สถานการณ์การติดเชื้อ แนวโน้มของยาต้านจุลชีพที่ไวต่อเชื้อ และแนวทางในการดูแล ผู้ป่วยติดเชื้อดื้อยาสำหรับบุคลากรทางการพยาบาล โรงพยาบาลสิเกา จังหวัดตรัง
คำสำคัญ:
thaiบทคัดย่อ
การวิจัยแบบผสมผสานนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาสถานการณ์การติดเชื้อ แนวโน้มของยาต้านจุลชีพที่ไวต่อเชื้อของผู้ป่วยที่ได้รับการรักษาและปัญหา อุปสรรค แนวทางในการดูแลผู้ป่วยติดเชื้อดื้อยาของบุคลากร 2) เพื่อพัฒนาแนวทางในการดูแลผู้ป่วยติดเชื้อดื้อยาของบุคลากรทางการพยาบาล และ 3) เพื่อประเมินผลพัฒนาแนวทางในการดูแลผู้ป่วยติดเชื้อดื้อยาของบุคลากรทางการพยาบาล โรงพยาบาลสิเกา จังหวัดตรัง กลุ่มตัวอย่างคือ เจ้าหน้าที่ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการดูแลรักษาพยาบาลผู้ป่วยติดเชื้อดื้อยา จำนวน 40 คน และรายงานผลทางห้องปฏิบัติการที่ส่งตรวจจากเวชระเบียนผู้ป่วย จำนวน 239 ราย เก็บรวบรวมข้อมูลโดยใช้แบบสอบถาม แบบสัมภาษณ์เชิงลึก แบบประเมินความคิดเห็น แบบประเมินการปฏิบัติ วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติความถี่ ร้อยละ ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การทดสอบไคสแควร์ และการวิเคราะห์เชิงเนื้อหา
ผลการวิจัย พบว่า 1) กลุ่มตัวอย่างผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลสิเกาปี พ.ศ. 2560 – 2563 ส่วนใหญ่ อายุมากกว่า 60 ปี พบเชื้อก่อโรคในปัสสาวะและเลือดในปี พ.ศ. 2563 สูงสุด ร้อยละ 52.57 และ 21.65 ตามลำดับ เชื้อที่เป็นสาเหตุการติดเชื้อ 5 ลำดับแรก ได้แก่ E.coli, S.aureus, K.pneumoniae, P.aeruginosa และ E.faecalis, (ร้อยละ 18.08, 8.19,7.17,6.48 และ 5.12, 4.10 ตามลำดับ) พบเชื้อดื้อยา E.coli-ESBL สูงสุด ร้อยละ 3.41 และเชื้อดื้อยาหลายขนาน ร้อยละ 4.44 และพบว่าความไวของเชื้อ E.coli
ต่อยาต้านจุลชีพกลุ่ม Ceftriazone ที่ใช้มากที่สุด ลดลงจากร้อยละ 75 เป็นร้อยละมทรี่ 41.7 ปัญหาอุปสรรค ได้แก่ (1) ด้านนโยบายที่สื่อสารลงสู่ผู้ปฏิบัติไม่ชัดเจน (2) อัตรากำลังไม่เพียงพอ (3) ขาดงบประมาณในการดำเนินงานจัดการในการแบ่งโซนแยกผู้ป่วย (4) เจ้าหน้าที่ไม่เห็นความสำคัญของผลกระทบที่เกิดขึ้น (5) สถานที่ไม่มีห้องแยกตรวจผู้ป่วยชัดเจน (6) ผลการเพาะเชื้อ ผลทดสอบความไวของยาต้านจุลชีพล่าช้า และ (7) การสื่อสารข้อมูลให้ทีมสหวิชาชีพที่ดูแลผู้ป่วยยังไม่ครอบคลุมในทุกมิติ 