รูปแบบการสอนตามแนวคิดการเรียนรู้ระหว่างวัยเพื่อถ่ายทอดภูมิปัญญาท้องถิ่น: การทบทวนวรรณกรรมอย่างเป็นระบบ
คำสำคัญ:
ศิลปศึกษา, รูปแบบการสอน, การเรียนรู้ระหว่างวัย, ภูมิปัญญาท้องถิ่น, การทบทวนอย่างเป็นระบบบทคัดย่อ
การศึกษาครั้งนี้เป็นการวิเคราะห์และสังเคราะห์องค์ความรู้จากบทความวิจัยทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศเกี่ยวกับรูปแบบการสอนตามแนวคิดการเรียนรู้ระหว่างวัยเพื่อถ่ายทอดภูมิปัญญาท้องถิ่น โดยอาศัยกระบวนการทบทวนงานวิจัยอย่างเป็นระบบ ประกอบด้วย 7 ขั้นตอน ได้แก่ 1) กำหนดหัวข้อ 2) กำหนดวัตถุประสงค์ 3) กำหนดเกณฑ์การคัดเลือก 4) กำหนดวิธีการสืบค้นเอกสาร 5) การประเมินคุณภาพ
6) วิเคราะห์และสังเคราะห์ความรู้ และ 7) นำเสนอผล มีเกณฑ์ในการคัดเลือกดังนี้ 1) บทความวิจัยที่ศึกษารูปแบบการสอนตามแนวคิดการเรียนรู้ระหว่างวัยร่วมกับภูมิปัญญาท้องถิ่นจากฐานข้อมูลของในประเทศและต่างประเทศ 2) บทความวิจัยที่ตีพิมพ์ในระยะเวลา 5 ปี นับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2561 ถึง พ.ศ. 2565 และ3) บทความวิจัยเกี่ยวข้องกับรูปแบบการสอนตามแนวคิดการเรียนรู้ระหว่างวัยร่วมกับภูมิปัญญาท้องถิ่นเท่านั้น ผลการคัดกรองตามเกณฑ์ที่กำหนด พบว่า 1) มีการจัดกิจกรรมภูมิปัญญาท้องถิ่นโดยชุมชนหรือหน่วยงานอื่นมากกว่าสถานศึกษา 2) องค์ประกอบหลักในการจัดกิจกรรม มี 3 องค์ประกอบ คือ 2.1 การสานสัมพันธ์ระหว่างเด็กและผู้สูงอายุ 2.2 การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างเด็กและผู้สูงอายุ และ 2.3 การสร้างความภาคภูมิใจร่วมกัน 3) สื่อการสอนที่ใช้มีความหลากหลาย และ 4) การวัดและประเมินผลมีความหลากหลายขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ของแต่ละโครงการ จากการทบทวนวรรณกรรมอย่างเป็นระบบจึงเสนอแนะให้มีการพัฒนากิจกรรมตามแนวคิดการเรียนรู้ระหว่างวัยเพื่อถ่ายทอดภูมิปัญญาท้องถิ่นในสถานศึกษาเพิ่มขึ้น โดยนอกจากเพื่อเรียนรู้และเห็นคุณค่าแล้วควรมีกิจกรรมที่สานความสัมพันธ์ มีพื้นที่แลกเปลี่ยนเรียนรู้ซึ่งกันและกันระหว่างเด็กและผู้สูงอายุ เพื่อเป็นการลดช่องว่างระหว่างวัยของผู้เรียนและปราชญ์ชาวบ้าน และเสริมสร้างให้เกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืน
เอกสารอ้างอิง
จุฑาเทพ จิตวิลัย และอาชัญญา รัตนอุบล. (2562). ผลการจัดกระบวนการการศึกษานอกระบบโรงเรียนโดยใช้ภูมิปัญญาพื้นบ้านเป็นฐานที่มีต่อความสัมพันธ์ระหว่างผู้สูงอายุและเยาวชน. วารสารอิเล็กทรอนิกส์ทางการศึกษา, 14(2), 1-12. https://so01.tci-thaijo.org/index.php/OJED/article/view/221363/152606
ชามาภัทร สิทธิอำนวย, พิณสุดา สิริธรังศรี และอุทัย บุญประเสริฐ. (2562). รูปแบบการส่งเสริมการจัดการเรียนรู้ระหว่างวัยของผู้สูงอายุและเด็กในสถานศึกษา. วารสารมหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม, 13(1), 275-285. https://so05.tci-thaijo.org/index.php/rmuj/article/view/249764
ชูศักดิ์ เอื้องโชคชัย. (2563). การพัฒนาต้นแบบกิจกรรมการเรียนรู้ร่วมกันแบบพหุวัยเพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ภูมิปัญญาท้องถิ่นสำหรับเด็กและเยาวชน. วารสารวิจัยราชภัฏเชียงใหม่, 21(3), 24-38. https://so05.tci-thaijo.org/index.php/cmruresearch/article/download/240637/168173/860657
ฐิติกาญจน์ อัศตรกุล. (2561). การเรียนรู้ร่วมกันระหว่างผู้สูงอายุและเด็ก: รูปแบบและผลลัพธ์ของหลักสูตร. วารสารศึกษาศาสตร์ มสธ, 11(1), 226-242.
