การพัฒนาเว็บแอปพลิเคชันสำหรับการเฝ้าระวังการติดเชื้อตำแหน่งผ่าตัดหลังจำหน่าย
คำสำคัญ:
เว็บแอปพลิเคชัน, การเฝ้าระวัง, การติดเชื้อตำแหน่งผ่าตัด, ผู้ป่วยหลังจำหน่ายบทคัดย่อ
การติดเชื้อตำแหน่งผ่าตัดส่วนใหญ่ตรวจพบหลังจากผู้ป่วยจำหน่ายจากโรงพยาบาล ประมาณร้อยละ 23-44 ดังนั้นควรมีการพัฒนาวิธีการเฝ้าระวังการติดเชื้อตำแหน่งผ่าตัดหลังจำหน่ายที่มีประสิทธิภาพ เพื่อให้ได้อัตราการติดเชื่อตำแหน่งผ่าตัดที่ถูกต้องตามความเป็นจริง การศึกษาครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงพัฒนา มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาเว็บแอปพลิเคชันสำหรับการเฝ้าระวังการติดเชื้อตำแหน่งผ่าตัดหลังจำหน่าย และศึกษาประสิทธิผลของเว็บแอปพลิเคชันสำหรับการเฝ้าระวังการติดเชื้อตำแหน่งผ่าตัดหลังจำหน่าย กลุ่มตัวอย่างคือ ผู้ป่วยที่ได้รับการรักษาโดยวิธีการผ่าตัดใหญ่ จำนวน 42 คน ในโรงพยาบาลศูนย์ ดำเนินการพัฒนาเว็บแอปพลิเคชัน และรวบรวมข้อมูลระหว่างเดือนพฤศจิกายน พ.ศ.2560 ถึงเดือน มีนาคม พ.ศ.2561 เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ ประกอบด้วย 2 ส่วน คือ ส่วนที่ 1 แบบสอบถามข้อมูลทั่วไป และส่วนที่ 2 เว็บแอปพลิเคชันสำหรับการเฝ้าระวังการติดเชื้อตำแหน่งผ่าตัดหลังจำหน่าย ซึ่งประกอบด้วย แบบเฝ้าระวังการติดเชื้อตำแหน่งผ่าตัด และแบบสอบถามความพึงพอใจของผู้ป่วยต่อการใช้เว็บแอปพลิเคชัน ซึ่งผ่านการตรวจสอบความตรงของเนื้อหาโดยผู้ทรงคุณวุฒิ 5 ท่าน แบบเฝ้าระวังการ ติดเชื้อตำแหน่งผ่าตัด และแบบสอบถามความพึงพอใจของผู้ป่วยต่อการใช้เว็บแอปพลิเคชัน ได้ค่าดัชนีความตรงตามเนื้อหาเท่ากับ 1.0 และมีค่าความเชื่อมั่นของเครื่องมือเท่ากับ 1.0 และ .89 ตามลำดับ ประเมินประสิทธิผลของเว็บแอปพลิเคชันโดยการนำไปทดสอบแบบหนึ่งต่อหนึ่ง แบบกลุ่มย่อย และแบบภาคสนาม วิเคราะห์ข้อมูลโดยสถิติเชิงพรรณนา
ผลการวิจัยพบว่า เว็บแอปพลิเคชันสำหรับการเฝ้าระวังการติดเชื้อตำแหน่งผ่าตัดหลังจำหน่าย ประกอบด้วย 2 ส่วน คือ ส่วนที่ 1 เว็บแอปพลิเคชันสำหรับผู้เข้าใช้งาน ประกอบด้วย การเข้าใช้ระบบ การกรอกข้อมูลทั่วไป แบบเฝ้าระวังการติดเชื้อตำแหน่งผ่าตัด เนื้อหาการให้ความรู้แก่ผู้ป่วยในเรื่องวิธีประเมินแผลผ่าตัด และการดูแลแผลผ่าตัด สรุปอาการและอาการแสดงของการติดเชื้อตำแหน่งผ่าตัด ภาพถ่ายแผลผ่าตัด และการติดต่อสื่อสารกับบุคลากรทางการแพทย์ แบบสอบถามความ พึงพอใจต่อเว็บแอปพลิเคชัน วิธีการใช้งานเว็บแอปพลิเคชัน ระยะเวลาการเฝ้าระวังการติดเชื้อตำแหน่งผ่าตัด และการออกจากระบบ ส่วนที่ 2 เว็บแอปพลิเคชันสำหรับผู้ดูแลระบบ ประกอบด้วย เพิ่มผู้ดูแลระบบเพิ่มผู้ป่วย สรุปข้อมูลผู้ป่วยรายคน สรุปข้อมูลผู้ป่วยรายวัน สรุปแบบความพึงพอใจต่อเว็บแอปพลิเคชัน รายงานอาการและอาการแสดงการติดเชื้อตำแหน่งผ่าตัด และการออกจากระบบ ประสิทธิผลของเว็บแอปพลิเคชันสำหรับการเฝ้าระวังการติดเชื้อตำแหน่งผ่าตัดหลังจำหน่าย คือ กลุ่มตัวอย่างให้ข้อมูลอาการและอาการแสดงของการติดเชื้อตำแหน่งผ่าตัดผ่านเว็บแอปพลิเคชันครบทุกราย กลุ่มตัวอย่างได้รับการวินิจฉัยการติดเชื้อตำแหน่งผ่าตัดภายใน 24 ชั่วโมงทุกราย และกลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่มีความพึงพอใจต่อเว็บแอปพลิเคชันสำหรับการเฝ้าระวังการติดเชื้อตำแหน่งผ่าตัดหลังจำหน่ายในระดับมากถึงมากที่สุดทั้งด้านเนื้อหา (ค่าเฉลี่ย 4.40 – 4.51) ด้านการออกแบบและนำเสนอ (ค่าเฉลี่ย 4.14 – 4.51) ด้านประโยชน์ที่ได้รับ (ค่าเฉลี่ย 4.33 – 4.62) และด้านความพึงพอใจในภาพรวม (ค่าเฉลี่ย 4.55)
ผลการวิจัยครั้งนี้แสดงว่าเว็บแอปพลิเคชันสำหรับการเฝ้าระวังการติดเชื้อตำแหน่งผ่าตัดหลังจำหน่ายที่พัฒนาขึ้นมีประสิทธิผล สามารถนำไปใช้ในการเฝ้าระวังการติดเชื้อตำแหน่งผ่าตัดหลังจำหน่ายได้ เพื่อให้ได้ข้อมูลที่ครบถ้วน และอัตราการติดเชื้อตำแหน่งผ่าตัดที่ถูกต้อง อีกทั้งยังช่วยผู้ป่วยได้รับการวินิจฉัยการติดเชื้อตำแหน่งผ่าตัดอย่างรวดเร็ว และได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที
