ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับความเครียดในการเรียนออนไลน์จากสถานการณ์โควิด-19 ของนักเรียนมัธยมศึกษาปีที่ 6 ในจังหวัดนครราชสีมา
Main Article Content
บทคัดย่อ
วัตถุประสงค์ : เพื่อศึกษาปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับความเครียดในการเรียนออนไลน์จากสถานการณ์โควิด-19 ของนักเรียนมัธยมศึกษาปีที่ 6 ในจังหวัดนครราชสีมา
วิธีการศึกษา : เป็นการวิจัยเชิงพรรณนาหาความสัมพันธ์ กลุ่มตัวอย่าง คือ นักเรียนมัธยมศึกษาปีที่ 6 จำนวน 290 คน โดยวิธีการสุ่มตัวอย่างอย่างง่าย เครื่องมือที่ใช้คือ แบบสอบถามออนไลน์ประกอบด้วย ปัจจัยส่วนบุคคล ปัจจัยสนับสนุน ความเครียดในการเรียนออนไลน์ และแบบวัดความเครียดของกรมสุขภาพจิต (SPST-20) วิเคราะห์ข้อมูลด้วยความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์แบบเพียร์สัน
ผลการศึกษา : ปัจจัยส่วนบุคคลด้านเพศ และด้านสถานภาพครอบครัวมีความสัมพันธ์กับระดับความเครียดในการเรียนออนไลน์ อย่างมีนัยสำคัญ ทางสถิติที่ระดับ .01 ปัจจัยสนับสนุนได้แก่ สิ่งแวดล้อมขณะเรียนออนไลน์จำแนกเป็น ด้านเสียง ด้านความร้อน และอุปสรรคของการสื่อสารออนไลน์จำแนกเป็น ความล่าช้าของการรับส่งข้อมูลและความเสถียรของคลื่นหรืออินเทอร์เน็ตของเครือข่าย มีความสัมพันธ์กับระดับความเครียดในการเรียนออนไลน์ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 นักเรียนส่วนมากมีความเครียดในระดับรุนแรง คิดเป็นร้อยละ 45.9
สรุป : สิ่งแวดล้อมขณะเรียนออนไลน์และอุปสรรคของการสื่อสารออนไลน์ มีความสัมพันธ์กับความเครียดในการเรียนออนไลน์
Article Details
This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์แล้ว เป็นลิขสิทธิ์ของสมาคมพยาบาลจิตเวชแห่งประเทศไทย
References
กรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข. (6 สิงหาคม 2564). แบบทดสอบด้านสุขภาพจิต. https://dmh.go.th/test/.
กรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข. (6 สิงหาคม 2564). ลดความตึงเครียดของเด็กเรียนออนไลน์. https://dmh.go.th/news-dmh/view.asp?id=30920.
กระทรวงศึกษาธิการ. (3 มกราคม 2565). ประกาศกระทรวงศึกษาธิการ. https://moe360.blog/2022/01/03/3-1-2565.
ชฎาภา ประเสริฐทรง, จรินวรรณ แสงหิรัญรัตนา, พรชนา กลัดแก้ว. (2564). ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับความเครียดในการเรียนออนไลน์จากสถานการณ์โควิด-19 ของนักศึกษาพยาบาล. วารสารสถาบันจิตเวชศาสตร์สมเด็จเจ้าพระยา, 13(1): 14-28.
ณัฐธัญญา ประสิทธิ์ศาสตร์. (2561). ผลของโปรแกรมเสริมสร้างแรงจูงใจภายในต่อทักษะการจัดการความเครียดของนักศึกษาพยาบาล [ปริญญามหาบัณฑิต, มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์]. http://ethesisarchive.library.tu.ac.th/thesis/2018/TU_2018_5814030101_8990_9626.pdf
ภัณฑิรา เตชบวรเกียรติ. (2561). ความเครียดด้านการเรียนของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยศรีนครินทร์วิโรฒ ปทุมวัน [การวิจัยรายบุคคล ปริญญาบัณฑิต, มหาวิทยาลัยศิลปากร].
ภูริทัต ศรมณี. (2561). การจัดการความเครียดอย่างเหมาะสมของนักศึกษาวิชาชีพครู คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร พระราชวังสนามจันทร์ [การวิจัยรายบุคคล ปริญญาบัณฑิต, มหาวิทยาลัยศิลปากร].
โรงเรียนสุรนารีวิทยา. (1 สิงหาคม 2564). ประกาศโรงเรียนสุรนารีวิทยา. https://www.srn.ac.th/index/web1/web/news/ 8s7A5DNkrVza.pdf.
Cronbach, L. J. (1974). Essentials of Psychology Test. (3rd ed.). Row Publishers.
Lazarus, R. S., & Folkman, S. (1984). Stress, appraisal, and coping. Springer publishing company.
Taro, Y. (1973). Statistics: An Introductory Analysis. (3rd Ed). Harper and Row Publications.
สุวัฒน์ มหัตนิรันดร์กุล และคณะ. (2540). การสร้างแบบวัดความเครียดสวนปรุง. วารสารสวนปรุง, 13, 1-20.
นิธิสนี รุจิรังสีเจริญ และคณะ. (2564). ปัจจัยที่สัมพันธ์กับระดับความเครียดของนักเรียนระดับมัธยมศึกษา สังกัดกรุงเทพมหานคร. วารสารสมาคมจิตแพทย์แห่งประเทศไทย, 66(1), 53-68
สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี. (7 มกราคม 2563). ผลประเมิน PISA 2018 : นักเรียนไทยวัย 15 ปี รู้และทำอะไรได้บ้าง . https://pisathailand.ipst.ac.th/issue-2019-48/
นิศากร โพธิมาศ. (2564). ความสัมพันธ์ระหว่างความเครียดในการเรียนออนไลน์ ความยืดหยุ่นทางอารมณ์และการเผชิญความเครียดของนิสิตพยาบาล ในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19, วารสารวิจัยสุขภาพและการพยาบาล, 37(3), 142-154.