ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการสูบบุหรี่ไฟฟ้าของนักศึกษามหาวิทยาลัยเอกชนแห่งหนึ่ง จังหวัดสมุทรปราการ
Main Article Content
บทคัดย่อ
“บุหรี่ไฟฟ้า” เป็นผลิตภัณฑ์ชนิดใหม่ที่ได้รับความนิยมมากโดยเฉพาะในกลุ่มนักศึกษา แต่ส่งผลกระทบทางลบมากมาย การวิจัยเชิงสำรวจแบบภาคตัดขวางนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาพฤติกรรมการสูบบุหรี่ไฟฟ้า และความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยส่วนบุคคล การรับรู้ต่อภัยบุหรี่ไฟฟ้า ทัศนคติต่อภัยบุหรี่ไฟฟ้า สิ่งแวดล้อมที่เอื้อต่อการสูบบุหรี่ไฟฟ้ากับพฤติกรรมการสูบบุหรี่ไฟฟ้าของนักศึกษา กลุ่มตัวอย่างคือ นักศึกษาระดับปริญญาตรี ณ มหาวิทยาลัยเอกชนแห่งหนึ่งในจังหวัดสมุทรปราการ จำนวน 381 คน คัดเลือกกลุ่มตัวอย่างด้วยการสุ่มแบบบังเอิญ เครื่องมือวิจัยที่ใช้เป็นเครื่องมือที่ผู้วิจัยพัฒนาขึ้นเองจากการศึกษาค้นคว้าเอกสาร งานวิจัย และแนวคิดทฤษฎีที่เกี่ยวข้อง จำนวน 1 ฉบับ ข้อคำถามประกอบด้วย 4 ส่วน ได้แก่ ข้อมูลส่วนบุคคล การรับรู้ต่อภัยบุหรี่ไฟฟ้า ทัศนคติต่อภัยบุหรี่ไฟฟ้า และปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อมที่เอื้อต่อการสูบบุหรี่ไฟฟ้า เครื่องมือวิจัยที่พัฒนาขึ้นส่งตรวจสอบโดยอาจารย์พยาบาลผู้ทรงคุณวุฒิ 3 ท่าน คำนวณค่าความตรงตามเนื้อหา (Content validity index: CVI) ของเครื่องมือทั้งฉบับเท่ากับ 0.96 และค่าความเชื่อมั่น (Reliability) ของข้อคำถามส่วนที่ 2-4 เท่ากับ 0.78, 0.76, 0.74 ตามลำดับ วิเคราะห์ข้อมูลด้วยโปรแกรมคอมพิวเตอร์สำเร็จรูป SPSS สถิติที่ใช้ ได้แก่ ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การทดสอบไคสแควร์ (Chi-square Test) และ Fisher’s Exact Test กำหนดระดับนัยสำคัญทางสถิติที่ 0.05 ผลการวิจัยพบว่า กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่ไม่มีพฤติกรรมการสูบบุหรี่ไฟฟ้า ร้อยละ 81.90 รับรู้ต่อภัยจากบุหรี่ไฟฟ้าระดับสูง ร้อยละ 86.09 มีทัศนคติต่อภัยจากบุหรี่ไฟฟ้าระดับสูง ร้อยละ 85.04 ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการสูบบุหรี่ไฟฟ้า ได้แก่ เพศ ระดับการศึกษา ศาสนา รายได้ต่อเดือน การรับรู้ต่อภัยบุหรี่ไฟฟ้า และทัศนคติต่อภัยบุหรี่ไฟฟ้า อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 จากผลการศึกษานี้สามารถนำไปวางแผนพัฒนาโครงการลด ละ เลิกการสูบบุหรี่ไฟฟ้า และนโยบายต่าง ๆ เพื่อแก้ไขปัญหาการสูบบุหรี่ไฟฟ้าในมหาวิทยาลัย
Article Details

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
เอกสารอ้างอิง
ณัฐพล รุ่งโรจน์สิทธิชัย. การรับรู้ ทัศนคติ และพฤติกรรมที่มีต่อบุหรี่ไฟฟ้า. วิทยานิพนธ์ปริญญาวารสารศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการจัดการการสื่อสารองค์กร. ปทุมธานี: บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์; 2560.
กิติพงษ์ เรือนเพ็ชร. ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับการสูบบุหรี่ไฟฟ้าของนักเรียนชายอาชีวศึกษา จังหวัดบุรีรัมย์. วิทยานิพนธ์ปริญญาพยาบาลศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการพยาบาลเวชปฏิบัติชุมชน. ชลบุรี: บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยบูรพา; 2564.
