. กรุงเทพฯ: นำอักษรการพิมพ์.
ราชกิจจานุเบกษา. ประกาศกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการจัดทำโครงการอนุรักษ์การได้ยินในสถานประกอบกิจการ พ.ศ. 2553. (2560). เข้าถึงเมื่อวันที่ 9 มกราคม 2560, จาก http://www.summacheeva.org/index_share_law_hearing.htm
สมาคมการส่งเสริมความปลอดภัยและอนามัยในการทำงาน (ประเทศไทย). (2560). การตรวจวัดทางสุขศาสตร์อุตสาหกรรม. เข้าถึงเมื่อวันที่ 20 กันยายน 2560, จาก http://www.shawpat.or.th/index.php?option=com_content&view=article&id=486:-m-m-s&catid=47:-m---m-s&Itemid=201
สมาคมโรคจากการประกอบอาชีพและสิ่งแวดล้อมแห่งประเทศไทย. (2559). แนวทางการตรวจและแปลผลสมรรถภาพการได้ยินในงานอาชีวอนามัย. กรุงเทพมหานคร, สมาคมโรคจากการประกอบอาชีพและสิ่งแวดล้อมแห่งประเทศไทย และ กลุ่มศูนย์การแพทย์เฉพาะทางด้านอาชีวเวชศาสตร์และเวชศาสตร์สิ่งแวดล้อม โรงพยาบาลนพรัตน์ราชธานี กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข.
สาวิตรี ชัยรัตน์, อดุลย์ บัณฑุกุล, เพ็ญภัทรา ศรีไพบูลย์กิจ. (2556). ปัจจัยที่เกี่ยวข้องจากการเปลี่ยนระดับความสามารถในการได้ยินมาตรฐานในพนักงานบริษัทผลิตมอเตอร์คอมเพรสเซอร์. ธรรมศาสตร์เวชสาร, 13 (1), 59-70.
สุภาพร ธารเปี่ยม, ชวพรรณ จันทรประสิทธิ์และวันเพ็ญ ทรงคำ. (2550). สมรรถภาพการได้ยินและพฤติกรรมการป้องกันอันตรายจากเสียงในคนงานโรงงานผลิตน้ำตาลทราย. พยาบาลสาร, 34(4), 70-81.
ไอรฎา คงคาชัย. (2553). สมรรถภาพการได้ยินและพฤติกรรมการป้องกันอันตรายจากเสียงในคนงานโรงงานอุตสาหกรรมทอผ้า. (วิทยานิพนธ์พยาบาลศาสตร์มหาบัณฑิต สาขาวิชาการพยาบาลอาชีวอนามัย บัณฑิตวิทยาลัยมหาวิทยาลัยเชียงใหม่).
Downloads
เผยแพร่แล้ว
How to Cite
ฉบับ
บท
License
บทความทุกบทความที่ได้รับการตีพิมพ์ถือเป็นลิขสิทธิ์ของ วารสารสาธารณสุข