Factors Influencing Preparedness among Pre-Elderly Population Living in Muang District, Suratthani Province
Keywords:
Preparedness, Preparedness/ Pre-elderly/ Family factors, Family factorsAbstract
This research aimed to study the pre-elderly population’s preparedness in Mueang district, Surat Thani province. Samples were 376 persons who were selected through the simple random sampling method. Instrument was a questionnaire on sociodemographic information, family factors, and preparation of the pre-elderly population. The data collection was conducted during August and October 2020. The data analysis was done using frequencies, percentages for descriptive information and binary logistic regression using enter method for analyzing factors affecting the pre-elderly population’s preparedness.
Results revealed that most of the samples was female (72.4%), aged between 30-44 years old (52.4%), and earned more than 10,000 Baht per month (98.9%). Regarding preparedness, it was found that the sample had preparedness (94.4%) but this study found that the samples who had preparedness also had family debts (91.8%) while those who are not prepared also had family debts (90.5%) as well. When analyzing factors influencing preparedness, it was found that sociodemographic factors had significant influences to pre-elderly population’s preparedness (p<0.05), especially diseases, annual medical check-ups, educational levels, and marital status. Family factors also had significant influences to pre-elderly population’s preparedness (p<0.05), especially family income, number of family members, and period of living in the community. It is recommended that stakeholders should have guidelines to encourage preparedness before aging especially among persons aged 15-29 years with family debts to be able to prepare for aging.
References
สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ. แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 12 (พ.ศ. 2560 - 2564). กรุงเทพฯ: 2562.
กลุ่มงานพัฒนายุทธศาสตร์สาธารณสุข กระทรวงสาธารณสุข. ร้อยละของผู้สูงอายุที่มีภาวะพึ่งพิงได้รับการดูแลตาม care plan [อินเตอร์เน็ต]. 2564 [เข้าถึงเมื่อ 2564 ตุลาคม 10]. เข้าถึงได้จาก: http://healthkpi.moph.go.th/kpi2/kpi/index/?id=1392
พรทิพย์ สารีโส. สถานการณ์ปัญหาสุขภาพและความต้องการการดูแลผู้สูงอายุที่ป่วยเรื้อรัง. วารสารพยาบาลศาสตร์และสุขภาพ 2560;40(2):85-95.
ปิยะภร ไพรสนธิ์. ประสิทธิผลของรูปแบบการดูแลผู้ป่วยสูงอายุที่ต้องพึ่งพิง. วารสารพยาบาลศาสตร์และสุขภาพ 2560;40(4):60-71.
สำนักงานสถิติแห่งชาติ. สถิติประชากรศาสตร์ประชากรและเคหะ. [อินเตอร์เน็ต]. 2561 [เข้าถึงเมื่อ 2563 ธันวาคม 1]. เข้าถึงได้จาก: http://statbbi.nso.go.th/staticreport/page/sector/th/01.aspx
กองกิจกรรมทางกายเพื่อสุขภาพ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข. รอบรู้สุขภาพวัยทำงาน. [อินเตอร์เน็ต]. 2562 [เข้าถึงเมื่อ 2564 กันยายน 1]. เข้าถึงได้จาก: https://dopah.anamai.moph.go.th/th/e-book/3420#wow-book/
ชัยวัฒน์ อ่อนไธสง. การเตรียมความพร้อมเพื่อเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุของประชากรในเขตอำเภอเมือง จังหวัดสุรินทร์. วารสารการพยาบาลและการดูแลสุขภาพ 2563;38(2):53-62.
Amarya S, Singh K, Sabharwal M. Ageing Process and Physiological Changes. In Gerontology. Intech. [serial online]. 2018 [cited 2020 Oct 5]. Available from: https://doi.org/10.5772/intechopen.76249.
กชกร ศิวปรียากูล. พฤติกรรมการดูแลสุขภาพตนเองของผู้สูงอายุ อำเภอเมือง จังหวัดสุราษฎร์ ธานี. วารสารวิจัยและนวัตกรรมทางสุขภาพ 2563;3(1):1-14
Krejcie RV, Morgan DW. Determining Sample Size for Research Activities. Educational and Psychological Measurement 1970;30(3):607-10.
บุญชม ศรีสะอาด. วิธีการทางสถิติสาหรับการวิจัย เล่ม 1 (พิมพ์ครั้งที่ 5). กรุงเทพฯ: สุวีริยาสาส์น; 2556.
Bloom BS. Handbook on formative and summative evaluation of student learning. New York: McGraw-Hill; 1971.
อารีย์ สงวนชื่อ, พิชสุดา เดชบุญ, รัตนาภรณ์ อาษา, พิชญาวดี ศรีธนต์, ศศิธร นวนเทศ, ณัชชา คงมั่น. ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับการเตรียมความพร้อมของวัยแรงงานเพื่อเข้าสู่วัยผู้สูงอายุในเขตโรงงานอุตสาหกรรม อำเภอกบินทร์บุรี จังหวัดปราจีนบุรี. วารสารกรมการแพทย์ 2561;43(4):105-9.
