การพัฒนาชุดการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วมเรื่องการประเมินความดันโลหิต สำหรับนักศึกษาพยาบาลชั้นปีที่ 1
Article Sidebar
Main Article Content
บทคัดย่อ
การประเมินความดันโลหิตเป็นการประเมินสัญญาณชีพที่บ่งบอกถึงการทำงานของอวัยวะสำคัญในร่างกาย ซึ่งต้องอาศัยความรู้และทักษะปฏิบัติตามแนวปฏิบัติที่เป็นมาตรฐานเพื่อให้ได้ค่าที่มีความถูกต้องเที่ยงตรง สามารถนำไปใช้ประกอบการประเมินสัญญาณชีพได้อย่างมีประสิท ธิภาพเพื่อเป้าหมายสูงสุดคือความปลอดภัยของผู้รับบริการ ทั้งนี้นักศึกษาพยาบาลจำนวนหนึ่งยังขาดความมั่นใจในการนำความรู้เกี่ยวกับการประเมินความดันโลหิตในรายวิชาทฤษฎีไปใช้ในการปฏิบัติการพยาบาล และมีความต้องการให้จัดทำสื่อเรื่องการประเมินความดันโลหิตสำหรับนักศึกษาพยาบาลเพื่อช่วยส่งเสริมการเรียนรู้และเพิ่มความมั่นใจในการประเมินความดันโลหิตได้อย่างมีประสิทธิภาพการวิจัยและพัฒนาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาชุดการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วมเรื่องการประเมินความดันโลหิต เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนและหลังการเรียนด้วยชุดการเรียนรู้ และประเมินความพึงพอใจต่อชุดการเรียนรู้ดังกล่าว โดยใช้กรอบแนวคิด ADDIE Model ของ McGriff
ซึ่งประกอบด้วย 5 ขั้นตอน ได้แก่ 1) การวิเคราะห์ (analysis) ดำเนินการโดยการสนทนากลุ่มการทบทวนรายละเอียดรายวิชา การศึกษาผลการประเมินรายวิชา และสำรวจสื่อการเรียนรู้ที่มีอยู่ 2) การออกแบบ (design) ชุดการเรียนรู้ที่เปิดโอกาสให้ผู้เรียนมีปฏิสัมพันธ์กับสื่อและมีส่วนร่วมในกระบวนการเรียนรู้ด้วยตนเอง ผ่านกิจกรรมตอบคำถาม แลกเปลี่ยนความคิดเห็น และสะท้อนคิดจากประสบการณ์ โดยมีเนื้อหา 3
ส่วนที่เชื่อมโยงกัน ได้แก่ สาระสำคัญของการประเมินความดันโลหิต วิดีโอสาธิตการปฏิบัติพร้อมคำอธิบาย และสถานการณ์จำลองแบบแอนิเมชันเพื่อฝึกการคิดวิเคราะห์และบูรณาการความรู้ 3) การพัฒนา
(development) เป็นการสร้างสื่อมัลติมีเดียแบบมีปฏิสัมพันธ์ (interactive multimedia)พร้อมทั้งตรวจสอบและปรับปรุงคุณภาพจากข้อเสนอแนะของผู้ทรงคุณวุฒิ 3 ท่าน 4) การทดลองใช้
(implementation) โดยนำชุดการเรียนรู้ไปใช้จริงกับนักศึกษากลุ่มเป้าหมาย และ 5) การประเมินผล (evaluation)โดยรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อนำไปพัฒนาและปรับปรุงชุดการเรียนรู้ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
กลุ่มตัวอย่าง คือ นักศึกษาพยาบาลชั้นปีที่ 1 สถาบันการพยาบาลศรีสวรินทิรา สภากาชาดไทย จำนวน 122 คน ที่มีคุณสมบัติตามเกณฑ์การคัดเข้า เครื่องมือวิจัย ได้แก่ ชุดการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วมเรื่องการประเมินความดันโลหิต แบบบันทึกข้อมูลส่วนบุคคล แบบทดสอบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเรื่องการประเมินความดันโลหิต และแบบสอบถามความพึงพอใจต่อชุดการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วม เครื่องมือทั้งหมดผ่านการตรวจสอบความตรงเชิงเนื้อหาโดยผู้ทรงคุณวุฒิจำนวน 3 ท่าน เก็บรวบรวมข้อมูลโดยให้กลุ่มตัวอย่างทำแบบทดสอบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียน หลังจากนั้น ผู้วิจัยส่งลิงก์ของชุดการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วมเรื่องการประเมินความดันโลหิตให้กับกลุ่มตัวอย่าง เพื่อให้เรียนรู้ด้วยตนเองผ่านสื่อทั้ง 3 ส่วนภายในระยะเวลา 5 วัน โดยแนะนำให้ใช้เวลาเรียนรู้แต่ละครั้งประมาณ 20 นาที เมื่อครบกำหนดระยะเวลา 5 วัน กลุ่มตัวอย่างจึงทำแบบทดสอบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียน และตอบแบบสอบถามความพึงพอใจต่อชุดการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วม ทั้งนี้
