Knowledge of Antibiotic Drugs and Self-Care Behaviors of Patient in Thungfon Hospital: A Cross-sectional Study
Keywords:
Knowledge, Self-Care Behaviors, Antibiotic Drugs, Upper Respiratory Tract Infection, Acute Diarrhea, Fresh Traumatic WoundAbstract
This cross-sectional descriptive study aimed to determine the knowledge of antibiotic drugs and self-care behaviors of upper respiratory tract infection, acute diarrhea and fresh traumatic wound, investigated factors related to the level of knowledge, the level of behaviors and tested knowledge after learning experiment among patient in Thungfon hospital. The sample were 400 people who over 18 years old that walked in Thungfon hospital during January to August 2020. While the tool is questionnaires that consisted of personal information, knowledge of antibiotic drugs and self-care behaviors as 3 diseases. Data were analyzed by descriptive statistic, chi-square were used to test the relationship between characteristics and knowledge and self-care behaviors and compared mean score of knowledge before and after experiment by paired sample t-test.
The results were shown that majority of respondents were female (59.5%), ages between 41-50 years old (26.3%). The moderate on the knowledge (x̄=7.77 SD 2.87) was found. The moderate score of behaviors aspect were also found (x̄=27.4 SD 3.54). In addition occupation, education level, health service scheme and income level were significantly associated with the level of knowledge (p < 0.05). Factors which significantly related to behaviors were gender, age group, education level and health service scheme (p < 0.05). After learning experiment the mean score of knowledge was higher than before with statistical significant at p < 0.001. So we could empower the sample through knowledge to affected the appropriate antibiotic drugs use and self-care behaviors.
This research could be more study for self-care behaviors after learning experiment which have to take time or increase knowledge and improve self-care behaviors in long term.
References
2. กระทรวงสาธารณสุข.คนไทยกินยาปีละ4.7หมื่นล.เม็ดสธ.เร่งรณรงค์ให้ดูแลสุขภาพแทน.[อินเทอร์เนต]. 2555 [เข้าถึงเมื่อ 12 กันยายน 2562]. เข้าถึงได้จาก: http://www.thairath.co.th/content/245442
3. แผนงานสร้างกลไกเฝ้าระวังระบบยา. รายงานสถานการณ์ระบบยาประจำปี. [ม.ป.ท.]; 2552.
4. สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา. ใช้ยาปฏิชีวนะสมเหตุสมผล ลดปัญหาเชื้อดื้อยา. [อินเทอร์เน็ต]. 2560 [เข้าถึงเมื่อ 12 กันยายน 2562]. เข้าถึงได้จาก: https://www.hfocus.org/content/2017/11/14839
5. แผนงานศูนย์วิชาการเฝ้าระวังและพัฒนาระบบยา.ปักหมุดหยุดเชื้อดื้อยา. ยาวิพากษ์ 2560; 9: 9-10.
6. นิธิมา สุ่มประดิษฐ์, ศิริตรี สุทธจิตต์, สิตานันท์ พูลผลทรัพย์, รุ่งทิพย์ ชวนชื่น, ภูษิต ประคองสาย.ภูมิทัศน์ของสถานการณ์และการจัดการการดื้อยาต้านจุลชีพในประเทศไทย. กรุงเทพฯ: อักษรกราฟฟิกแอนด์ดีไซน์; 2558.
7. ศูนย์เฝ้าระวังความปลอดภัยด้านผลิตภัณฑ์สุขภาพ. ผลงานประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2561 [อินเทอร์เนต]. 2561 [เข้าถึงเมื่อ 12 กันยายน 2562]. เข้าถึงได้จาก: http://thaihpvc.fda.moph.go.th/thaihvc/Public/News/uploads/hpvc_3_23_0_100808.pdf
8. นิธิมา สุ่มประดิษฐ์, กัญญดา อนุวงศ์, พิสนธิ์ จงตระกูล, เขมวดี ขนาบแก้ว, สมหญิง พุ่มทอง. ผลของโครงการใช้ยาปฏิชีวนะอย่างสมเหตุผล: การนำร่องที่จังหวัดสระบุรี. วิชาการสาธารณสุข 2553; 19: 899-911.
9. Cochran, W. G. Sampling Techniques. New York: John Wiley & Sons; 1953.
10. Munro, B. H. Statistical Methods for Health Care Research. 3rd ed. Philadelphia: Lippincot; 2001.
11. กัญญดา อนุวงศ์, สมหญิง พุ่มทอง, พัชรี ดวงจันทร์. ผลสัมฤทธิ์ของการส่งเสริมการใช้ยาอย่างสมเหตุผล (Antibiotics Smart Use) ผ่านกระบวนการมีส่วนร่วมของภาคีเครือข่าย. กรุงเทพฯ: แผนงานพัฒนากลไกเฝ้าระวังระบบยา; 2554.
