ปัจจัยทำนายพฤติกรรมป้องกันการใช้กัญชาและกระท่อมเพื่อการนันทนาการของผู้ปกครองนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาในจังหวัดเชียงใหม่
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยภาคตัดขวางเชิงวิเคราะห์นี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาระดับความรู้ ความตระหนัก และพฤติกรรมการป้องกันการใช้กัญชาและกระท่อมเพื่อการนันทนาการของบุตรหลาน ของผู้ปกครองนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาในจังหวัดเชียงใหม่ รวมถึงปัจจัยทำนายพฤติกรรมการป้องกัน กลุ่มตัวอย่างคือผู้ปกครองของนักเรียนมัธยมศึกษาจาก 5 โรงเรียน โรงเรียนละ 100 คน ทำการกำหนดสัดส่วนในแต่ละชั้นปี และสุ่มตัวอย่างแบบง่ายเพื่อให้ได้กลุ่มตัวอย่าง เก็บข้อมูลด้วยแบบสอบถามระหว่างเดือนมกราคม ถึงมีนาคม 2567 วิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติเชิงพรรณนา และวิเคราะห์การถดถอยโลจิสติก ผลการศึกษาพบว่า กลุ่มตัวอย่าง 500 คน มีการใช้กัญชาและกระท่อมร้อยละ 2.2 และ 1.8 ตามลำดับ มีการปลูกกัญชาหรือกระท่อมเพื่อการบริโภคในครัวเรือน ร้อยละ 4.3 และได้รับข้อมูลข่าวสารจากโรงเรียน ร้อยละ 52.4 กลุ่มตัวอย่างมีความรู้ต่อกัญชาและกระท่อมในระดับต้องปรับปรุง ร้อยละ 41.9 และ 45.5 ตามลำดับ มีความตระหนักต่อกัญชาและกระท่อมในระดับปานกลาง ร้อยละ 48.2 และ 49.2 ตามลำดับ และมีพฤติกรรมการป้องกันการใช้กัญชาและกระท่อมของบุตรหลานในระดับเหมาะสมร้อยละ 67.2 และพบว่าปัจจัยทำนายพฤติกรรมการป้องกันของผู้ปกครอง ประกอบด้วย เพศหญิง, การได้รับข้อมูลโทษของกัญชา/กระท่อมที่มีต่อเด็ก, การได้รับข้อมูลจากโรงเรียน, การเป็นบิดา-มารดาของเด็ก, ความรู้ต่อโทษของกัญชาที่มีต่อเด็กระดับปานกลางถึงดี และความตระหนักต่อโทษของกัญชาที่มีต่อเด็กในระดับปานกลางถึงเหมาะสม โดยสามารถทำนายพฤติกรรมการป้องกันของกลุ่มตัวอย่างได้ร้อยละ 38.1 ข้อเสนอแนะคือ สถานศึกษาควรสนับสนุนให้ผู้ปกครองมีบทบาทในเชิงรุก เช่น การพูดคุยหรือแนะนำโทษของกัญชาและกระท่อม การเฝ้าระวังหรือสอดส่องพฤติกรรมเสี่ยง รวมถึงการร่วมมือกับโรงเรียนเพื่อป้องกันการใช้กัญชาและกระท่อมในเด็กและเยาวชน
Article Details

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
เอกสารอ้างอิง
พระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่ 7) พ.ศ. 2562. ราชกิจจานุเบกษา. 2562;136(19 ก):1.
พระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่ 8) พ.ศ. 2564. ราชกิจจานุเบกษา. 2564;138(35 ก):1-3.
กระทรวงสาธารณสุข. ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง ระบุชื่อยาเสพติดให้โทษประเภท 5 พ.ศ. 2565. ราชกิจจานุเบกษา. 2565;139(พิเศษ 35 ง):8.
กระทรวงสาธารณสุข. ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง สมุนไพรควบคุม (กัญชา) พ.ศ. 2565. ราชกิจจานุเบกษา. 2565;139(พิเศษ 272 ง):3-4.
สุริยัน บุญแท้. โครงการสำรวจทัศนคติและพฤติกรรมการใช้สารเสพติด: กรณีศึกษาประชาชนอายุ 18-65 ปี ใน 20 จังหวัดทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ. กรุงเทพฯ: ศูนย์ศึกษาปัญหาการเสพติด; 2565.
Hfocus เจาะลึกระบบสุขภาพ. ศูนย์ศึกษาปัญหาการเสพติดเผยข้อมูลเด็กอายุต่ำกว่า 20 ปี ใช้กัญชาแบบสูบสูงขึ้นถึง 10 เท่าใน 3 ปี [อินเทอร์เน็ต]. 2022 [เข้าถึงเมื่อ 27 มี.ค. 2567]. เข้าถึงได้จาก: https://www.hfocus.org/content/2022/12/26694
มานพ คณะโต, พูนรัตน์ ลียติกุล, รังสิยา วงศ์อุปปา. สถานการณ์กัญชาในเยาวชนไทยหลังการปรับปรุงกฎหมาย. วารสารสำนักงาน ป.ป.ส. 2565;38(2):45-57.
ธนพล นิ่มสมบูรณ์. พิษวิทยาของกัญชา. วารสารเภสัชกรรมโรงพยาบาล. 2563;30(2):125-36.