National Academies of Sciences, Engineering and Medicine. Public health consequences of e-cigarettes. Washington (DC): National Academies Press; 2018.
ชลลดา ไชยกุลวัฒนา, ประกายดาว สุทธิ, วิชานีย์ ใจมาลัย. พฤติกรรมสูบบุหรี่และปัจจัยเสี่ยงที่สัมพันธ์กับการสูบบุหรี่ของวัยรุ่นตอนต้น จังหวัดพะเยา. วารสารพยาบาลกระทรวงสาธารณสุข. 2560;27(3):57-67.
World Health Organization. Report on the global tobacco epidemic [Internet]. 2021 [cited 2025 Mar 10]. Available from: https://apps.who.int/iris/bitstream/handle/10665/326043/9789241516204-eng.pdf
National Statistical Office. Health behavior of population survey in Thailand [Internet]. 2021 [cited 2025 Mar 10]. Available from: https://www.trc.or.th/th/attachments/article/618/2021.pdf
The Coverage. เยาวชนไทยสูบบุหรี่ไฟฟ้าเพิ่มขึ้น เหตุเข้าใจผิดว่าดี ไม่ผิดกฎหมาย และช่วยเลิกบุหรี่มวน [อินเทอร์เน็ต]. [เข้าถึงเมื่อ 25 พ.ค. 2568]. เข้าถึงได้จาก: https://www.thecoverage.info/news/content/6947
อุ่นกัง แซ่ลิ้ม. พฤติกรรมการใช้และการรับรู้เกี่ยวกับบุหรี่ไฟฟ้า: กรณีของผู้ใช้บุหรี่ไฟฟ้าของไทย. กรุงเทพฯ: คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์; 2559.
กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข. ข้อมูลวิชาการเกี่ยวกับบุหรี่ไฟฟ้า [อินเทอร์เน็ต]. [เข้าถึงเมื่อ 15 พ.ค. 2568]. เข้าถึงได้จาก: https://ddc.moph.go.th/uploads/publish/1589020240719032342.pdf
East K, Hitchman SC, Bakolis I, Williams S, Cheeseman H, Arnott D, et al. The association between smoking and electronic cigarette use in a cohort of young people. J Adolesc Health. 2018;62(5):539-47.
Chan G, Leung J, Gartner C, Yong HH, Borland R, Hall W. Correlates of electronic cigarette use in the general population and among smokers in Australia: findings from a nationally representative survey. Addict Behav. 2019;95:6-10.
ฉัตรฑริกา กิจแสงทอง, รัฐพล ศิลปรัศมี, พรรณี บัญชรหัตถกิจ, ทัศพร ชูศักดิ์. ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการสูบบุหรี่ไฟฟ้าของนักเรียนสถาบันการอาชีวศึกษา ภาคกลาง 1. Singburi Hospital Journal. 2567;33(2):B108-17.
Cho JH, Shin E, Moon SS. Electronic-cigarette smoking experience among adolescents. J Adolesc Health. 2011;49(5):542-6.
ศรีรัช ลอยสมุทร. ผลิตภัณฑ์ยาสูบรูปแบบใหม่ในสื่อสังคมเครือข่ายและผลของการบังคับใช้กฎหมายผลิตภัณฑ์ยาสูบรูปแบบใหม่. วารสารกฎหมายสุขภาพและสาธารณสุข. 2562;5(1):13-29.
Bronfenbrenner U. Ecological models of human development. In: International encyclopedia of education. 2nd ed. Oxford: Elsevier; 1994.
วัลลภ รัฐฉัตรานนท์. การหาขนาดตัวอย่างที่เหมาะสมสำหรับการวิจัย: มายาคติในการใช้สูตรของทาโร ยามาเน่ และเครท ซี-มอร์แกน. วารสารสหวิทยาการวิจัย. 2562;8(1):11-28.
Best JW. Research in education. 3rd ed. Englewood Cliffs (NJ): Prentice Hall; 1977.
ไพฑูรย์ วุฒิโส, ภัควรินทร์ ภัทรศิริสมบูรณ์, บวรวิช รอดรังษี. ปัจจัยทำนายพฤติกรรมการสูบบุหรี่ของวัยรุ่น อำเภอเมือง จังหวัดชัยภูมิ. วารสารพยาบาล. 2565;71(1):1-9.
ยสินทร มีกูล, อรนภา ล่ำปิยะ, วุฒิฌาน ห้วยทราย. ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการสูบบุหรี่ของนักศึกษามหาวิทยาลัยอุบลราชธานี. วารสารสาธารณสุขล้านนา. 2566;19(1):76-88.
ภัทริกา วงศ์อนันต์นนท์. พฤติกรรมการใช้อินเทอร์เน็ตของเด็กและเยาวชน. วารสารพยาบาลทหารบก. 2557;15(2):173-8.
