ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการป้องกันการมีเพศสัมพันธ์ในวัยเรียนของนักเรียนหญิง ระดับมัธยมศึกษา จังหวัดอุทัยธานี

Main Article Content

สุนารี หอมจันทร์
มลินี สมภพเจริญ
มณีรัตน์ ธีระวิวัฒน์

บทคัดย่อ

การวิจัยนี้เป็นการวิจัยเชิงสำรวจแบบภาคตัดขวาง เพื่อศึกษาปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรม การป้องกันการมีเพศสัมพันธ์ในวัยเรียนของนักเรียนหญิง ระดับมัธยมศึกษา จังหวัดอุทัยธานี กลุ่มตัวอย่าง คือ นักเรียนหญิงระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1-6 ที่กำลังศึกษาในโรงเรียนมัธยมศึกษา จังหวัดอุทัยธานี  ปีการศึกษา 2565 จำนวน 294 คน  คัดเลือกกลุ่มตัวอย่างโดยวิธีสุ่มแบบหลายขั้นตอน เก็บรวบรวมข้อมูลด้วยแบบสอบถามออนไลน์  วิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติไคสแควร์ และสถิติสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์แบบเพียร์สัน ผลการศึกษา พบว่า นักเรียนส่วนมากมีพฤติกรรมป้องกันการมีเพศสัมพันธ์ ในวัยเรียนอยู่ในระดับต่ำ ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมป้องกันการมีเพศสัมพันธ์ในวัยเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p < 0.05)  พบว่า ปัจจัยด้านคุณลักษณะส่วนบุคคล ได้แก่ ผลการเรียน (p = 0.021)  และรายได้ที่ได้รับจากผู้ปกครอง  (p = 0.040)  มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมป้องกันการมีเพศสัมพันธ์ในวัยเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 ส่วนปัจจัยนำ ได้แก่ การรับรู้ความรุนแรง มีความสัมพันธ์กันอยู่ในระดับต่ำ  (r = 0.211,  p < 0.001) เจตคติต่อพฤติกรรมป้องกันการมีเพศสัมพันธ์ในวัยเรียน มีความสัมพันธ์กันอยู่ในระดับต่ำมาก (r = 0.186, p < 0.001) ปัจจัยเอื้อ ได้แก่ การรู้  เท่าทันสื่อ มีความสัมพันธ์กันอยู่ในระดับต่ำ (r = 0.276, p < 0.001) ทักษะป้องกันการมีเพศสัมพันธ์ มีความสัมพันธ์กันในทิศทางลบอยู่ในระดับต่ำมาก (r = -0.355,  p < 0.001)  และปัจจัยเสริม ได้แก่ การได้รับแรงสนับสนุนทางสังคมจากครู ผู้ปกครอง มีความสัมพันธ์กันอยู่ในระดับต่ำ (r = 0.246,  p < 0.001) และอิทธิพลจากกลุ่มเพื่อน มีความสัมพันธ์กันอยู่ในระดับปานกลาง (r = 0.590, p < 0.001) ดังนั้น ควรมีการจัดโปรแกรมสร้างเสริมหรือฝึกทักษะให้กับนักเรียนทุกระดับชั้น  เพื่อป้องกันการมีเพศสัมพันธ์ในวัยเรียน เน้นการเรียนรู้ด้วยตนเอง และผลกระทบที่จะได้รับจากการปฏิบัติพฤติกรรม

Article Details

บท
นิพนธ์ต้นฉบับ (Original Articles)

References

สำนักอนามัยการเจริญพันธุ์ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข. รายงานสถานการณ์อนามัยการเจริญพันธุ์ในวัยรุ่นและเยาวชน ปี 2564. กรุงเทพมหานคร: ผู้งแต่ง; 2564.

ภัทรพงศ์ ชูเศษ. การศึกษาการดำเนินงานป้องกันและแก้ไขปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยรุ่นของกลไกคณะกรรมการพัฒนาคุณภาพชีวิตระดับอำเภอ (พชอ.). กรุงเทพมหานคร: กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข; 2565.

Health Data Center. คลังข้อมูลสุขภาพ (Health Data Center) กระทรวงสาธารณสุข. [ออนไลน์]. 2565. เข้าถึงได้จาก : https://hdcservice.moph.go.th/hdc/main/index.php. (วันที่ค้นข้อมูล : 18 มิถุนายน 2566)

สำนักอนามัยการเจริญพันธุ์ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข. รายงานสถานการณ์อนามัยการเจริญพันธุ์ในวัยรุ่นและเยาวชน ปี 2564. กรุงเทพมหานคร: ผู้งแต่ง; 2564.

