ปัจจัยทำนายความตั้งใจ ของคู่สมรสหญิงตั้งครรภ์ในการมาใช้บริการตรวจคัดกรองเพื่อหาการติดเชื้อเอชไอวี

Authors

  • เบญจพร พงศ์อำไร
  • ประณีต ส่งวัฒนา
  • อุมาพร ปุญญโสพรรณ

Abstract

การวิจัยเชิงบรรยายนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาปัจจัยทำนายความตั้งใจในการใช้บริการตรวจคัดกรอง เพื่อหาการติดเชื้อเอชไอวีของคู่สมรสหญิงตั้งครรภ์ กลุ่มตัวอย่างเป็นคู่สมรสของหญิงตั้งครรภ์ที่มาพร้อมภรรยาในการมาฝากครรภ์ ณ ศูนย์รับบริการฝากครรภ์โรงพยาบาลหาดใหญ่ และโรงพยาบาลสงขลา จำนวน 212 ราย เลือกกลุ่มตัวอย่างแบบเฉพาะเจาะจง ตามคุณสมบัติที่กำหนด เก็บรวมรวบข้อมูลโดยใช้แบบสอบถามที่ ผู้วิจัยสร้างขึ้นตามกรอบแนวคิดทฤษฏีพฤติกรรมตามแผนและจากการทบทวนวรรณกรรม ประกอบด้วย 1) ข้อมูลส่วนบุคคล 2) ทัศนคติเกี่ยวกับการตรวจ คัดกรอง 3) การคล้อยตามกลุ่มอ้างอิง 4) การรับรู้ความสามารถในการควบคุมพฤติกรรม และ 5) ความตั้งใจในการมาใช้บริการตรวจคัดกรอง ซึ่งหาค่าความเที่ยงโดยใช้สูตรสัมประสิทธิ์แอลฟาของคอนบาค ได้ค่าความเที่ยงของแบบสอบถาม ส่วนที่ 2 – 5 ได้ค่าอยู่ระหว่าง 0.85 - 0.94 วิเคราะห์ข้อมูลโดยการแจกแจงความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ของเพียร์สัน และการวิเคราะห์ถดถอยพหุแบบขั้นตอน

ผลการวิจัยพบว่า กลุ่มตัวอย่างมีทัศนคติ การคล้อยตามกลุ่มอ้างอิง การรับรู้ความสามารถในการควบคุมพฤติกรรม และความตั้งใจในการใช้บริการตรวจคัดกรองเพื่อหาการติดเชื้อเอชไอวี อยู่ในระดับปานกลาง และปัจจัยดังกล่าวสามารถร่วมกันทำนายความแปรปรวนของความตั้งใจในการใช้บริการตรวจคัดกรองเพื่อหาการติดเชื้อเอชไอวีได้ ร้อยละ 24 โดยเฉพาะการคล้อยตามกลุ่มอ้างอิงที่มีผลทำนายอย่างมีนัยสำคัญ (β = .41, b = .04, p < .001) ดังนั้นพยาบาล และบุคลากรในทีมสุขภาพควรมีการพัฒนาการให้บริการคำปรึกษาแก่คู่สมรสทุกคู่ที่มารับบริการฝากครรภ์ เพื่อช่วยในการตัดสินใจของสามีในการตรวจหาการติดเชื้อเอชไอวีโดยความสมัครใจได้มากขึ้น

คำสำคัญ: ทัศนคติ ความตั้งใจ การตรวจคัดกรอง เอชไอวี คู่สมรส หญิงตั้งครรภ์

Downloads

Download data is not yet available.

Downloads

Published

2012-09-07

How to Cite

1.
พงศ์อำไร เ, ส่งวัฒนา ป, ปุญญโสพรรณ อ. ปัจจัยทำนายความตั้งใจ ของคู่สมรสหญิงตั้งครรภ์ในการมาใช้บริการตรวจคัดกรองเพื่อหาการติดเชื้อเอชไอวี. J Thai Nurse midwife Counc [Internet]. 2012 Sep. 7 [cited 2024 Nov. 22];24(4):70. Available from: https://he02.tci-thaijo.org/index.php/TJONC/article/view/2587