รุจี จารุภาชน์. ประสบการณ์สูบบุหรี่ไฟฟ้าของวัยรุ่นหญิงในสถาบันอุดมศึกษาจังหวัดขอนแก่น. วารสารสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 7 ขอนแก่น. 2564;28(3):121-30.
สิรินิตย์ พรรณหาญ, บุญมี พันธุ์ไทย, กมลทิพย์ ศรีหาเศษ. ปัจจัยที่มีผลต่อความเครียดในการเรียนของนักศึกษาแพทย์ ชั้นปีที่ 4-6 คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล. Veridian E-Journal Silpakorn University. 2561;11(3):2579-93.
ภูวสิทธิ์ ภูลวรรณ, เอกตระการ แข็งแรง, ชนานันท์ บุตรศรี, พิชญา ดุพงษ์, กิตติมา ลาภอนันต์บังเกิด. ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์ต่อความเครียดของนักศึกษาชั้นปีที่ 1 มหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร. วารสารวิจัยและพัฒนาวไลยอลงกรณ์ในพระบรมราชูปถัมภ์. 2563;15(3):105-18.
ศศิธร ชิดนายี, วราภรณ์ ยศทวี. ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการสูบบุหรี่ของวัยรุ่นจังหวัดอุตรดิตถ์. วารสารวิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี อุตรดิตถ์. 2561;10(1):83-93.
กมลภู ถนอมสัตย์, พนิตนันท์ แซ่ลิ้ม, พุทธพร อ่อนคำสี. ปัจจัยที่สัมพันธ์กับพฤติกรรมการใช้บุหรี่ไฟฟ้าของนักศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม. วารสารพยาบาลตำรวจและวิทยาศาสตร์สุขภาพ. 2567;16(1):81-90.
พระศรีรัชมงคลบัณฑิต (อรุณพุทฺธิสาโร), แหวนทอง บุญคำ, กำธร เพียเอีย, วิธวินท์ ภาคแก้ว, นิคม ปาทะวงศ์. พฤติกรรมการเรียนรู้ทางด้านพระพุทธศาสนาของเยาวชนไทย. วารสารปรัชญาปริทรรศน์. 2565;27(2):82-96.
พัชรินทร์ ยุพา, ธวัชชัย เอกสันติ, ศิริลักษณ์ เพียรธัญญะ, ศุภรัตน์ คงรอด, สิริยากร พันจันทึก, สุกัญญา ผลพิมาย. ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับการสูบบุหรี่ไฟฟ้าของนักศึกษาระดับมหาวิทยาลัย จังหวัดนครราชสีมา. วารสารสหเวชศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา. 2567;9(2):51-69.
Rosenstock IM. Historical origins of the health belief model. Health Educ Monogr. 1974;2(4):328-35.
มณฑา เก่งการพานิช, แสงเดือน สุวรรณรัศมี, ชวาลา ภวภูตานนท์ ณ มหาสารคาม, ธราดล เก่งการพานิช. ปัจจัยที่สัมพันธ์กับพฤติกรรมการสูบบุหรี่ของวัยรุ่นหญิงในเขตกรุงเทพมหานคร. วารสารสุขศึกษา. 2557;37(128):29-44.
Greenhill R, Dawkins L, Notley C, Finn MD, Turner JJD. Adolescent awareness and use of electronic cigarettes: a review of emerging trends and findings. J Adolesc Health. 2016;59:612-9.
นันทวรรณ นามนัย, กัญญารัตน์ นัยเนตร, ทิพปภา มวลพล, สุรสีห์ ผิวเผือด. ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับการรับรู้และทัศนคติต่อบุหรี่ไฟฟ้าของนักศึกษา มหาวิทยาลัยปทุมธานี จังหวัดปทุมธานี. PJST. 2567;5(2):45-55.
Ajzen I. The theory of planned behavior. Organ Behav Hum Decis Process. 1991;50(2):179-211.
Fishbein M, Ajzen I. Belief, attitude, intention, and behavior: an introduction to theory and research. Reading (MA): Addison-Wesley; 1975.
พัตราภรณ์ พนัสชัย. ความชุกและปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการสูบบุหรี่ไฟฟ้าของนักเรียนมัธยมศึกษาตอนปลาย จังหวัดสมุทรปราการ. PTU J Sci Technol. 2566;4(2):8-21.
Onmoy P, Buarueang A, Paponngam C, Janrungrueang T, Lao-noi N, Boonrawd A. Factors associated with electronic cigarette smoking behaviors of adolescents in Uttaradit province. J Health Sci. 2022;31(2):197-205.