ผลของการพัฒนารูปแบบทุนทางสังคมต่อภาวะซึมเศร้าและคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุที่อาศัยอยู่ตามลำพัง

Main Article Content

กนกอร ชาวเวียง
ขวัญชนก ยศคำลือ
อรวรรณ แผนคง
อุทัยทิพย์ จันทร์เพ็ญ
กนกพร แก้วโยธา

บทคัดย่อ

               วัตถุประสงค์ : เพื่อพัฒนาและศึกษาผลของรูปแบบทุนทางสังคมต่อภาวะซึมเศร้าและคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุที่อาศัยอยู่ตามลำพัง


               วิธีการศึกษา : เป็นการวิจัยกึ่งทดลอง แบบกลุ่มเดียววัดผลก่อนและหลังการทดลอง กลุ่มตัวอย่างคือผู้สูงอายุที่อาศัยอยู่ตามลำพังในจังหวัดสิงห์บุรี คัดเลือกพื้นที่ในการทำวิจัยระดับอำเภอ และระดับตำบลโดยการสุ่มหลายขั้นตอน ได้ 2 อำเภอ ๆ ละ 2 ตำบล จากนั้นทำการเลือกกลุ่มตัวอย่างแบบเฉพาะเจาะจง ตามคุณสมบัติที่กำหนดไว้จำนวน 31 คน  เครื่องมือรวบรวมข้อมูล ได้แก่ แบบสอบถามข้อมูลส่วนตัว แบบประเมินภาวะซึมเศร้า และแบบวัดคุณภาพชีวิต ทดสอบความเชื่อมั่นด้วยวิธีหาค่าสัมประสิทธิ์อัลฟ่าของครอนบาค เท่ากับ 0.70 และ 0.92 ตามลำดับ  และเครื่องมือดำเนินการวิจัย ได้แก่ โปรแกรมรูปแบบทุนทางสังคม ระยะเวลาในการทดลอง 12 สัปดาห์ สัปดาห์ละ 1 วัน วันละ 3 ชั่วโมง วิเคราะห์ข้อมูลส่วนบุคคลของกลุ่มตัวอย่าง โดยใช้สถิติเชิงพรรณนา ความถี่ ร้อยละ และเปรียบเทียบค่าเฉลี่ยคะแนนภาวะซึมเศร้าและค่าเฉลี่ยคะแนนคุณภาพชีวิตของกลุ่มตัวอย่างก่อนและหลังร่วมโปรแกรมด้วยสถิติทดสอบค่า paired t-test


               ผลการศึกษา : 1) ค่าเฉลี่ยคะแนนภาวะซึมเศร้าของกลุ่มตัวอย่าง หลังร่วมโปรแกรมรูปแบบทุนทางสังคม  (mean = 6.77, S.D. = 4.44) ต่ำกว่าก่อนเข้าร่วมโปรแกรม (mean = 13.94, S.D. = 3.89) อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 (t = 8.05, p < .05) 2) ค่าเฉลี่ยคะแนนคุณภาพชีวิตของกลุ่มตัวอย่าง หลังร่วมโปรแกรมรูปแบบทุนทางสังคม (mean = 104.12, S.D. = 6.81) สูงกว่าก่อนเข้าร่วมโปรแกรม (mean = 96.27, S.D. = 13.47) อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 (t = 3.37, p < .05)


               สรุป : โปรแกรมรูปแบบทุนทางสังคม ช่วยให้ผู้สูงอายุที่อาศัยอยู่ตามลำพังมีภาวะซึมเศร้าลดลงและมีคุณภาพชีวิตดีขึ้น ดังนั้น ควรสนับสนุนรูปแบบทุนทางสังคมนี้สำหรับผู้สูงอายุที่อาศัยอยู่ตามลำพังในชุมชน

Article Details

ประเภทบทความ
บทความวิจัย

เอกสารอ้างอิง

กรมกิจการผู้สูงอายุ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์. (2552). แผนและนโยบายผู้สูงอายุ. http://www.dop.go.th/th/laws/1/28/766

ชุติมา มาลัย, รุ่งทิพย์ ไชยโยยิ่งยงค์, เพ็ญนภา แดงด้อมยุทธ์, และศรีสกุล เฉียบแหลม.(2562). ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์ต่อภาวะซึมเศร้าของผู้สูงอายุในชุมชน จังหวัดราชบุรี. วารสารพยาบาลสงขลานครินทร์, 39(3), 67-76.

ไทย พับลิก้า. (2024). เมื่อไทยเข้าสู่สังคมสูงวัยอย่างสมบูรณ์ Aged Society ผู้สูงอายุไทยได้รับสวัสดิการอะไรบ้าง. https://thaipublica.org/2024/02/ thailand-becomes-aged-society/

นิพนธ์ พวงวรินทร์และคณะ. (2536). แบบทดสอบสมรรถภาพสมองของไทย. สารศิริราช, 45(6), 359-374.

