ความชุกและปัจจัยที่สัมพันธ์ต่อภาวะหมดไฟ ของผู้จัดการการดูแลผู้สูงอายุ ในเขตสุขภาพที่ 9
คำสำคัญ:
ภาวะหมดไฟ, ผู้จัดการการดูแล, ผู้สูงอายุบทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้เป็นวิจัยเชิงวิเคราะห์แบบภาคตัดขวาง เพื่อศึกษาความชุกและปัจจัยที่สัมพันธ์ต่อภาวะหมดไฟของผู้จัดการการดูแลผู้สูงอายุ กลุ่มตัวอย่างคือ ผู้จัดการการดูแลผู้สูงอายุที่ปฏิบัติงานในเขตสุขภาพที่ 9 จำนวน 375 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยคือ แบบสอบถามปัจจัยส่วนบุคคล ปัจจัยการทำงาน และแบบวัดภาวะหมดไฟในการทำงาน วิเคราะห์ข้อมูลทั่วไปโดยใช้สถิติเชิงพรรณนา ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และวิเคราะห์ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์ด้วยสถิติสหสัมพันธ์ของเพียร์สัน
ผลวิจัยพบว่า กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง ร้อยละ 93.90 อายุเฉลี่ย 44.79 ปี อายุงานเฉลี่ย 21.61 ปี ประสบการณ์ทำงานเฉลี่ย 6.37 ปี ระยะเวลาทำงานเฉลี่ยต่อสัปดาห์ 38.11 ชั่วโมง ความคิดเห็นการปฏิบัติงานพบว่า มีภาระงานอยู่ระดับมาก สวัสดิการที่ได้รับและการสนับสนุนจากองค์กรอยู่ระดับปานกลาง มนุษยสัมพันธ์กับผู้ร่วมงานและความพึงพอใจต่องานอยู่ระดับค่อนข้างมาก ภาวะหมดไฟภาพรวม พบว่า ด้านความอ่อนล้าทางอารมณ์ระดับปานกลาง (=20.19, SD=12.17) ด้านการลดความเป็นบุคคลของผู้อื่นอยู่ในระดับต่ำ (
=5.29, SD=4.84) และด้านการลดความสำเร็จส่วนบุคคลระดับปานกลาง (
=36.66, SD=9.56) และปัจจัยที่สัมพันธ์กับภาวะหมดไฟ ได้แก่ อายุ สถานภาพสมรส รายได้ ความเพียงพอของรายได้ การมีเวลาส่วนตัว มีเวลาพักผ่อน มีเวลาให้ครอบครัว และปัจจัยการทำงาน ได้แก่ อายุงาน ภาระงาน สวัสดิการที่ได้รับ การสนับสนุนจากองค์กร มนุษยสัมพันธ์ ความพึงพอใจในงาน เคยคิดย้ายงาน และเคยคิดลาออกจากอาชีพ มีความสัมพันธ์กับภาวะหมดไฟอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p<0.05) ส่วนปัจจัยเพศ การศึกษา อาชีพ ภาระในครอบครัว สถานที่ทำงาน ประสบการณ์ทำงาน และชั่วโมงทำงาน ไม่มีความสัมพันธ์กับภาวะหมดไฟ
เอกสารอ้างอิง
United Nations. World Population Prospects 2022. United Nations; 2022.
กรมกิจการผู้สูงอายุ. สถานุการณ์ผู้สูงอายุไทย พ.ศ. 2565.กรุงเทพฯ: บริษัท อมรินทร์ คอร์เปอเรชั่นส์ จำกัด (มหาชน); 2566.
สำนักงานอนามัยผู้สูงอายุ. คู่มือแนวทางการฝึกอบรมหลักสูตรผู้จัดการการดูแลผู้สูงอายุ (Care Manager) กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข; 2566.
ทิพรัตน์ บำรุงพนิชถาวร. ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์ต่อภาวะหมดไฟในการทำงานของผู้ปฏิบัติงานในโรงพยาบาลชุมชน [วิทยานิพนธ์ สาธารณสุขศาสตรมหาบัณฑิต]. ชลบุรี: มหาวิทยาลัยบูรพา; 2564.
นครินทร์ ชุนงาม. สุขภาพจิตและภาวะหมดไฟในการท างานของแพทย์ในโรงพยาบาลทั่วไปและโรงพยาบาลชุมชนจังหวัดนครราชสีมา. วารสารสุขภาพจิตแห่งประเทศไทย. 2563;28(4):348-59.
Yamane T. Statistics: An Introductory Analysis. 3rd ed. New York: Harper & Row; 1973.
นันทาวดี วรวสุวัส. การพัฒนารูปแบบการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันทางใจป้องกันภาวะหมดไฟ ศูนย์สุขภาพจิตที่ 7 จังหวัดขอนแก่น. วารสารวิจัยและพัฒนาระบบสุขภาพ. 2560;13(2): 603-13.
