ความรู้ ทัศนคติ และการปฏิบัติในการป้องกันการติดเชื้อในกระแสโลหิต ที่สัมพันธ์กับการใส่สายสวนหลอดเลือดดำส่วนกลางของพยาบาลวิชาชีพ

ผู้แต่ง

  • พรพิมล อรรถพรกุศล คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
  • นงค์คราญ วิเศษกุล คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
  • นงเยาว์ เกษตร์ภิบาล คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

คำสำคัญ:

ความรู้, ทัศนคติ, การปฏิบัติ, การป้องกันการติดเชื้อในกระแสโลหิตที่สัมพันธ์กับการใส่สายสวนหลอดเลือดดำส่วนกลาง, พยาบาลวิชาชีพ

บทคัดย่อ

การติดเชื้อในกระแสโลหิตที่สัมพันธ์กับการใส่สายสวนหลอดเลือดดำส่วนกลางเป็นสาเหตุสำคัญทำให้ผู้ป่วยเสียชีวิต การปฏิบัติของพยาบาลวิชาชีพจึงมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการป้องกันการติดเชื้อในกระแสโลหิตที่สัมพันธ์กับการใส่สายสวนหลอดเลือดดำส่วนกลาง การวิจัยนี้เป็นการวิจัยเชิงพรรณนา     หาความสัมพันธ์ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความรู้ ทัศนคติ และการปฏิบัติในการป้องกันการติดเชื้อในกระแสโลหิตที่สัมพันธ์กับการใส่สายสวนหลอดเลือดดำส่วนกลางของพยาบาลวิชาชีพ รวมทั้งศึกษาความสัมพันธ์ของความรู้ ทัศนคติ และการปฏิบัติในการป้องกันการติดเชื้อในกระแสโลหิตที่สัมพันธ์กับการใส่สายสวนหลอดเลือดดำส่วนกลางของพยาบาลวิชาชีพ กลุ่มตัวอย่างที่ศึกษาคือ พยาบาลวิชาชีพจำนวน 268 คน ที่ปฏิบัติงานในหอผู้ป่วยวิกฤต หอผู้ป่วยอายุรกรรม และหอผู้ป่วยศัลยกรรม โรงพยาบาลระดับตติยภูมิ สังกัดกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข จำนวน 3 แห่ง รวบรวมข้อมูลระหว่างเดือนมิถุนายน พ.ศ.2560 ถึงเดือนกันยายน พ.ศ.2560 เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย 4 ส่วน คือ แบบสอบถามข้อมูลทั่วไป แบบวัดความรู้ในการป้องกันการติดเชื้อในกระแสโลหิตที่สัมพันธ์กับการใส่สายสวนหลอดเลือดดำส่วนกลาง แบบวัดทัศนคติเกี่ยวกับการปฏิบัติเพื่อป้องกันการติดเชื้อที่สัมพันธ์กับการใส่สายสวนหลอดเลือดดำส่วนกลาง และแบบสอบถามการปฏิบัติเพื่อป้องกันการติดเชื้อที่สัมพันธ์กับการใส่สายสวนหลอดเลือดดำส่วนกลาง ซึ่งแบบสอบถามดังกล่าวผ่านการตรวจสอบความตรงเชิงเนื้อหาจากผู้ทรงคุณวุฒิ 5 ท่าน ได้ค่าดัชนีความตรงเชิงเนื้อหาเท่ากับ 1.0 และทดสอบความเชื่อมั่นได้ค่าเท่ากับ .81, .70 และ .93 ตามลำดับ วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติเชิงพรรณนาและวิเคราะห์หาความสัมพันธ์ระหว่างคะแนนความรู้ ทัศนคติ และการปฏิบัติเพื่อป้องกันการติดเชื้อที่สัมพันธ์กับการใส่สายสวนหลอดเลือดดำส่วนกลางของกลุ่มตัวอย่างโดยใช้สถิติสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์สเปียร์แมน