มาลี สบายยิ่ง.พฤติกรรมเสี่ยงทางเพศของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายในสังคมปัจจุบัน. วารสารวิทยบริการ, 2562; 30(3): 121-127.

ธัญญาพัฒน์ คำสีหา, จุไรรัตน์ อาจแก้ว, ภัทราพร เกษสังข์. ปัจจัยที่ส่งผลต่อพฤติกรรมเสี่ยงทางเพศของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 19: การวิเคราะห์พหุระดับ. วารสารวิชาการ มหาวิทยาลัยราชภัฏศรีสะเกษ, 2526; 13(3): 26–33.

พิมข์ขวัญ เพนเทศ. ปัจจัยที่ส่งผลต่อการป้องกันพฤติกรรมเสี่ยงทางเพศของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย ตำบลบ้านกลาง อำเภอวังทอง จังหวัดพิษณุโลก (วิทยานิพนธ์สาธารณสุขศาสตรมหาบัณฑิต). คณะสาธารณสุขศาสตร์ : พิษณุโลก : มหาวิทยาลัยนเรศวร; 2561.

กระทรวงศึกษาธิการ. ตัวชี้วัดและสาระการเรียนรู้แกนกลางต้องรู้และควรรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551. กรุงเทพมหานคร: ผู้แต่ง, 2559.

จักรพันธ์ เพ็ชรภูมิ. พฤติกรรมสุขภาพ: แนวคิด ทฤษฎี และการประยุกต์ใช้. พิษณุโลก: มหาวิทยาลัยนเรศวร; 2560.

ระบบสารสนเทศเพื่อบริหารการศึกษา สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน. (2565). ศูนย์ปฏิบัติการข้อมูลสารสนเทศ (ข้อมูลนักเรียน). [ออนไลน์]. 2565. เข้าถึงได้จาก : https://data.bopp-obec.info/emis/. (วันที่ค้นข้อมูล : 18 มิถุนายน 2566)

Wayne, W. D. Biostatistics: A foundation of analysis in the health sciences. 6th ed. New York: Wiley & Sons; 1995.

Bloom BS. Learning for master evaluation Comment. Centerfor the Student of Evaluation of Instruction Program. Los Angeles: University of California; 1968.

ณิชาภัทร ปุ่นมีกิจ. ปัจจัยที่มีผลต่อพฤติกรรมเสี่ยงทางเพศของนักเรียนหญิงชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นเมืองพัทยา (วิทยานิพนธ์พยาบาลศาสตรมหาบัณฑิต). คณะพยาบาลศาสตร์ : ชลบุรี : มหาวิทยาลัยบูรพา; 2559.

พิมพ์วดี โรจน์เรืองนนท์, อลิสา นิติธรรม, สุพัฒน์ ธีรเวชเจริญชัย. ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมป้องกันการตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์ของนักศึกษาหญิง ระดับอุดมศึกษาแห่งหนึ่ง ในเขตกรุงเทพมหานคร. วารสารวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยมหาสารคาม, 2560; 36(2): 194-202.

พัชราพร ควรรณสุ, พิศิษฐ์ เสรีธรรมะพิทักษ์, นันทนา ควรรณสุ. ปัจจัยที่มีผลต่อการตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์ในวัยรุ่นหญิง จังหวัดนครพนม. วารสารอนามัยสิ่งแวดล้อมและสุขภาพชุมชน, 2556; 1(8): 324-336.

สำนักงานคุ้มครองผู้บริโภคในกิจการกระจายเสียงและโทรทัศน์. รู้เท่าทันสื่อ Media Literacy. กรุงเทพมหานคร: มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต; 2557.

รัชชานันท์ ศรีสุภักดิ์, ประภากร ศรีสว่างวงศ์ และภรรวษา จันทศิลป์. จจัยที่มีความสัมพันธ์ ต่อภาวะการป้องกันการตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์ของวัยรุ่นในเขตเทศบาลเมือง จังหวัดมหาสารคาม. วารสารสาธารณสุขและวิทยาศาสตร์สุขภาพ, 2564; 2(4): 100 - 108.

Bandura A. Self-efficacy: Toward a unifying theory of behavioral change. Psychological Review, 1997; 84(2): 191-215.

วิพรรษา คำรินทร์, สิริมา มลคลสัมฤทธิ์. พฤติกรรมเสี่ยงทางเพศและปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับการมีเพศสัมพันธ์ของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษา โรงเรียนศึกษาสงเคราะห์. วารสาร วิชาการสาธารณสุข, 2561; 4(27), 557-596.