Results of Parents’ and Guardians’ Development Promotion for Children Aged 3-6 Years in Nakhon Ratchasima Province
Keywords:
Children aged 3-6 years, Parents and guardiansAbstract
Objectives of this cross-sectional research were to study child development, developmental promotion activities, and factors associated with development and developmental promotion activities for children aged 3-6 years by parents and guardians in Nakhon Ratchasima province. Population was 73,154 parents and guardians of children aged 3-6 years old enrolled at child development centers in 2024. Samples were 382 parents and guardians determined by Krejcie and Morgan's formular. Sampling was done using stratified sampling method at the district and sub-district levels and using simple random sampling in the targeted child development centers. The questionnaire was validated by 3 experts and tested for reliability with 30 persons yielding Cronbach’s alpha coefficient of 0.74. Statistics used in this study were descriptive statistics: frequencies, percentages, means, minimums, maximums, and standard deviations and inferential statistics: Chi-square tests with p=0.05.
The results showed that, about 46.5 percent of the children had age-appropriate development while 67.54 percent were at a moderate level. The vast majority of the samples had moderate levels of development promotion activities (96.83 percent). Factors related to child development were educational level, monthly income, relationships with children, number of children, and order of children. Factors related to child development promotion activities were age, educational level, occupation, monthly income, relationships with children, number of children, and order of children with statistical significance at 0.05 level.
References
กระทรวงสาธารณสุข. คู่มือเฝ้าระวังและส่งเสริมพัฒนาการเด็กปฐมวัย Developmental Surveillance and Promotion Manual (DSPM). กรุงเทพฯ: สำนักงานกิจการโรงพิมพ์องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก; 2562.
สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ. แผนปฏิบัติการด้านการจัดการศึกษาปฐมวัยของกระทรวง
ศึกษาธิการ (พ.ศ. 2564-2567). กรุงเทพฯ: สำนักงานกิจการโรงพิมพ์องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก; 2564.
สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน. แนวทางการส่งเสริมพัฒนาการเด็กวัย 3-6 ปี สำหรับพ่อแม่ผู้ปกครอง. กรุงเทพฯ: สำนักงานกิจการโรงพิมพ์องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก; 2560.
สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมา. แนวทางการดำเนินงาน แผนปฏิบัติการสาธารณสุข จังหวัดนครราชสีมา. นครราชสีมา: โชคชัยเจริญมาร์เก็ตติ้ง; 2566.
สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมา. แนวทางการดำเนินงาน แผนปฏิบัติการสาธารณสุข จังหวัดนครราชสีมา. นครราชสีมา: โชคชัยเจริญมาร์เก็ตติ้ง; 2567.
Green LW, Kreuter MW. Health Promotion Planning: An Education and Environmental Approach. Toronto: May-field Publishing Company; 1991.
Krejcie RV, Morgan DW. Determining sample size for research activities. Educational and psychological measurement; 1997:30(3):607-10.
บุญชม ศรีสะอาด. การวิจัยเบื้องต้น. พิมพ์ครั้งที่ 8. กรุงเทพฯ: สุริยาสาสน์การพิมพ์; 2553.
บุญธรรม กิจปรีดาบริสุทธิ์. สถิติวิเคราะห์เพื่อการวิจัย. (พิมพ์ครั้งที่ 5). กรุงเทพฯ: จามจุรี โปรดักส์; 2553.
สุวิมล ติรกานนท์. การใช้สถิติในงานวิจัยทางสังคมศาสตร์:แนวทางสู่การปฏิบัติ (พิมพ์ครั้งที่ 2). กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย; 2549
Khanam SJ, Khan MN. Examining the influence of child nutritional disorders on early childhood development in Bangladesh: insights from the multiple indicator cluster survey. Public Health Nutr. 2024 Feb 22;27(1):e76. doi: 10.1017/S1368980024000521.
ลาวรรณ ศรีสูงเนิน, พิสิษฐ์ ศิริรักษ์, สรัญธร ฉันทวรเทพ,จิตเกษม ทองนาค และ กัลยา นิ่มจิต. ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับพัฒนาการเด็กอายุ 2 ปี ถึง 5 ปี ในศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก จังหวัดนครราชสีมา. ในการประชุมวิชาการด้านโลจิสติกส์และซัพพลายเซนระดับชาติครั้งที่ 4. วันที่ 7 พฤษภคม 2564. ณ วิทยาลัยโลจิสติกส์ และซัพพลายเชน. กรุงเทพฯ; มหาวิทยาลัยราชภัฎสวนสุนันทา.2564;21(3):393-6.