2) แนวทางการดูแลผู้ป่วยติดเชื้อดื้อยาสำหรับบุคลากรทางการพยาบาลของโรงพยาบาลสิเกาที่พัฒนาขึ้นมา ประกอบด้วย 3 องค์ประกอบหลัก ได้แก่ (1) การประเมินความเสี่ยงผู้ป่วยติดเชื้อดื้อยา (2) การป้องกันการแพร่เชื้อดื้อยาหรือชะลอการเกิดเชื้อดื้อยา และ (3) การควบคุมไม่ให้เชื้อดื้อยาแพร่กระจาย และ 3) ผลการใช้แนวปฏิบัติที่พัฒนาในการดูแลผู้ป่วยติดเชื้อดื้อยาสำหรับบุคลากรทางการพยาบาล พบว่า การปฏิบัติการดูแลผู้ป่วยดื้อยาอยู่ในระดับดี ร้อยละ 95.37
ความพึงพอใจของบุคลากรต่อแนวทางใหม่นี้โดยรวมอยู่ในระดับพึงพอใจมาก ร้อยละ 88.8 และพบว่าคะแนนทักษะการปฏิบัติการดูแลผู้ป่วยดื้อยา และคะแนนความพึงพอใจต่อการใช้แนวปฏิบัติอยู่ในระดับพึงพอใจมาก
ข้อเสนอแนะ ทีมคณะกรรมการป้องกันและควบคุมการติดเชื้อในโรงพยาบาลควรสนับสนุนวางการระบบเฝ้าระวังการติดเชื้อดื้อยา ติดตามสถานการณ์การติดเชื้อ และผลความไวต่อยาต้านจุลชีพ
References
กมลวิช เลาประสพวัฒนา. (2556). โรคติดเชื้อในโรงพยาบาล.สงขลา :ชาญเมืองการพิมพ์
กำธร มาลาธรรม,วีรวัฒน์ มโนสุทธิ และคณะ.(2562).การป้องกันการติดเชื้อดื้อยาต้านจุลชีพใน
โรงพยาบาล:สำนักพิมพ์อักษรกราฟฟิคแอนดีไซน์
ฉัตรชัย รอดกระต่าย และฉันทนา กิ่มเทิ้ง. (2558). ความชุกของเชื้อแบคทีเรียดื้อยาต้านจุลชีพใน
โรงพยาบาลอุทัยธานี.ปริญญานิพนธ์ (เทคนิคการแพทย์ )คณะเทคนิคการแพทย์
มหาวิทยาลัยขอนแก่น
ชุติมาภรณ์ ไชยสงค์, พริยา ติยาภักดิ์, และคณะ. (2561). ความสัมพันธ์ของปริมาณการใช้ยาปฏิชีวนะ
และการดื้อยาปฏิชีวนะในโรงพยาบาลมหาสารคาม วารสารเภสัชอีสาน ปีที่ 15 ฉบับที่ 2 เม.ย.-มิ.ย.
นิธิมา สุ่มประดิษฐ์, ศิริตรี สุทธจิตต์, และคณะ. (2558). ภูมิทัศน์ ของสถานการณ์และการจดัการการดื้อ
ยาต้านจลุชีพในประเทศไทย :สำนักพิมพ์อักษรกราฟฟิก
บุญญรัตน์ รัตนประภา.(2562).การพัฒนาระบบการป้องกันและควบคุมการแพร่กระจายเชื้อดื้อยาควบคุม
พิเศษโรงพยาบาลศรีสังวรสุโขทัย สืบค้นจาก http://203.157.71.172/academic/web/site/
proceeding?event_id=1&page=research (2 ก.พ.64)
ปิยะดา ไทยราช. (2561). สถานการณ์เชื้อก่อโรคที่พบบอยู่และแนวโน้มอุบัติการณ์การดื้อต่อยาปฏิชีวนะ
ของเชื้อก่อโรคแต่ละชนิด ในผู้ป่วยเด็กโรงพยาบาลสิชล จังหวัด นครศรีธรรมราช วารสารวิชาการ
แพทย์เขต 11 ปี ที่32 ฉบับที่ 3 ก.ค.-ก.ย.2561.
