ผลลัพธ์ของการตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านมเชิงรุก ในสตรีกลุ่มเสี่ยง อายุ 30-70 ปี โดยใช้แมมโมแกรมและอัลตราซาวด์เต้านม ในอำเภอพนมสารคาม จังหวัดฉะเชิงเทรา
คำสำคัญ:
มะเร็งเต้านม, ไบแรดส์ (BIRADS), แมมโมแกรมและอัลตราซาวด์, อำเภอพนมสารคามบทคัดย่อ
วัตถุประสงค์: เพื่อศึกษาสัดส่วนของผลของการตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านมจัดกลุ่มตามระบบไบแรดส์ (BIRADS) 1-5 ความชุกการเกิดมะเร็งเต้านม และปัจจัยที่สัมพันธ์กับผลของการตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านม BIRADS 4-5
วิธีการศึกษา: ศึกษาแบบภาพตัดขวางโดยรวบรวมข้อมูลทุติยภูมิจากเวชระเบียนของสตรีกลุ่มเสี่ยงเป้าหมายที่เข้ารับการตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านม สัดส่วนของ BIRADS 1-5 และความชุกการเกิดมะเร็งเต้านม แสดงผลเป็นร้อยละ ปัจจัยที่สัมพันธ์กับ BIRADS 4-5 วิเคราะห์โดยใช้ Multivariable log-binomial regression แสดงขนาดความสัมพันธ์โดย Adjusted prevalence ratio (aPR) และ 95% Confidence interval (CI)
ผลการศึกษา: อาสาสมัคร 2,501 คน มีค่าเฉลี่ยอายุ 53.5+9.8 ปี สัดส่วนของผลของการตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านมจัดกลุ่มตาม BIRADS 1, 2, 3, 4 และ 5 คือ ร้อยละ 72.0, 22.0, 4.4, 1.3 และ 0.3 ตามลำดับ ความชุกของ BIRADS 4-5 ร้อยละ 1.6 (95% CI: 1.2-2.2) ความชุกของมะเร็งเต้านม ร้อยละ 0.8 (95% CI: 0.5-1.2) ปัจจัยที่สัมพันธ์กับ BIRADS 4-5 ได้แก่ มีก้อนที่เต้านมหรือรักแร้ aPR 5.73 (95% CI: 3.12-10.54) และมีบุตรคนแรกเมื่ออายุมากกว่า 35 ปี aPR 2.60 (95% CI: 1.21-5.57)
สรุป: การศึกษานี้ได้แสดงสัดส่วนของผลการตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านมตาม BIRADS ความชุกของมะเร็งเต้านม รวมถึงแสดงปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับผู้ที่มีความเสี่ยงสูง (BIRADS 4-5) ซึ่งหลักฐานเชิงประจักษ์นี้จะนำไปสู่การพัฒนาระบบบริการการตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านมเชิงรุกในสตรีกลุ่มเสี่ยง เพื่อให้ได้รับบริการที่เป็นมาตรฐานสากล และช่วยค้นหามะเร็งเต้านมตั้งแต่ระยะเริ่มแรกได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เอกสารอ้างอิง
World Cancer Research Fund International. Breast cancer statistics [Internet]. WCRF International. [cited 2024 Dec 9]. Available from: https://www.wcrf.org/cancer-trends/breastcancer-statistics/
สถาบันมะเร็งแห่งชาติ กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข. ทะเบียนมะเร็งระดับโรงพยาบาล พ.ศ. 2564 = HOSPITAL-BASED CANCER REGISTRY ANNUAL REPORT 2020. กรุงเทพฯ: กลุ่มงานดิจิทัลการแพทย์ สถาบันมะเร็งแห่งชาติ; 2564.
กองยุทธศาสตร์และแผนงาน กระทรวงสาธารณสุข. ข้อมูลการตายจากข้อมูลมรณบัตร: อัตราการตายจากโรคมะเร็งเต้านมของประเทศไทย ปี 2560–2564 [อินเทอร์เน็ต]. 2564 [เข้าถึงเมื่อ 2567 ธ.ค. 15]. เข้าถึงได้จาก: https://www.hiso.or.th/thaihealthstat/area/index.php?ma=1&pf=01818101&tp=13_4
ปิยวัฒน์ เลาวหุตานนท์. Cancer Incidence in Chachoengsao, Thailand 2019–2021: Breast Cancer. วารสารโรงพยาบาลมะเร็งชลบุรี [อินเทอร์เน็ต]. 2566 [เข้าถึงเมื่อ 2567 ธ.ค. 15]; หน้า 34–6. เข้าถึงได้จาก: https://www.cch.go.th/main/images/registry/Cancer%20Incidence%20In%20Chachoengsao%20Thailand%202019-2021.pdf
กองยุทธศาสตร์และแผนงาน กระทรวงสาธารณสุข. ข้อมูลการตายจากข้อมูลมรณบัตร: อัตราการตายจากโรคมะเร็งเต้านมของจังหวัดฉะเชิงเทรา ปี 2560–2564 [อินเทอร์เน็ต]. 2564 [เข้าถึงเมื่อ 2567 ธ.ค. 15]. เข้าถึงได้จาก: https://www.hiso.or.th/thaihealthstat/area/index.php?ma=3&pf=01248101&tm=2
วิชัย เอกพลากร. การตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านมด้วยแมมโมแกรม. วารสารสาธารณสุข. 2559;25(4):583.