นิพนธ์ พวงวรินทร์และคณะ. (2537). แบบวัดความเศร้าในผู้สูงอายุของไทย [Thai geriatric depression scale: TGDS]. สารศิริราช, 46(1), 1-9.

เวธกา กลิ่นวิชิต, และ พิสิษฐ์ พิริยาพรรณ. (2561). การวิจัยเชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วมของชุมชนในการพัฒนาคุณภาพชีวิต แบบพอเพียงของผู้สูงวัยไทยในภาคตะวันออก. วารสารวิชาการ ปขมท, 9(1), 80-93.

ศูนย์ความรู้เรื่องโรคซึมเศร้าไทย กระทรวงสาธารณสุข. (2566). รายงานการเข้าถึงบริการของผู้ป่วยซึมเศร้า ปีงบประมาณ2566. https://www.thaidepression.com/www/report/main_ report/.

สายฝน เอกวรางกูร. (2564). ศาสตร์และศิลป์การบำบัดดูแลผู้สูงอายุที่มีภาวะซึมเศร้า. กรุงเทพฯ : สำนักพิมพ์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

สุทธิชัย จิตะพันธ์กุล. (2544). หลักสำคัญของเวชศาสตร์ผู้สูงอายุ. (พิมพ์ครั้งที่ 3). กรุงเทพฯ: ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

สุวัฒน์ มหัตนิรันดร์กุล, วิระวรรณ ตันติพิวัฒนสกุล, วนิดา พุ่มไพศาลชัย, กรองจิตต์ วงศ์สุวรรณ, และ ราณี พรมานะจิรังกุล. (2541). เปรียบเทียบแบบวัดคุณภาพชีวิตขององค์การอนามัยโลกชุด 100 ตัวชี้วัด และ 26 ตัวชี้วัด.วารสารสุขภาพจิตแห่งประเทศไทย, 5(3), 4-15.

สำนักงานสถิติแห่งชาติ กระทรวงดิจิตอลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม. (2560). รายงานการสำรวจประชากรสงอายุในประเทศไทย พ.ศ. 2559. 20230501001130_41503.pdf

อุมาพร เคนศิลา, เกษฎาภรณ์ นาขะมิน, นิตยากร ลุนพรหม, เสาวลักษณ์ ทาแจ้ง, ณัฐฐากุล บึงมุม, และ นภาจันทร์ ชาปลิก. (2563). การสนับสนุนทางสังคมและภาวะซึมเศร้าของผู้สูงอายุ ในเขตชุมชนเมือง จังหวัดอุดรธานี, วารสารการพัฒนาสุขภาพชุมชน มหาวิทยาลัยขอนแก่น, 8(3), 377-388.

Bai, Z., Wang, Z., Shao, T., Qin, X., & Hu, Z. (2021). Association between social capital and loneliness among older adults: A cross-sectional study in Anhui Province, China. BMC Geriatrics, 21(26), 1-10.

Coll-Planas, L. (2016). Promoting social capital in an ageing society: a win-win proposition?. Gaceta Sanitaria, 30(5), 323-325.

Iamtrakul, P., & Chayphong, S. (2022). Exploring the Influencing Factors on Living Alone and Social Isolation among Older Adults in Rural Areas of Thailand. International Journal of Environmental Research and Public Health, 19(21), 14572.

Juntapim, S., & Theranut, A. (2023). Mental health status and factors related on mental health status of the older adults living alone; Working with Older People. Journal of Nursing Science & Health, 46(1), 114-127.

Lager, D., van Hoven, B., & Huigen, P. (2015). Understanding older adults’ social capital in place: Obstacles to and opportunities for social contacts in the neighbourhood. Geoforum, 59, 87-97.

Nuntaboot, K., Boonsawasdgulchai, P., & Bubpa, N. (2019). Roles of mutual help of local community networks in community health activities: Improvement for the quality of life of older people in Thailand. International Journal of Nursing Sciences, 6, 266 - 271.

Putnam, Robert D. (1993). Making Democracy Work: Civic Traditions in Modern Italy. Princeton: Princeton University Press.

Putnam, Robert D. (2000). Bowling alone: The collapse and revival of American community. Simon & Schuster.

Ryu, S. I., Cho, B., Chang, S. J., Ko, H., Yi, Y. M., Noh, E. Y., Cho, H. R., & Park, Y. H. (2021). Factors Related to Self-Confidence to Live Alone in Community-Dwelling Older Adults: A Cross-Sectional Study. BMC geriatrics, 21(1), 291.

World Health Organization. (2023). Mental health of older adults. https://www.who.int/news-room/fact-sheets/detail/ mental-health-of-older-adults

Zhu, H., He, L., Peng, J., Li, X., Gao, B., Zhou, H., & Wan, Y. (2022). Community social capital and the health-related quality of life among empty-nest elderly in western China: moderating effect of living arrangements. BMC Psychiatry, 22(685), 1-12.