ปรียนุช ชัยกองเกียรติ. ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับพัฒนาการสงสัยล่าช้าของเด็กปฐมวัย. วารสารมหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ สาขามนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์; 2561: 5(2),161-71.
ยุทธนา ศิลปรัสมี, สิตา ฤทธิ์ธาธรรม, วีณา ธิติประเสริฐ, เสาวลักษณ์ วงศ์นาถ. การศึกษาพัฒนาการไม่สมวัยของเด็กปฐมวัยในจังหวัดนครศรีธรรมราช. นครศรีธรรมราช. คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราช; 2560.
ชัชฎา ประจุดทะเก. ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์ต่อพัฒนาการเด็กปฐมวัย ในเขตสุขภาพที่ 9 ปี 2560.วารสารศูนย์อนามัยที่ 9. 2561;28(12):5-20.
อาริสรา ทองเหม, จินตนา พัฒนพงศ์ธร, ปราณี พงษ์จินดา. เรื่องปัจจัยที่มีความสัมพันธ์ต่อพัฒนาการเด็กปฐมวัย: กรณีพื้นที่โครงการพัฒนาเพื่อความมั่นคงในพื้นที่ชายแดนอันเนื่องมาจากพระราชดำริ เขตกองทัพภาคที่ 3. กรุงเทพฯ: กลุ่มงานสนับสนุนวิชาการและการวิจัย สำนักงานส่งเสริมสุขภาพ; 2563.
ปองทิพย์ ใจเมา. ปัจจัยที่ส่งผลต่อพฤติกรรมของผู้ปกครองในการส่งเสริมพัฒนาการเด็กปฐมวัย อำเภอลี้ จังหวัดลำพูน [วิทยานิพนธ์สาธารณสุขศาสตรมหาบัณฑิต]. พิษณุโลก. มหาวิทยาลัยนเรศวร; 2565.
พรศิริ แสนตุ้ม, วราภรณ์ นาคะศิร. การมีส่วนร่วมของผู้ปกครองในการส่งเสริมพัฒนาการเด็กปฐมวัยของโรงเรียนสาธิตอนุบาลราชมงคล. วารสารคหเศรษฐศาสตร์. 2566;66(1): 75-85.
ณิชกุล พิชาชาญ, กิตติพงษ์ สอนล้อม, ศิริภัททรา จุฑามณี. ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับพัฒนาการเด็กปฐมวัย: การทบทวนวรรณกรรมอย่างเป็นระบบ. วารสารโรงพยาบาลสิงห์บุรี 2566;31(3):128-42.
Downloads
Published
How to Cite
Issue
Section
License
Copyright (c) 2024 REGIONAL HEALTH PROMOTION CENTER 9 JOURNAL

This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความหรือข้อคิดเห็นใด ๆ ที่ประกฎในวารสารศูนย์อนามัยที่ 9 เป็นความคิดเห็นของผู้เขียน บรรณาธิการ คณะผู้จัดทำ และศูนย์อนามัยที่ 9 นครราชสีมา (เจ้าของ) ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย ผู้เขียนต้องรับผิดชอบต่อบทความของตนเอง
ผลการพิจารณาของกองบรรณาธิการและผู้ทรงคุณวุฒิถือเป็นที่สิ้นสุด คณะบรรณาธิการวารสารฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการตรวจแก้ไขข้อความให้ถูกต้องตามหลักภาษาและมีความเหมาะสม
กองบรรณาธิการวารสารฯ ขอสงวนสิทธิ์มิให้นำเนื้อหาใด ๆ ของบทความ หรือข้อคิดเห็นใด ๆ ของผลการประเมินบทความในวารสารฯ ไปเผยแพร่ก่อนได้รับอนุญาตจากกองบรรณาธิการ อย่างเป็นลายลักษณ์อักษร และผลงานที่ได้รับการตีพิมพ์ถือเป็นลิขสิทธิ์ของวารสารศูนย์อนามัยที่ 9