Fried P, Watkinson B, Gray R. Neurocognitive consequences of marihuana-a comparison with pre-drug performance. Neurotoxicol Teratol. 2005;27:231–9.
Power E, Sabherwal S, Healy C, O’Neill A, Cotter D, Cannon M. Intelligence quotient decline following frequent or dependent cannabis use in youth: a systematic review and meta-analysis of longitudinal studies. Psychol Med. 2021;51:194-200.
Grant CN, Bélanger RE. Cannabis and Canada’s children and youth. Paediatr Int Child Health. 2017;22:98-102.
กระทรวงศึกษาธิการ. ประกาศกระทรวงศึกษาธิการ เรื่อง แนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับกัญชาหรือกัญชงในสถานศึกษา ลงในราชกิจจานุเบกษา. 2565;139(156 ง).
ช่อแก้ว ส่งแสงทอง. ปัจจัยที่มีผลต่อพฤติกรรมป้องกันยาเสพติดของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายในจังหวัดสงขลา [วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต]. นนทบุรี: มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช; 2560.
สุวพันธุ์ คะโยธา, วุธิพงศ์ ภักดีกุล. ปัจจัยเสี่ยงต่อการใช้สารเสพติดและปัจจัยที่มีผลต่อการป้องกันยาเสพติดของเยาวชนในโรงเรียนมัธยมศึกษา เขตเทศบาลนครสกลนคร. วารสารโรงพยาบาลสกลนคร. 2561;21(3):84-95.
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเชียงใหม่. สารสนเทศทางการศึกษา ปีการศึกษา 2566 [อินเทอร์เน็ต]. [เข้าถึงเมื่อ 2 ม.ค. 2567]. เข้าถึงได้จาก: https://www.secondarycm.go.th/web/wp-content/uploads/2023/07/สารสนเทศ66.pdf
Yamane T. Statistics: an introductory analysis. New York: Harper & Row; 1973.
Bloom BS. Handbook on formative and summative evaluation of student learning. New York: McGraw–Hill; 1971.
Best JW. Research in education. New Jersey: Prentice Hall; 1977.
ศูนย์ศึกษาปัญหาการเสพติด. โครงการสำรวจทัศนคติและพฤติกรรมการใช้สารเสพติด: กรณีศึกษาประชาชนอายุ 15-65 ปี ใน 20 จังหวัดทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ [อินเทอร์เน็ต]. [เข้าถึงเมื่อ 2 เม.ย. 2567]. เข้าถึงได้จาก: https://cads.in.th/cads/content?id=130
สุเมธ นิยกิจ, อุษาวดี สุตะภักดิ์. ปัจจัยที่สัมพันธ์กับการใช้พืชกระท่อมเพื่อสันทนาการของนักเรียนระดับมัธยมศึกษาในจังหวัดอุบลราชธานี. วารสารการพัฒนาสุขภาพชุมชน มหาวิทยาลัยขอนแก่น. 2566;11(1):103-18.
ศูนย์ศึกษาปัญหาการเสพติด. การวิเคราะห์สภาพการณ์ปัจจุบันและอนาคตภาพของปัจจัยเสี่ยงและปัจจัยภูมิคุ้มกันฯ [อินเทอร์เน็ต]. [เข้าถึงเมื่อ 5 เม.ย. 2567]. เข้าถึงได้จาก: https://cads.in.th/cads/content?id=29
Kuntsche S, Kuntsche E. Parent-based interventions for preventing or reducing adolescent substance use—a systematic literature review. Clin Psychol Rev. 2016;45:89–101.
Ryan J, Roman NV, Okwany A. The effects of parental monitoring and communication on adolescent substance use and risky sexual activity: a systematic review. Open Fam Stud J. 2015;7:7–12.
นุพงษ์ วงศ์นิลยอง. ปัจจัยที่มีผลต่อการใช้กัญชาในประชาชนจังหวัดบึงกาฬ [อินเทอร์เน็ต]. 2565 [เข้าถึงเมื่อ 5 เม.ย. 2567]. เข้าถึงได้จาก: https://bkpho.moph.go.th/ssjweb/bkresearch/require/files/post-doc/20240304140942.pdf
ปัณณทัต ตันธนปัญญากร, ทัศนพรรณ เวชศาสตร์, นลพรรณ ขันติกุลานนท์, ศศิวิมล จันทร์มาลี, อภิเชษฐ์ จำเนียรสุข. ความชุกและปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับการใช้พืชกระท่อมของประชาชนอายุ 18 ปีขึ้นไปที่อาศัยอยู่ในชุมชนบ้านกระแชง จังหวัดปทุมธานี. วารสารวิจัยและพัฒนาวไลยอลงกรณ์ในพระบรมราชูปถัมภ์. 2566;18(2):45-59.
มนัสนันท์ ผลานิสงค์. ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการป้องกันยาเสพติดของนักเรียนระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ จังหวัดกำแพงเพชร [อินเทอร์เน็ต]. [เข้าถึงเมื่อ 7 เม.ย. 2567]. เข้าถึงได้จาก: https://mis.kpo.go.th/tobekpp/download/id6.pdf
ทวีศักดิ์ เทพพิทักษ์. การใช้แบบจำลอง KAP กับการศึกษาพฤติกรรมและทัศนคติการป้องกันการติดเชื้อเอชไอวี/เอดส์ของคนประจำเรือไทย. วารสารวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย. 2561;8(2):84–102.