ความสัมพันธ์ระหว่างการรับรู้กับพฤติกรรมการออกกำลังกายของประชาชนวัยทำงาน จังหวัดนครศรีธรรมราช

บทคัดย่อ

การศึกษานี้เป็นวิจัยแบบภาคตัดขวาง มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาการรับรู้และพฤติกรรมการออกกำลังกาย และ 2) ศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างการรับรู้กับพฤติกรรมการออกกำลังกายของประชาชนวัยทำงานกลุ่มตัวอย่าง คือ ประชาชนวัยทำงานจังหวัดนครศรีธรรมราช จำนวน 384 คน สุ่มกลุ่มตัวอย่างแบบหลายขั้นตอน เครื่องมือที่ใช้เป็นแบบสอบถามที่ผู้วิจัยสร้างขึ้นเองตามกรอบแนวคิดและการทบทวนวรรณกรรมที่เกี่ยวข้อง โดยมีค่าสัมประสิทธิ์อัลฟาครอนบาช เท่ากับ 0.827 และวิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติเชิงพรรณนา และสถิติ Spearman’s rank correlation test ผลการวิจัยพบว่า การรับรู้ประโยชน์ การรับรู้อุปสรรค และการรับรู้อารมณ์อยู่ในระดับสูง ส่วนการรับรู้ความสามารถของตนเอง การรับรู้อิทธิพลระหว่างบุคคล และการรับรู้อิทธิพลสถานการณ์อยู่ในระดับปานกลางพฤติกรรมการออกกำลังกายอยู่ในระดับปานกลาง ส่วนความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการออกกำลังกาย พบว่า การรับรู้ความสามารถของตนเองการรับรู้อิทธิพลระหว่างบุคคล การรับรู้อารมณ์ที่เกี่ยวข้อง การรับรู้อิทธิพลจากสถานการณ์ การรับรู้ประโยชน์ และการรับรู้อุปสรรค มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการออกกำลังกาย อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (r = 0.729, 0.553, 0.514, 0.374, 0.374, 0.186) ตามลำดับ ฉะนั้นควรส่งเสริมให้ชุมชนจัดกิจกรรมการออกกำลังกาย โดยสนับสนุนให้ประชาชนเป็นแกนนำในการออกกำลังกาย เพราะสามารถที่จะออกกำลังกายได้ตามช่วงเวลาที่เหมาะสมตามบริบทของชุมชน