https://so05.tci-thaijo.org/index.php/edjour_stou/article/download/131354/100830/356966
ฐิติกาญจน์ อัศตรกุล. (2564). กะเทาะเปลือกแนวคิดและแนวปฏิบัติ “การเรียนรู้ร่วมกันระหว่างวัย: ผู้สูงอายุและเด็กหรือเยาวชน” (พิมพ์ครั้งที่ 1). ภาพพิมพ์.
พัฒนภาณุ ทูลธรรม, ปริญญา หวันเหล็ม, สุเทพ คำเมฆ และพิกุล จิตมณี. (2563). การพัฒนาแนวทางการมีส่วนร่วมของผู้สูงอายุในการสืบสานภูมิปัญญาท้องถิ่นผ่านเรื่องเล่า : กรณีศึกษา ตำบลบ้านหนุน อำเภอสอง จังหวัดแพร่. วารสารวิทยาลัยสงฆ์นครลำปาง, 9(2), 78-90. https://so04.tci-thaijo.org/index.php/NBJ/article/view/251651/170934
อรวิภา มงคลดาว และอาชัญญา รัตนอุบล. (2565). แนวทางการส่งเสริมกระบวนการเรียนรู้ระหว่างวัยของปราชญ์ชุมชน เยาวชน และผู้สูงอายุ: กรณีศึกษาชุมชนผ้าไหมและผ้าฝ้ายทอมือ. วารสารศึกษาศาสตร์มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี, 33(1), 65-79. https://so02.tci-thaijo.org/index.php/edupsu/article/view/243384
อัมพร จงเสรีจิตต์ และนิคม มูลเมือง. (2556). การทบทวนอย่างเป็นระบบ(Systematic reviews). วารสารศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยแม่โจ้, 1(1), 87-105.
https://so03.tci-thaijo.org/index.php/liberalartsjournal/article/view/95513
Bostrum, A., Castellon, R., Gush, C., Hatton-Yeo, A., Klerq, J., Kort, N., Maintao, S., Newman, S., Ohsako, T., Sawano, Y. & Veelken, L. (2000). Intergenerational Programmes: Public Policy and Research Implications An International Perspective. https://unesdoc.unesco.org/ark:/48223/pf0000128018
Hausknecht, S., Freeman,S., Martin, J., Nash, C. & Skinner, K. (2021). Sharing Indigenous Knowledge through Intergenerational Digital Storytelling: Design of a Workshop Engaging Elders and Youth. Educational Gerontology, 47(7), 285-296. https://www.tandfonline.com/doi/full/10.1080/03601277.2021.1927484#d1e306
Heydon, R., Mckee, L., & Daly, B. (2016). iPads and paintbrushes: integrating digital media into an intergenerational art class. Language and Education, 31(4), 351-373. https://www.tandfonline.com/doi/abs/10.1080/09500782.2016.1276585
Pearson, A., Field, J., & Jordan, Z. (2007). Evidence-Based Clinical Practice in Nursing and Health Care : assimilating research, experience, and expertise. Blackwell Publishing Ltd.
Sajjasophon, R. (2019). The Intergenerational Learning Activities Based on Local Wisdom: Lesson Learned from Baan Huay Sapan Samakkee Community, Kanchanaburi Province. Naresuan University Journals, 12(3), 120-132. https://www.journal.nu.ac.th/JCDR/article/view/Vol-12-No-3-2019-120-132/1556
Ueangchokchai, C. (2022). Process of Local Wisdom Transfer to Promote Good Relationship between the Elderly and New Generations. Higher Education Studies, 12(2), 86-96. https://files.eric.ed.gov/fulltext/EJ1361270.pdf
Wang, N. (2023). A new model of intergenerational experiential art education: caring for vulnerable groups, inheriting cultural heritage and realizing social responsibility. Journal of Sociology and Ethnology, 5(10), 106-114. https://www.clausiuspress.com/assets/default/article/2023/11/21/article_1700624581.pdf
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 วารสารสังคมวิจัยและพัฒนา

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.