ผลของการจัดการเรียนการสอนโดยใช้กรณีศึกษาต่อการพัฒนาความสามารถในการใช้กระบวนการพยาบาลในคลินิกของนักศึกษาพยาบาล

Authors

  • พรศิริ พันธสี
  • อรพิน สีขาว

Abstract

งานวิจัยกึ่งทดลอง (Quasi-experimental research design) นี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเปรียบเทียบความสามารถในการใช้กระบวนการพยาบาลในคลินิกของนักศึกษาพยาบาลก่อนและหลังการจัดการเรียนการสอนโดยใช้กรณีศึกษา และความพึงพอใจของนักศึกษา ชั้นปีที่ 3 คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ จำนวน 16 คน เครื่องมือวิจัยประกอบด้วยกรณีศึกษา แผนการสอนการใช้กระบวนการพยาบาลในคลินิก แบบประเมินภาวะสุขภาพและแผนการพยาบาล แบบตรวจสอบความสามารถใช้กระบวนการพยาบาล และแบบสอบถามความพึงพอใจของนักศึกษาต่อการจัดการเรียนการสอนโดยใช้กรณีศึกษา วิเคราะห์ข้อมูลโดยหาค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และวิเคราะห์ความแตกต่างของค่าเฉลี่ยด้วยวิธี

Wilcoxon Sign Ranks Test และ Fricdman  Test

ผลการวิจัยพบว่าคะแนนเฉลี่ยความสามารถในการใช้กระบวนการพยาบาลในคลินิกของนักศึกษาที่ประเมินโดยนักศึกษาและอาจารย์หลังจากการจัดการเรียนการสอนโดยใช้กรณีศึกษาทั้งสถานการณ์จำลองและสถานการณ์จริงสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 และ .001 ตามลำดับ และนักศึกษามีความพึงพอใจต่อการเรียนการสอนโดยใช้กรณีศึกษาในระดับมาก สิ่งที่นักศึกษาพึงพอใจมากที่สุด 3 อันดับแรก คือ การมีโอกาสแสดงความคิดเห็นในขณะเรียนได้อย่างเต็มที่ การได้ฝึกคิดอย่างมีเหตุผล และบรรยากาศในการเรียนที่ไม่ทำให้ผู้เรียนเกิดความรู้สึกอึดอัดที่จะปฏิสัมพันธ์กับอาจารย์

ข้อเสนอแนะจากการวิจัย ควรมีการเตรียมความรู้พื้นฐานที่เกี่ยวข้องก่อนการฝึกปฏิบัติในคลินิกเพื่อนักศึกษาจะได้มีความสามารถวิเคราะห์ปัญหาผู้ใช้บริการและวางแผนการพยาบาลได้อย่างมีประสิทธิภาพ และควรสนับสนุนให้มีการพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนการสอนโดยใช้กรณีศึกษาต่อเนื่อง

คำสำคัญ : กรณีศึกษา กระบวนการพยาบาล การเรียนการสอน นักศึกษาพยาบาล

Downloads

Download data is not yet available.

Downloads

How to Cite

1.
พันธสี พ, สีขาว อ. ผลของการจัดการเรียนการสอนโดยใช้กรณีศึกษาต่อการพัฒนาความสามารถในการใช้กระบวนการพยาบาลในคลินิกของนักศึกษาพยาบาล. J Thai Nurse midwife Counc [Internet]. 2012 Sep. 7 [cited 2024 Dec. 23];24(3):81. Available from: https://he02.tci-thaijo.org/index.php/TJONC/article/view/2577