วิจิตร แผ่นทอง. การพัฒนาการจัดการเรียนรู้ด้วยการบริการสังคม เพื่อรองรับระบบบริการปฐมภูมิและระบบสุขภาพอำเภอ. วารสารการพยาบาลการสาธารณสุขและการศึกษา วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนีพะเยา 2563;21(2):118-31.
นงเยาว์ มีเทียน, อภิญญา วงศ์พิริยโยธา. ปัจจัยทำนายพฤฒพลังในผู้ใหญ่วัยกลางคนเขตกึ่งเมือง. วารสารการพยาบาลและการดูแลสุขภาพ 2561;36(2):123-31.
ญภัทรา ภูรภัทเกียรติกุล, ธีรเดช สนองทวีพร. สภาวะการออมของประชาชนเพื่อเตรียมความพร้อมก่อนวัยผู้สูงอายุ. วารสารวิชาการและวิจัยมทร. พระนครสาขามนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ 2562;4(2):1-4.
ประไพพิศ สิงหเสม, พอเพ็ญ ไกรนรา, วรารัตน์ ทิพย์รัตน์. ความสัมพันธ์ระหว่างความรอบรู้ด้านสุขภาพกับพฤติกรรมสุขภาพตาม 3อ.2ส. ของผู้สูงอายุตำบลหนองตรุด จังหวัดตรัง. วารสารวิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนีอุตรดิตถ์ 2562;11(1):37-51.
เบญจวรรณ สอนอาจ. แนวทางการสร้างความรอบรู้ด้านสุขภาพเพื่อส่งเสริมพฤติกรรมสุขภาพของประชากรวัยทำงานในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล [อินเตอร์เน็ต]. 2562 [เข้าถึงเมื่อ 2563 พ.ย. 10]. เข้าถึงได้จาก: http://ithesisir.su.ac.th/dspace/bitstream
ขวัญเมือง แก้วดำเกิง. ความรอบรู้ด้านสุขภาพ เข้าถึง เข้าใจ และการนำไปใช้. กรุงเทพฯ: อมรินทร์; 2561.
กาญจนา สนิท, นาวิน พรมใจสา, ศิวาพร วังสมบัติ. แนวทางการเตรียมพร้อมเข้าสู่อายุของประชาชนในเขตเทศบาลนครเชียงราย. วารสารบัณฑิตศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย 2560;10(2):31-48.
ภาณุวัฒน์ มีชะนะ, ณิชชาภัทร ขันสาคร, ทัศนีย์ ศิลาวรรณ, ทัศนีย์ รวิวรกุล, เพ็ญศรี พิชัยสนิธ. การเตรียมความพร้อมของประชากรก่อนวัยสูงอายุเพื่อเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุคุณภาพ ตำบลหนองหญ้าไซ อำเภอหนองหญ้าไซ จังหวัดสุพรรณบุรี. วารสารวิชาการมหาวิทยาลัยอีสเทิร์นเอเชีย ฉบับวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 2560;11(1):259-71.
สุเทพ ศรีนุช, พูนชัย ปันธิยะ, พิสิฏฐ์ โคตรสุโพธิ์. แนวทางการประยุกต์หลักพุทธธรรมเพื่อเตรียมความพร้อมสู่สังคมผู้สูงวัยอย่างเป็นสุข. วารสารสังคมศาสตร์และมานุษยวิทยาเชิงพุทธ 2563;5(3): 136-49.
Downloads
Published
How to Cite
Issue
Section
License
Copyright (c) 2022 REGIONAL HEALTH PROMOTION CENTER 9 JOURNAL

This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความหรือข้อคิดเห็นใด ๆ ที่ประกฎในวารสารศูนย์อนามัยที่ 9 เป็นความคิดเห็นของผู้เขียน บรรณาธิการ คณะผู้จัดทำ และศูนย์อนามัยที่ 9 นครราชสีมา (เจ้าของ) ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย ผู้เขียนต้องรับผิดชอบต่อบทความของตนเอง
ผลการพิจารณาของกองบรรณาธิการและผู้ทรงคุณวุฒิถือเป็นที่สิ้นสุด คณะบรรณาธิการวารสารฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการตรวจแก้ไขข้อความให้ถูกต้องตามหลักภาษาและมีความเหมาะสม
กองบรรณาธิการวารสารฯ ขอสงวนสิทธิ์มิให้นำเนื้อหาใด ๆ ของบทความ หรือข้อคิดเห็นใด ๆ ของผลการประเมินบทความในวารสารฯ ไปเผยแพร่ก่อนได้รับอนุญาตจากกองบรรณาธิการ อย่างเป็นลายลักษณ์อักษร และผลงานที่ได้รับการตีพิมพ์ถือเป็นลิขสิทธิ์ของวารสารศูนย์อนามัยที่ 9