American College of Radiology. Mammography-Reporting [Internet]. [cited 2024 Dec 16]. Available from: https://www.acr.org/-/media/ACR/Files/RADS/BI-RADS/Mammography-Reporting.pdf
ราชวิทยาลัยศัลยแพทย์แห่งประเทศไทย. แนวทางการรักษาพยาบาลผู้ป่วยทางศัลยกรรม โรค: ก้อนที่เต้านม (Breast mass) [อินเทอร์เน็ต]. 2565 [เข้าถึงเมื่อ 2568 ม.ค. 20]. เข้าถึงได้จาก: https://www.rcst.or.th/web-upload/filecenter/CPG/Breast Mass.html
จารุวรรณ ป้อมกลาง, รัตน์ศิริ ทาโต. ปัจจัยทำนายพฤติกรรมส่งเสริมสุขภาพของผู้รอดชีวิต จากมะเร็งเต้านมระยะหลังการรักษาครบ. วารสารเกื้อการุณย์ 2557;21(3):155-67.
จารุวัฒน์ แจ้งวัง. การศึกษาผลของการตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านมสตรีกลุ่มเสี่ยงสูง อายุ 30-70 ปี ด้วยแมมโมแกรมร่วมกับอัลตราซาวด์ อำเภอเมือง จังหวัดหนองคาย. วารสารโรงพยาบาลนครพนม 2560;4(3):42-51.
Wiratkapun C, Bunyapaiboonsri W, Wibulpolprasert B, Lertsithichai P. Biopsy rate and positive predictive value for breast cancer in BI-RADS category 4 breast lesions. Medical journal of the Medical Association of Thailand. 2010;93(7):830-7
Centers for Disease Control and Prevention (CDC). Breast Cancer Awareness: Symptoms [Internet]. Atlanta: U.S. Department of Health & Human Services; 2024 Sep 25 [cited 2025 April 16]. Available from: https://www.cdc.gov/breast-cancer/symptoms/index.html?utm_source=chatgpt.com
Lyons TR, Schedin PJ, Borges VF. Pregnancy and breast cancer: When they collide. J Mammary Gland Biol Neoplasia. 2009;14(2):87-98.
ภารณี ศรีสุภะ. ความแม่นยำของการตรวจมะเร็งเต้านมด้วยแมมโมแกรมร่วมกับอัลตราซาวด์ ในโรงพยาบาลนครพนม. วารสารโรงพยาบาลนครพนม 2566; 10(2):1-13.
ลักษณาวดี มหิวรรณ. ประสิทธิผลของการตรวจแมมโมแกรม BI-RADS 4B และ 4C ในการวินิจฉัยมะเร็งเต้านม โรงพยาบาลยโสธร. วารสารยโสธรเวชสาร 2566;25(1):4-14.
มะเร็งเต้านม: ปัญหาที่สังคมต้องร่วมกันแก้ไข. ใน: เอกสารประกอบการประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2562 ของมูลนิธิถันยรักษ์ฯ; 2562.
กรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง. หลักเกณฑ์และเงื่อนไขการจ่ายเงินช่วยเหลือเบื้องต้นแก่ผู้ให้บริการ กรณีการรักษาพยาบาลผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤต มาตรา 7. กรุงเทพฯ: กรมบัญชีกลาง; 2563.
Key TJ, Schatzkin A, Willett WC, Allen NE, Spencer EA, Travis RC. Diet, nutrition and the prevention of cancer. Public Health Nutr 2004 Feb;7(1A):187-200
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 วารสารศูนย์อนามัยที่ 9 : วารสารส่งเสริมสุขภาพและอนามัยสิ่งแวดล้อม

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความหรือข้อคิดเห็นใด ๆ ที่ประกฎในวารสารศูนย์อนามัยที่ 9 เป็นความคิดเห็นของผู้เขียน บรรณาธิการ คณะผู้จัดทำ และศูนย์อนามัยที่ 9 นครราชสีมา (เจ้าของ) ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย ผู้เขียนต้องรับผิดชอบต่อบทความของตนเอง
ผลการพิจารณาของกองบรรณาธิการและผู้ทรงคุณวุฒิถือเป็นที่สิ้นสุด คณะบรรณาธิการวารสารฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการตรวจแก้ไขข้อความให้ถูกต้องตามหลักภาษาและมีความเหมาะสม
กองบรรณาธิการวารสารฯ ขอสงวนสิทธิ์มิให้นำเนื้อหาใด ๆ ของบทความ หรือข้อคิดเห็นใด ๆ ของผลการประเมินบทความในวารสารฯ ไปเผยแพร่ก่อนได้รับอนุญาตจากกองบรรณาธิการ อย่างเป็นลายลักษณ์อักษร และผลงานที่ได้รับการตีพิมพ์ถือเป็นลิขสิทธิ์ของวารสารศูนย์อนามัยที่ 9