ประจวบ ทองเจริญ, วันชัย มุ้งตุ้ยและอะเคื้อ อุณหเลขกะ. (2558). ผลการใช้กลวิธีหลากหลายต่อการ
ปฏิบัติของบุคลากรสุขภาพในการป้องกันการติดเชื้อแบคทีเรียดื้อยาหลายขนาน. สืบค้นจาก
https://www.tci-thaijo.org (2 กุมภาพันธ์2564).
พัชรินทร ญาติรักษ.์(2559). สถานการณ์การติดเชื้อแบคทีเรียในกระแสเลือด (Bacterimia).
วารสารวิชาการแพทย์ เขต 11 ปี ที่ 30 ฉบับที่ 1 ม.ค. - มี.ค. 2556
วรรษมน จันทรเบญจกุล , สุวพร อนุกูลเรืองกิตติ์ และคณะ. (2562). drug –resistant organisms in
pediatrics : diagnosis and treatment : กรุงเทพฯ แอคทีฟ พริ้นท์
สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์การแพทย์. (2560). คู่มือมาตรฐานห้องปฏิบัติการจุลชีววิทยาทางการแพทย์และ
สาธารณสุข.กรุงเทพฯ : บริษัท เท็กซ์แอนด์เจอร์นัล พับลิเคชั่น จำกัด
สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย และอภิชาต วัชรพันธุ์. (2563). แนวปฏิบัติเพื่อป้องกันและควบคุมการติด
เชื้อในโรงพยาบาล.กรุงเทพฯ : อักษรกราฟฟิกแอนด์ดีไซน์
วัลลภา ช่างเจรจา.(2560). ผลการพัฒนาแนวปฏิบัติต่ออัตราการติดเชื้อดื้อยาที่ต้องควบคุมเป็นกรณี
พิเศษโรงพยาบาลบึงกาฬ. สืบค้นจาก https://www.bkh.moph.go.th.(2 กุมภาพันธ์2564).
วิไลลักษณ์ วงศ์จุลชาติ.การใช้กลวิธีหลากหลายเพื่อส่งเสริมการปฏิบัติตามแนวทางป้องกันและควบคุมการ
แพร่กระจายเชื้อดื้อยา ในโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต วารสารวิชาการแพทย์เขต 11 ปีที่ 31 ฉบับที่ 3
ก.ค.- ก.ย. 2560
อะเคื้อ อุณหเลขกะ, สุชาดา เหลืองอาภาพงศ์ และจิตตาภรณ์ จิตรีเชื้อ.(2557).การพัฒนาแนวปฏิบัติใน
การป้องกันการแพร่กระจายเชื้อและการติดเชื้อดื้อยาที่เหมาะสมที่หออภิบาลผู้ป่วยของโรงพยาบาล
ระดับทุติภูมิและตติยภูมิ คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
Akhe Unhalaka, Suchada Luangapapong and Chittaporn Chitrisaeng (2014).Developing appropriate drug-resistant infection prevention practices at hospital patients' pastoral Secondary and tertiary levels Faculty of Nursing, Chiang Mai University
Downloads
เผยแพร่แล้ว
How to Cite
ฉบับ
บท
License
Copyright (c) 2023 วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี นครศรีธรรมราช
This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของ วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี นครศรีธรรมราช
ข้อความที่ปรากฏในบทความแต่ละเรื่องในวารสารวิชาการเล่มนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนแต่ละท่านไม่เกี่ยวข้องกับวิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี นครศรีธรรมราช และบุคคลากรท่านอื่น ๆ ในวิทยาลัยฯ แต่อย่างใด ความรับผิดชอบองค์ประกอบทั้งหมดของบทความแต่ละเรื่องเป็นของผู้เขียนแต่ละท่าน หากมีความผิดพลาดใดๆ ผู้เขียนแต่ละท่านจะรับผิดชอบบทความของตนเองแต่ผู้เดียว