ข้อมูลที่ได้ถูกนำมาวิเคราะห์โดยใช้สถิติเชิงพรรณนา ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และสถิติแบบทดสอบ t แบบจับคู่ (paired t-test)
ผลการวิจัยพบว่า ค่าเฉลี่ยผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนด้วยชุดการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วมเท่ากับ 5.76 คะแนน (SD = 1.61) ค่าเฉลี่ยผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนด้วยชุดการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วมเท่ากับ
8.02 คะแนน (SD = 1.33) กลุ่มตัวอย่างมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังการเรียนรู้สูงกว่าก่อนการเรียนรู้อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p < .001)
และนักศึกษามีความพึงพอใจต่อชุดการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วมเรื่องการประเมินความดันโลหิตอยู่ในระดับมากที่สุด มีคะแนนเฉลี่ย 4.84 คะแนน (SD = .43) เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่านักศึกษามีความพึงพอใจในทุกข้ออยู่ในระดับมากที่สุด โดยชุดการเรียนรู้มีแบบฝึกหัดที่มีความสอดคล้องกับเนื้อหา สะดวกและเข้าถึงง่าย มีคะแนนเฉลี่ยสูงสุด คือ 4.88 คะแนน (SD = .35) ส่วนตัวอักษรมีขนาดเหมาะสม สีที่ใช้อ่านง่าย สบายตา มีคะแนนเฉลี่ยต่ำสุด คือ 4.76 คะแนน (SD = .53) ผลการศึกษาแสดงให้เห็นว่าชุดการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วมส่งเสริมการมีปฏิสัมพันธ์และเพิ่มประสิทธิภาพการเรียนรู้ของนักศึกษาพยาบาลจึงควรนำชุดการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วมนี้ไปใช้ในการส่งเสริมการเรียนรู้ของนักศึกษาพยาบาลต่อไป
คำสำคัญ : การประเมินความดันโลหิต การเรียนรู้แบบมีส่วนร่วม นักศึกษาพยาบาล
Article Details
อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความ ข้อมูล เนื้อหา รูปภาพ ฯลฯ ที่ได้รับการตีพิมพ์ในรามาธิบดีพยาบาลสาร ถือเป็นลิขสิทธิ์ของวารสาร หากบุคคลหรือหน่วยงานใดต้องการนำทั้งหมดหรือส่วนหนึ่งส่วนใดไปเผยแพร่หรือเพื่อกระทำการใด ใด จะต้องได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจากรามาธิบดีพยาบาลสารก่อนเท่านั้น
เอกสารอ้างอิง
Gulati M, Peterson LA, Mihailidou A. Assessment of blood pressure skills and belief in clinical readings. Am J Prev Cardiol 2021;8:100280.
Mukkamala R, Yavarimanesh M, Natarajan K, Hahn JO, Kyriakoulismn KG, Avolio AP, et al. Evaluation of the accuracy of cuffless blood pressure measurement devices: challenges and proposals. Hypertension 2021;78 (5):1161-7.
Schutte AE, Kollias A, Stergiou GS. Blood pressure and its variability: classic and novel measurement techniques. Nat Rev Cardiol 2022;19(10):643-54.