ผลการวิจัยพบว่า กลุ่มตัวอย่างมีความรู้ในการป้องกันการติดเชื้อในกระแสโลหิตที่สัมพันธ์กับการใส่สายสวนหลอดเลือดดำส่วนกลางโดยรวมอยู่ในระดับปานกลาง โดยมีค่ามัธยฐานเท่ากับ 11 คะแนน จากคะแนนเต็ม 17 คะแนน กลุ่มตัวอย่างมีทัศนคติเกี่ยวกับการปฏิบัติเพื่อป้องกันการติดเชื้อในกระแสโลหิตที่สัมพันธ์กับการใส่สายสวนหลอดเลือดดำส่วนกลางโดยรวมอยู่ในระดับสูง โดยค่าคะแนนมัธยฐานเท่ากับ 52 คะแนน จากคะแนนเต็ม 64 คะแนน และมีคะแนนการปฏิบัติเพื่อป้องกันการติดเชื้อในกระแสโลหิตที่สัมพันธ์กับการใส่สายสวนหลอดเลือดดำส่วนกลางโดยรวมอยู่ในระดับสูงโดยมีค่ามัธยฐานเท่ากับ 45 คะแนน จากคะแนนเต็ม 51 คะแนน นอกจากนี้ยังพบว่า ความรู้กับทัศนคติในการป้องกันการติดเชื้อในกระแสโลหิตที่สัมพันธ์กับการใส่สายสวนหลอดเลือดดำส่วนกลางของพยาบาลวิชาชีพมีความสัมพันธ์ทางบวกอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 (r = .258) ความรู้กับการปฏิบัติเพื่อป้องกันการติดเชื้อในกระแสโลหิตที่สัมพันธ์กับการใส่สายสวนหลอดเลือดดำส่วนกลางของกลุ่มตัวอย่างมีความสัมพันธ์ทางบวกอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 (r = .191) และทัศนคติกับการปฏิบัติเพื่อป้องกันการติดเชื้อในกระแสโลหิตที่สัมพันธ์กับการใส่สายสวนหลอดเลือดดำส่วนกลางของกลุ่มตัวอย่างมีความสัมพันธ์ทางบวกอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 (r = .332)

ผลการวิจัยนี้สามารถนำไปใช้เป็นข้อมูลพื้นฐานและเป็นแนวทางในการวางแผนเพื่อส่งเสริมความรู้ ทัศนคติ และการปฏิบัติเพื่อป้องกันการติดเชื้อในกระแสโลหิตที่สัมพันธ์กับการใส่สายสวนหลอดเลือดดำส่วนกลางของพยาบาลวิชาชีพในโรงพยาบาลสังกัดกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข

เอกสารอ้างอิง

Centers for Disease Control and Prevention. (2011). Guidelines for the Prevention of Intravascular Catheter-Related Infections. Retrieved from http://www.cdc.gov/nhsn/pdfs/pscmanual/4psc_clabscurrent.pdf

Centers for Disease Control and Prevention. (2016). Central Line-Associated Bloodstream Infection (CLABSI) and non-central line-Associated Bloodstream Infection. Retrieved from http://www.cdc.gov/nhsn/pdfs/pscmanual/4psc_clabscurrent.pdf

Guembe, M., Bustinza, A., Sanchez Luna, M., Carrillo-Alvarez, A., Perez Sheriff, V., & Bouza, E. (2012). Guidelines for preventing catheter infection: Assessment of knowledge and practice among paediatric and neonatal intensive care healthcare workers. The Journal of Hospital Infection, 81(2), 123-127. doi:10.1016/j.jhin.2012.02.010

Kamput, P. (2012). Nursing competencies in semi-critical care in a tertiary hospital. Thesis, Christian university. (in Thai).

Rachavithi. (2015). Indicators of quality, Rachavithi hospital. Retrieved from http://110.164.68.234/kpiprp/ main_firstpage.php?module=report&date1=2014-06-01&date2=2014-06-30&Page=3

Rosenthal, V. D., Maki, D. G., Rodrigues, C., Álvarez-Moreno, C., Leblebicioglu, H., Sobreyra-Oropeza, M., . . . Fernández-Hidalgo, R. (2010). Impact of International Nosocomial Infection Control Consortium (INICC) strategy on central line-associated bloodstream infection rates in the intensive care units of 15 developing countries. Infection Control and Hospital Epidemiology, 31(12), 1264-1272. doi:10.1086/657140

Schwartz, N. E. (1975). Nutritional knowledge, attitude, and practices of high school graduated. Journal of the American Dietetic Association, 66(1), 28-31.

Yamane, Taro. (1973). Statistics and Introduction Analysis. 3. New York: Harper & Row.

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2021-06-11

รูปแบบการอ้างอิง

อรรถพรกุศล พ. . . . ., วิเศษกุล น. . ., & เกษตร์ภิบาล น. . . (2021). ความรู้ ทัศนคติ และการปฏิบัติในการป้องกันการติดเชื้อในกระแสโลหิต ที่สัมพันธ์กับการใส่สายสวนหลอดเลือดดำส่วนกลางของพยาบาลวิชาชีพ. พยาบาลสาร มหาวิทยาลัยเชียงใหม่, 48(2), 26–36. สืบค้น จาก https://he02.tci-thaijo.org/index.php/cmunursing/article/view/251495

ฉบับ

ประเภทบทความ

บทความวิจัย