ผลของการให้ความรู้อย่างมีแบบแผน ต่อการระงับความปวดด้วยเครื่องควบคุมความปวดด้วยตัวเอง (Patient Controlled Analgesia: PCA) ในผู้ป่วยหลังผ่าตัดกระดูกสันหลัง โรงพยาบาลอุดรธานี

ผู้แต่ง

  • นันทกา เจียรกุล โรงพยาบาลอุดรธานี

คำสำคัญ:

ความรู้อย่างมีแบบแผน, การระงับความปวด, ความพึงพอใจ, เครื่องควบคุมความปวดด้วยตัวเอง

บทคัดย่อ

ที่มา ความเจ็บปวดเป็นภาวะหนึ่งที่ผู้ป่วยได้รับจากการผ่าตัดซึ่งไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ การระงับความปวดจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ผู้ป่วยต้องมีความรู้ในการบริหารจัดการความปวดด้วยตัวเอง การนำเครื่องควบคุมความปวดด้วยตัวเองมาใช้กับผู้ป่วยจึงต้องมีวิธีการให้ความรู้ที่เหมาะสมแก่ผู้ป่วย
วัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาเปรียบเทียบผลของการให้ความรู้ และความพึงพอใจต่อการระงับความปวดด้วยเครื่องควบคุมความปวดด้วยตัวเอง โดยมีรูปแบบการให้ความรู้แตกต่างกัน ได้แก่ การให้ความรู้อย่างมีแบบแผนและแบบปกติ เพื่อให้ได้แนวปฏิบัติที่ดีที่สุดในการระงับความปวดของผู้ป่วยได้อย่างมีประสิทธิภาพระเบียบวิธีวิจัย การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยกึ่งทดลองทำการเก็บข้อมูล 1 กันยายน – 30 พฤศจิกายน 2559 เลือกกลุ่มตัวอย่างแบบเฉพาะเจาะจง จำนวน 60 ราย แบ่งกลุ่มตัวอย่างออกเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มควบคุมและกลุ่มทดลอง กลุ่มละ 30 คน โดยกลุ่มทดลอง ให้ความรู้อย่างมีแบบแผนต่อการระงับความปวดด้วยเครื่องควบคุมความปวดด้วยตัวเอง และกลุ่มควบคุมให้ความรู้แบบปกติ วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติพรรณนาได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และเปรียบเทียบความแตกต่างของกลุ่มตัวอย่างด้วยสถิติวิเคราะห์ Independent t - test
ผลการศึกษา พบว่าคะแนนเฉลี่ยความปวดขณะพักของกลุ่มตัวอย่าง เมื่อครบเวลา 24, 48, 72 ชั่วโมง มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p < 0.001) และขณะขยับของกลุ่มตัวอย่างเมื่อครบเวลา 24, 48 ชั่วโมง มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p < 0.001) ส่วนคะแนนความปวดขณะขยับของกลุ่มตัวอย่างเมื่อครบเวลา 72 ชั่วโมงหลังผ่าตัด ไม่มีความแตกต่างกันทางสถิติ (p = 0.527) และเปรียบเทียบคะแนนเฉลี่ยความพึงพอใจต่อการระงับความปวดของกลุ่มตัวอย่างมีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p < 0.001)
สรุป การให้ความรู้อย่างมีแบบแผนต่อการระงับความปวดด้วยเครื่องควบคุมความปวดด้วยตัวเอง ช่วยให้ผู้ป่วยสามารถระงับความปวดหลังผ่าตัดได้เป็นอย่างดี ส่งผลให้เกิดความพึงพอใจต่องานบริการการระงับความปวด

References

1. ราชวิทยาลัยวิสัญญีแพทย์แห่งประเทศไทยร่วมกับสมาคมการศึกษาเรื่องความเจ็บปวดแห่งประเทศไทย. Clinical Guidance for Management of Acute Postoperative Pain .กรุงเทพฯ:สำนักหอสมุดแห่งชาติ;2554
2. Gordon,D.B.,Dahl, J.L., Miaskowski, C., McCarberg,B., Todd, K. H., Paice, J. A., et al. American Pain Society recommendations for improving the quality of acute and cancer pain management: American Pain Society quality of care task force. Archive of Internal Medicine 2005;165:1574-80.
3. Berry, P. H and Dahl, J . The new JCAHO pain standards: Implementations for pain management nurses. Pain Management Nursing 2000;1: 3-12.
4. Joshi, G. P. Pain management after ambulatory surgery. Ambulatory Surgery 1999;7:3-12.
5. Eisenach JC, Grise SC, Dewan DM. Patient controlled analgesia following cesarean section: a comparison with epidural and intramuscular narcotics. Anesthesiology 1989;68:444-8.
6. อรวรรณ ลือบุญธวัชชัย. การคิดอย่างมี วิจารณญาณ: การเรียนการสอนทางพยาบาลศาสตร์ กรุงเทพฯ: ธนาเพรสแอนกราฟฟิค; 2543
7. Wu CL, Cohen SR, Richman JM, Row lingson AJ,Courpas GE, Cheung K, et al. Efficacy of postoperative patient-controlled and continuous infusion epidural analgesia versus intravenous patient-controlled analgesia with opioids. Anesthesiology 2005;103 (5):1079-88.
8. รุ่งนภาดาบพลอ่อน.ผลของการจัดการความปวดโดยใช้เครื่องควบคุมความปวดด้วยตัวเอง (PCA) ในผู้ป่วยที่ได้รับยาระงับความรู้สึกแบบทั่วร่างกาย โรงพยาบาลสกลนคร.การค้นคว้าอิสระ.วารสารโรงพยาบาลสกลนคร;2558
9. จิราภี สุนทรกุล ณ ชลบุรี ,สุธีราจักรกุล เหลืองสุขเจริญ.การประเมินผลการจัดการความปวดเฉียบพลัน โรงพยาบาลรามาธิบดี.การค้นคว้าอิสระ.วารสารโรงพยาบาลรามาธิบดี;2552
10. ศิริลักษณ์ วรรณละเอียด.ประสิทธิผลการบริหารความปวดโดยใช้เครื่องควบคุมความปวดด้วยตัวเอง (PCA) ในผู้ป่วยคลอดที่ได้รับการระงับความรู้สึกแบบทั่วร่างกายโรงพยาบาลอุตรดิตถ์. การค้นคว้าอิสระ.วารสารโรงพยาบาลอุตรดิตถ์; 2556
11. รัฐพล แสงรุ้ง, อนรรฆพร น้อมนุชและศิริพร เป้าเพชร.ประสิทธิผลของการให้ยาระงับปวดทางหลอดเลือดดำโดยผู้ป่วยควบคุมการให้ยาด้วยตนเองหลังการผ่าตัด .การค้นคว้าอิสระ. พุทธชินราชเวชสาร:2555

Downloads

เผยแพร่แล้ว

2018-12-04