Srisavarindhira Thai Red Cross Institute of Nursing. Bachelor of Nursing Science Program, revised curriculum 2022. Bangkok: Srisavarindhira Thai Red Cross Institute of Nursing; 2022.
Tuhuteru L, Misnawati D, Aslan A, Taufiqoh Z, Imelda I. The effectiveness of multimedia-based learning to accelerate learning after the pandemic at the basic education level. Tafkir: Interdisciplinary Journal of Islamic Education 2023;4(1):128-41.
Putri YDS, Arifin AZ. The effectiveness of multimedia PowerPoint based on iSpring suit 9 on the learning outcomes of IPA class IV students MIS Al-Hidayah Kamarang Lebak. SICEE 2023;1:346-53.
Çeken B, Taşkın N. Multimedia learning principles in different learning environments: a systematic review. Smart Learn Environ 2022;9(1):19-29.
Klaysang J. Systematic production and use of media for learning in the 21st century. 2nd ed. Bangkok: Chulalongkorn University Press; 2020. (in Thai)
Pahae S. Educational technology paradigm in the digital age. 2nd ed. Lampang: Khamnam Printing House; 2023. (in Thai)
Gligorea I, Cioca M, Oancea R, Gorski AT, Gorski H, Tudorache P. Adaptive learning using artificial intelligence in e-learning: a literature review. Educ Sci 2023;13(12):1216. doi: 10.3390/educsci13121216.
Komonwipast N, Ucharattana P. The effectiveness of an electronic book, entitled “Male indwelling urinary catheterization” for sophomore nursing students in fundamentals of nursing course. Songklanagarind Journal of Nursing. 2022;42(2):62–72. (in Thai)
Changpad T, Duangbubpha S. Development of online learning material to promote decision-making ability in morphine administration in clinical simulation among the third year nursing students. Journal of Health and Nursing Education. 2023;29(3):1–18. (in Thai)
Aungwattana S, Jaichomcheun S, Tuanrat W. Development of an instructional video for self-directed learning on systematic physical examination on nursing students’ practice skills and satisfaction. Nursing Journal of Chiang Mai University. 2022;49(2):112–27. (in Thai)
McGriff SJ. Instructional system design (ISD): Using the ADDIE model. Instruct Des Model. 2000;226(4):1–2.
Nakanakupt M, Jaichaun P. Impact of interactive delivery-demonstration video on undergraduate nursing students’ knowledge, confidence, delivery skills, and satisfaction with the video. Journal of Thailand Nursing and Midwifery Council. 2022;37(2):81–94. (in Thai)
Ordu Y, Aydogan S, Caliskan N. The effect of interactive learning method on nursing students’ learning of movement requirement: a randomized controlled study. Nurse Educ Today 2024;137:106163. doi:10.1016/j.nedt. 2024. 106163.
Kaufman R. Needs assessment for today: a framework for identifying and resolving problems. Perform Improv Q 2000;13(2):29–37.
Mayer RE. Multimedia learning. 3rd ed. Cambridge: Cambridge University Press; 2020.
Anderson LW, Krathwohl DR. A Taxonomy for learning, teaching and assessing: a revision of bloom’s taxonomy of educational objectives: complete edition. New York: Longman; 2001.
Piaget J. The psychology of intelligence. London: Routledge; 1950.
Vygotsky LS. Mind in society: the development of higher psychological processes. Cambridge, MA: Harvard University Press; 1978.
Lee E, Hannafin MJ. A design framework for enhancing engagement in student-centered learning: own it, learn it, and share it. Educ Technol Res Dev 2016;64(4):707-34.
Charoensuk S, Reunreang T, Choopun K, Kwannate C, Turner K, Theinpichet S. Effectiveness of interactive media on rational drug use in psychiatric nursing on knowledge and satisfaction of nursing students. Nursing Journal of The Ministry of Public Health. 2025;35(1):71-84. (in Thai)
Natarajan J, Joseph MA, Shibli ZS, Hajji SS, Hanawi DK, Kharusi AN, et al. Effectiveness of an interactive educational video on knowledge, skill and satisfaction of nursing students. Sultan Qaboos Univ Med J 2022;22(4):546-553.
Smaldino SE, Lowther DL, Mims C, Russell JD. Instructional technology and media for learning. Boston: Pearson Education; 2019.
