ประสิทธิผลของนวัตกรรม “Sugar Safety Alert” ทางไลน์แอปพลิเคชันสำหรับผู้เป็นเบาหวานชนิดที่ 2

Main Article Content

Suda Hanklang
Sompong Lueklang
Suchinda Sathira-Anant
Suparat Phukerd
Thicha Chuanphimai

บทคัดย่อ

โรคเบาหวานชนิดที่ 2 เป็นโรคเรื้อรังซึ่งเป็นปัญหาสาธารณสุขที่พบอุบัติการณ์เพิ่มขึ้นและมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง การให้ความรู้และคำแนะนำในการปฏิบัติตัวเพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อนในรูปแบบออนไลน์ที่มีความเหมาะสม เข้าถึงง่าย และรวดเร็วยังมีอยู่จำกัด การศึกษาครั้งนี้เป็นการวิจัยกึ่งทดลองแบบ 2 กลุ่ม วัดผลก่อนหลัง เพื่อศึกษาประสิทธิผลของนวัตกรรม “Sugar Safety Alert”ทางไลน์แอปพลิเคชันสำหรับผู้เป็นเบาหวานชนิดที่ 2 กลุ่มตัวอย่าง คือ ผู้เป็นเบาหวานชนิดที่ 2 จำนวน 63 ราย ที่มีอายุ 20-65 ปี แบ่งเป็นกลุ่มทดลอง จำนวน 32 ราย และกลุ่มควบคุม จำนวน 31 ราย สุ่มตัวอย่างอย่างง่ายจากรายชื่อของผู้เป็นเบาหวานที่เข้าเกณฑ์คัดเข้า กลุ่มทดลองได้รับเนื้อหาในไลน์แอปพลิเคชันประยุกต์มาจากทฤษฎีแบบแผนความเชื่อด้านสุขภาพร่วมกับโปรแกรมปิงปองจราจรชีวิต 7 สี ทดสอบความตรงตามเนื้อหาของแอปพลิเคชันได้ค่าความตรงตามเนื้อหา เท่ากับ .94 ประกอบด้วย การบันทึกข้อมูลระดับน้ำตาลในเลือด การแสดงผลระดับน้ำตาลในเลือด คำแนะนำทั่วไปในการดูแลตัวเองของผู้เป็นเบาหวาน
ระดับความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อนจากโรคเบาหวาน และคำแนะนำความรู้ที่เฉพาะเจาะจงต่อระดับน้ำตาลในเลือดของผู้เป็นเบาหวานเฉพาะราย ความรุนแรงของการเกิดภาวะแทรกซ้อนจากโรคเบาหวาน ประโยชน์ของการป้องกันภาวะแทรกซ้อน และการส่งเสริมพฤติกรรมการป้องกันและควบคุมความรุนแรงของโรค การทดลองใช้แอปพลิเคชันเป็นเวลา 4 สัปดาห์ สัปดาห์ที่ 1 ผู้วิจัยอธิบายวิธีการใช้งาน
รูปแบบการเข้าใช้ การเริ่มเข้าใช้งาน การทำงานของไลน์แอปพลิเคชันในแต่ละส่วน การทดลองใช้ไลน์แอปพลิเคชันด้วยตนเอง และแจกสมุดสถานการณ์ระดับน้ำตาลในเลือดสัปดาห์ที่ 1–4 ที่มีความหลากหลายระดับน้ำตาลให้แต่ละบุคคล มีโจทย์สถานการณ์เพื่อให้ได้เรียนรู้
กลุ่มทดลองได้ทดลองกรอกและศึกษาเนื้อหาจากแอปพลิเคชัน
เพื่อเป็นแนวทางการปฏิบัติตัวตามคำแนะนำจากไลน์แอปพลิเคชัน สัปดาห์ที่ 2–4 ให้กลุ่มตัวอย่างกรอกข้อมูลตามโจทย์สถานการณ์ระดับน้ำตาลในเลือดที่ให้ไปในสัปดาห์แรก สัปดาห์ละ 2 ครั้ง ครั้งละ 1 ค่าระดับ ให้ครบทั้ง 8 ค่าระดับ เพื่อศึกษาคำแนะนำจากไลน์แอปพลิเคชันไว้ไปประยุกต์ใช้ในอนาคต สำหรับกลุ่มควบคุมได้รับบริการทางสุขภาพตามปกติ และเมื่อสิ้นสุดการทดลองแล้ว