เอกสารอ้างอิง
Centers for Disease Control and Prevention. (2013). CDC/NHSN protocol clarifications. Retrieved from https:// www.cdc.gov/nhsn/pdfs/pscmanual/pcsmanual_current.pdf.
Cybulski, E., Erickson, A., Falco, J., Ingersol, C., & Kumi, E. (2014). Hospitals Battling to Reduce Readmission Due to Surgical Site Infections. Retrieved from http://www.slideshare.net/EricCybulski/ssi-final-51703770
Eamsiriwong, O. (2002). Analysis and design a system. Bangkok: SE-ED.
Kasatpibal, N., Nørgaard, M., & Jamulitrat, S. (2009). Improving surveillance system and surgical site infection rates through a network: A pilot study from Thailand. Clinical epidemiology, 1, 67-74.
Mangram, A. J., Horan, T. C., Pearson, M. L., Silver, L. C., Jarvis, W. R., & Hospital Infection Control Practices Advisory Committee. (1999). Guideline for prevention of surgical site infection, 1999. American Journal of Infection Control, 27(2), 97-134.
Martinez-Pere, B., Tone-Diez, I., & Lopez-Coronado, M. (2015). Privacy and security in mobile health apps: a review and recommendations. Journal of Medical Systems, 39, 181.
Sanger, P. C., Hartzler, A., Lober, W. B., Evans, H. L., & Pratt, W. (2014). Design considerations for post-acute care mHealth: Patient perspectives. In Proceedings of AMIA Annual Symposium, 1920-1929.
Sanger, P. C., Hartzler, A., Lorrdon, R. J., Armstromg, C.A., Lober, W. B., Evans, H. L., & Pratt, W. (2016). A patient-centeres system in a provider-centered world: challenges of incorporating post discharge wound data into practice. Journal of American Medical Association, 23, 514-525.
Semple, J. L., Sharpe, S., Murnaghan, M. L., Theodoropoulos, J., & Metcalfe, K. A. (2015). Using a mobile app for monitoring post-operative quality of recovery of patients at home: a feasibility study. JMIR mHealth and uHealth, 3(1), 18-21.
Shepard, J., Ward, W., Milstone, A., Carlson, T., Frederick, J., Hadhazy, E., & Perl, T. (2013). Financial impact of surgical site infections on hospitals: the hospital management perspective. Journal of the American Medical Association of Surgery, 148(10), 907-914.
Sparks, E. K., Lorden, R., Hartzler, A., Whitney, J., Evans, H., & Lober, W. (2016). Patient-generated serial photos of surgical wounds following discharge to guide clinical decision making. Retrieved from http://c.ymcdn.com/sites/siim.org/resource/resmgr/siim2016abstracts/Poster_Demo_Sparks.pdf.
Suwannakeeree, W., & Payaprom, Y. (2017). Prevention of surgical site infection. Nursing Journal, 29(2). 15-28.
World Health organization. (2015). Size and distribution of the global volume of surgery in 2012. Retrieved from http://www.who.int/bulletin/volumes/94/3/15-159293/en.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของวารสารพยาบาลสาร
ข้อความที่ปรากฏในบทความแต่ละเรื่องในวารสารวิชาการเล่มนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนแต่ละท่านไม่เกี่ยวข้องกับมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และคณาจารย์ท่านอื่นๆในมหาวิทยาลัยฯ แต่อย่างใด ความรับผิดชอบองค์ประกอบทั้งหมดของบทความแต่ละเรื่องเป็นของผู้เขียนแต่ละท่าน หากมีความผิดพลาดใด ๆ ผู้เขียนแต่ละท่านจะรับผิดชอบบทความของตนเองแต่ผู้เดียว