12. Best, J. W. Research in Education. 3rd ed. New Jersey: Prentice hall; 1977.
13. สุวัฒน์ ปริสุทธิวุฒิพร, มัณฑนา เหมชะญาติ. ปัจจัยที่มีผลต่อพฤติกรรมการใช้ยาปฏิชีวนะของผู้รับบริการในโรงพยาบาลขลุง จังหวัดจันทบุรี. ศูนย์แพทยศาสตรศึกษาชั้นคลินิก โรงพยาบาลพระปกเกล้า 2557; 31: 114-127.
14. อรอุมา อินทนงลักษณ์. พฤติกรรมการใช้ยาปฏิชีวนะของประชาชนตำบลเวียง อำเภอเมือง จังหวัดพะเยา [การค้นคว้าอิสระ]. พะเยา: มหาวิทยาลัยพะเยา; 2556.
15. ชมพูนุท เสียงแจ้ว, คชาพล นิ่มเดช, นาฏยา สุวรรณ, พุทธชาติ มากชุมนุม, วิโรจน์ ทองฉิม, ณัฐนันท์ เพชรประดิษฐ์. การสำรวจการใช้ยาปฏิชีวนะและผลิตภัณฑ์สุขภาพที่ผสมสเตียรอยด์ในผู้สูงอายุ.วิทยาศาสตร์การแพทย์เขต11 2562; 33: 231-242.
16. จิรชัย มงคลชัยภักดิ์, จิรวัฒน์ รวมสุข, เอมอร ชัยประทีป. ความรู้และพฤติกรรมการใช้ยาปฏิชีวนะของผู้รับบริการในร้านยาชุมชนจังหวัดปทุมธานี. วิชาการมหาวิทยาลัยอีสเทิร์นเอเชีย 2555; 6: 91-100.
17. มาริสา ประทุมมา. การศึกษาพฤติกรรมการดูแลตนเองของผู้สูงอายุในเขตรับผิดชอบของโรงพยาบาลหลวงพ่อเปิ่นบนพื้นฐานของปัจจัยส่วนบุคคลและการสนับสนุนทางสังคมของบุคคลในครอบครัว[วิทยานิพนธ์]. นครปฐม: มหาวิทยาลัยศิลปากร; 2554.
18. พัชร์สณธิ์ อ่วมเกิด, จีราภรณ์ กรรมบุตร, วนลดา ทองใบ.ปัจจัยทำนายพฤติกรรมการใช้ยาปฏิชีวนะของอสม.ในจังหวัดปทุมธานี. พยาบาลทหารบก 2561; 20: 101-109.
19. ศรีกัญญา ชุณหวิกสิต. พฤติกรรมการใช้ยาปฏิชีวนะในผู้ป่วยโรคติดเชื้อทางเดินหายใจส่วนบนในศูนย์บริการสุขภาพชุมชนตลาดดอนนก เครือข่ายรพ.สุราษฎร์ธานี. วิชาการแพทย์เขต 11 2561; 32: 783-790.
20. อรรัตน์ หวั่งประดิษฐ, รวีวรรณ ช่วยบำรุง, กรกฏ สินประจักษ์ผล, วนิดา ประเสริฐ. ผลการจัดชุดกิจกรรมการให้ความรู้เรื่องยาต่อความรู้และพฤติกรรมการใช้ยาของอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน. สาธารณสุขมหาวิทยาลัยบูรพา 2558; 10: 87-95.
21. อัจฉรา มีดวง, ฐาปนีย์ นนท์สะเกษ, กิตติพร รัชตเวชกุล, สมศักดิ์ อาภาศรีทองกุล, ชนัตถา พลอยเลื่อมแสง. ผลของการให้ความรู้เรื่องยาปฏิชีวนะโดยวิธีการบอกเล่า สื่อสิ่งพิมพ์ และสื่อพื้นบ้านแก่ประชาชนบ้านหนองแต้ จังหวัดมหาสารคาม. เภสัชศาสตร์อีสาน 2556; 1: 38.
Downloads
Published
How to Cite
Issue
Section
License
การละเมิดลิขสิทธิ์ถือเป็นความรับผิดชอบของผู้ส่งบทความโดยตรง
ผลงานที่ได้รับการตีพิมพ์ถือเป็นลิขสิทธิ์ของผู้นิพนธ์ ขอสงวนสิทธิ์มิให้นำเนื้อหา ทัศนะ หรือข้อคิดเห็นใด ๆ ของบทความในวารสารไปเผยแพร่ทางการค้าก่อนได้รับอนุญาตจากกองบรรณาธิการ อย่างเป็นลายลักษณ์อักษร