กลุ่มควบคุมได้ทดลองใช้ไลน์แอปพลิเคชันเช่นเดียวกับกลุ่มทดลอง ผู้วิจัยประเมินผลหลังสิ้นสุดกิจกรรมในสัปดาห์ที่ 4 โดยใช้แบบสอบถามเพื่อประเมินประสิทธิผลของนวัตกรรม Sugar Safety Alert ประกอบด้วย ความรู้เกี่ยวกับโรคเบาหวานและภาวะแทรกซ้อน การรับรู้ความเสี่ยง ความรุนแรงของการเกิดภาวะแทรกซ้อนจากโรคเบาหวาน การรับรู้ประโยชน์ของการป้องกันการเกิดภาวะแทรกซ้อนจากโรคเบาหวาน พฤติกรรมการป้องกันและควบคุมภาวะแทรกซ้อนและความรุนแรงของโรค และค่าระดับน้ำตาลในเลือด
เก็บรวบรวมข้อมูลระดับน้ำตาลในเลือดของกลุ่มตัวอย่างหลังการทดลองที่เจาะระดับน้ำตาลในเลือดในสัปดาห์เดียวกัน โดยได้รับความยินยอมจากผู้เป็นเบาหวานที่เข้าร่วมโครงการให้ใช้ข้อมูลผลระดับน้ำตาลในเลือดจากแฟ้มข้อมูลสุขภาพ (ข้อมูลทุติยภูมิ) วิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติพรรณนาและเปรียบเทียบค่าเฉลี่ยภายในกลุ่มด้วยสถิติ paired t-test และเปรียบเทียบค่าเฉลี่ยระหว่างกลุ่มด้วยสถิติ Independent t-test
ผลการศึกษา พบว่า กลุ่มทดลองมีระดับความรู้ การรับรู้ความเสี่ยง ความรุนแรงการรับรู้ประโยชน์ของการป้องกันภาวะแทรกซ้อนจากโรคเบาหวาน เพิ่มสูงกว่าก่อนทดลอง และสูงกว่ากลุ่มควบคุม อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ แต่ผลการศึกษาไม่พบความแตกต่างในพฤติกรรมการป้องกันภาวะแทรกซ้อนจากโรคเบาหวานและระดับน้ำตาลในเลือด แสดงให้เห็นว่า การให้ข้อมูลที่ครอบคลุมและไม่เฉพาะเจาะจงกับภาวะแทรกซ้อน
รวมถึงระยะเวลาการทดลองที่สั้นกว่าการศึกษาก่อนหน้านี้ อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ไม่สามารถสังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมการป้องกันภาวะแทรกซ้อนหรือระดับน้ำตาลในเลือดอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ดังนั้น ควรเพิ่มระยะเวลาการทดลองใช้ให้มากขึ้นเพื่อให้เพียงพอต่อการแสดงออกทางพฤติกรรมการป้องกันภาวะแทรกซ้อนจากโรค และการควบคุมระดับน้ำตาลสะสมในเลือด อย่างไรก็ตาม ผลการศึกษานี้ช่วยให้บุคลากรที่เกี่ยวข้องกับการดูแลผู้เป็นเบาหวานได้มีทางเลือกในการจัดกิจกรรมในหลากหลายช่องทางอย่างมีประสิทธิผลมากขึ้น ไลน์แอปพลิเคชันสามารถนำไปใช้เป็นเครื่องมือที่ช่วยในการให้ความรู้และส่งเสริมทัศนคติที่ดีในการดูแลตนเอง และควรพัฒนาให้สามารถติดตามระดับน้ำตาลอย่างต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการดูแลผู้เป็นเบาหวานในชุมชนให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
คำสำคัญ : ระดับน้ำตาลในเลือด แบบแผนความเชื่อด้านสุขภาพ ไลน์แอปพลิเคชัน โรคเบาหวานชนิดที่ 2