พัชราภรณ์ สิณัตพัฒนะศุข, ธนาสิทธิ์ วิจิตราพันธ์. ปัจจัยเสี่ยงของภาวะหมดไฟในการทำงานของบุคลากรโรงพยาบาลสันป่าตอง จังหวัดเชียงใหม่. วารสารวิชาการสาธารณสุข. 2565;31(1):154-63.
นิตยา เพ็ญศิรินภา. ภาวะเหนื่อยล้าจากงานของบุคลากรด้านสุขภาพโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล จังหวัดนนทบุรี ในช่วงโรคโควิด-19 ระบาด. วารสารวิชาการสาธารณสุขชุมชน. 2566;9(1):84-96.
กชามาส วิชัยดิษฐ, อารยา ประเสริฐชัยม, ปกกมล เหล่ารักษาวงษ์. ภาวะหมดไฟในการทำงานของบุคลากรทางการแพทย์ โรงพยาบาลของรัฐ ในจังหวัดชุมพร. วารสารสุขภาพจิตแห่งประเทศไทย. 2565; 30(3):211-21.
ภัทรจาริน หงษา, ยุวนุช สัตยสมบูรณ์, จารุวรรณ ธาดาเดช, จุฑาธิป ศีลบุตร. ความสัมพันธ์ระหว่างคุณลักษณะส่วนบุคคลกับความตั้งใจคงอยู่ในงานของพยาบาลวิชาชีพในหน่วยไตเทียมภาคเอกชน กรุงเทพมหานคร. วารสารกฎหมายและนโยบายสาธารณสุข. 2564;7(3):476-89.
Ujjan BU, Hussain F, Nathani KR, Farhad A, Chaurasia B. Factors associated with risk of burnout in neurosurgeons: current status and risk factors. Acta Neurol Belg. 2022 Oct;122(5):1163-1168. doi: 10.1007/s13760-022-02072-2.
Smith M, Reid S. Burnout: Symptoms, Treatment, and Tips on How to Deal [Web blog message]. 2019 [cited 2024 July 1]. Available from: https://www.helpguide.org/mental-health/stress/burnout-prevention-and-recovery
โยธิน วิเชษฐวิชัย. Burnout Syndrome ภาวะหมดไฟในการทำงาน. 2561 [ออนไลน์]. 2564 [เข้าถึงเมื่อ 2567 กรกฎาคม 1) เข้าถึงได้จาก: https://www.samitivejhospitals.com/th/article/detail/หมดไฟ-การทำงาน
จามรี ณ บางช้าง. ความชุกและปัจจัยที่สัมพันธ์กับภาวะเหนื่อยล้าในการทำงานของแพทย์ประจำบ้าน โรงพยาบาลราชวิถี. วารสารสมาคมจิตแพทย์แห่งประเทศไทย. 2562;64(1):61-76.
สุชาดา ลำพูน, อนัญญา ประดิษฐปรีชา, อารยา ประเสริฐชัย. ปัจจัยที่มีผลต่อความตั้งใจคงอยู่ในงานของบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขด่านหน้าสังกัดกระทรวงสาธารณสุข เขตสุขภาพที่ 1. วารสารความปลอดภัยและสุขภาพ. 2566;16(2):210-22.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 วารสารศูนย์อนามัยที่ 9 : วารสารส่งเสริมสุขภาพและอนามัยสิ่งแวดล้อม

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความหรือข้อคิดเห็นใด ๆ ที่ประกฎในวารสารศูนย์อนามัยที่ 9 เป็นความคิดเห็นของผู้เขียน บรรณาธิการ คณะผู้จัดทำ และศูนย์อนามัยที่ 9 นครราชสีมา (เจ้าของ) ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย ผู้เขียนต้องรับผิดชอบต่อบทความของตนเอง
ผลการพิจารณาของกองบรรณาธิการและผู้ทรงคุณวุฒิถือเป็นที่สิ้นสุด คณะบรรณาธิการวารสารฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการตรวจแก้ไขข้อความให้ถูกต้องตามหลักภาษาและมีความเหมาะสม
กองบรรณาธิการวารสารฯ ขอสงวนสิทธิ์มิให้นำเนื้อหาใด ๆ ของบทความ หรือข้อคิดเห็นใด ๆ ของผลการประเมินบทความในวารสารฯ ไปเผยแพร่ก่อนได้รับอนุญาตจากกองบรรณาธิการ อย่างเป็นลายลักษณ์อักษร และผลงานที่ได้รับการตีพิมพ์ถือเป็นลิขสิทธิ์ของวารสารศูนย์อนามัยที่ 9