Article Details

รูปแบบการอ้างอิง
1.
Hanklang S, Lueklang S, Sathira-Anant S, Phukerd S, Chuanphimai T. ประสิทธิผลของนวัตกรรม “Sugar Safety Alert” ทางไลน์แอปพลิเคชันสำหรับผู้เป็นเบาหวานชนิดที่ 2. Nurs Res Inno J [อินเทอร์เน็ต]. 29 เมษายน 2025 [อ้างถึง 28 ธันวาคม 2025];31(1). available at: https://he02.tci-thaijo.org/index.php/RNJ/article/view/271884
ประเภทบทความ
Research Articles

เอกสารอ้างอิง

World Health Organization. Diabetes; 2023 [cited 2024 September 18]. Available from: https://www.who.int/health-topics/ diabetes # tab=tab_1

Diabetes Association of Thailand. Clinical practice guideline for diabetes 2023; 2023 [cited 2024 September 28]. Available from:https:// thaipedendo.org/clinical-practice-guideline-for-diabetes-2023/

Health Data Center Dashboard, Ministry of Health Thailand. Diabetes morbidity rate; 2023 [cited 2024 November 14]. Available from: https://hdcservice.moph.go.th/hdc/reports/report.php?&cat_id=6a1fdf282fd28180eed7d1cfe0155e11&id=cefa42b9223ec4d1969c

ce18d762bdd#

Zhang P, et al. Global healthcare expenditure on diabetes for 2010 and 2030. Diabetes Res Clin Pract.2010;87:293–301.

Chatterjee S, et al. Cost of diabetes and its complications in Thailand: a complete picture of economic burden. Health Soc Care Community. 2011;19(3):289–98.

Pettongkhao S, Sukban U, Sungrod T, Choomek T. Effects of a self-care promotion on knowledge, perceptions and self-care behaviors among type 2 diabetes patients with uncontrolled blood sugar. Lanna Public Health Journal.2023;19(2):88-101.(in Thai)

Limrermsakul S, Saneha C, Wattanakitkrileart D,Buranasupkajorn P. (2022). Effects of a Health Literacy Development Program on Self-care Behaviors in Elderly with Type 2 Diabetes Mellitus. Nursing Science Journal of Thailand. 2022;40(1):84-98. (in Thai)

Sakchaisong N, Chiangkhong A, Cherdsuntia V. Effects of self-management program with Baowan Baochai mobile application for foot care behaviors prevention among uncontrolled type 2 diabetes mellitus. Journal of Behavioral Science for Development. 2023;15(2):1-16. (in Thai)

Tubkrong S, Nualcham P, Virojana N, Duangjan P. Effect of using LINE application health media to diabetic knowledge and understanding of schools’ staff. Journal of Nursing Siam University. 2018;19(36):78-87.(in Thai)

Sarnjanthuk S, Anuratpanich L. Evaluation of treatment outcome in type 2 diabetes mellitus patient by line application. Chiang Rai Medical Journal. 2022; 14(2):75-88. (in Thai)

Singkiboot S, Thoraphan R, Pibarnwong P. The development of a monitoring and early warning signs detecting application on the knowledge, behaviour, and FBS of persons with diabetes. Journal of Health and Nursing Education. 2024; 30(2): 56-74. (in Thai)

Pawong N, Sookpier P, Wangsrikhoon S. Effects of health education and health counselling using Line official account application for patients with type 2 diabetes mellitus receiving self-insulin injections. Journal of Nursing Science & Health. 2023; 46(4): 117-31. (in Thai)

Juwa S, Wongwat R, Manoton A. The effectiveness of the health behavior change program with 7 colors ball tool on knowledge, health belief and behaviour related to the prevention and control of hypertension and diabetes mellitus, in Maeka Sub-District, Muang District, Phayao Province. Songklanagarind Journal of Nursing.2021;39(2):127-41. (in Thai)

Becker MH. The health belief model and sick role behaviour. Health Educ Monographs. 1974;2:409-17.

Faul F, Erdfelder E, Buchner A, Lang AG. Statistical power analyses using G*Power 3.1: tests for correlation and regression analyses. Behav Res Methods. 2009;41(4):1149-60. doi: 10.3758/BRM.41. 4.1149.

Kijsanayothin P. The effectiveness of health promoting behavior program on control blood glucose level among elderly patients with type 2 diabetes mellitus in Sukhothai province, Thailand. Research and Development Health System Journal. 2021;14(2):103-13. (in Thai)

Birhanu TE, Guracho YD, Asmare SW, Olana DD. A mobile health application use among diabetes mellitus patients: a systematic review and meta-analysis. Front Endocrinol. 2024;15:1-11.

Smith J, Taylor M, Allen R. Effectiveness of mobile health applications in diabetes care. J Diab Technol.2023;15(3):134-42.