Case repot: Laryngeal histoplasmosis presented liked laryngeal cancer in Thai male รายงานผู้ป่วยที่ติดเชื้อ Histoplasmaในกล่องเสียงมีลักษณะคล้ายมะเร็งกล่องเสียงในชายไทย
Main Article Content
Abstract
บทคัดย่อ
Histoplasmosis เป็นเชื้อราที่ถูกค้นพบในคนจากการชันสูตรศพครั้งแรกในปี ค.ศ. 1906 โดย Darling ST ส่วน
Laryngeal histoplasmosis มีรายงานไว้ครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ. 1952 โดย Wilkerson
วิธีการวิจัย: รายงานผู้ป่วยนี้แสดงถึงการติดเชื้อ Laryngeal histoplasmosis ในผู้ป่วยชายไทย อายุ 59ปี
โรคประจำตัวคือเบาหวาน มีอาการเสียงแหบและตรวจพบรอยโรคในกล่องเสียงคล้ายมะเร็งกล่องเสียง
ผลการวิจัย: ผลการตรวจพบจากการส่องกล้องสายอ่อนที่กล่องเสียงพบ รอยโรคเป็นเนื้อนูน ขรุขระบนผิวของสาย
เสียงข้างขวาด้านบน เนื้องอกได้ยื่นเข้าไปถึง floor of ventricle ด้านขวา ส่วนด้านหน้าได้ยื่นไปถึงส่วน
anterior commissure ส่วนด้านหลังได้ยื่นไปถึงกระดูกอ่อนarytenoid
ผลการตรวจทางพยาธิวิทยาของชิ้นเนื้อที่ได้จาการ เข้าไปผ่าตัดพบ poorly-formed
granulomaและลักษณะการติดเชื้อรารูปแบบยีสต์ลุกลามลงเยื่อบุผิว การย้อม พิเศษด้วยเทคนิค Periodic
acid-Schiff (PAS) เชื้อราลักษณะเป็น yeast-like organism ยืนยันลักษณะเป็น Histoplasma
ส่วนการย้อมMucicarmine และ Masson Fontana ไม่พบเชื้อ จึงวินิจฉัยโรคเป็น
Histoplasmosisและได้รักษาด้วยยา Itraconazole ในรูปแบบยารับประทานต่อเนื่องจนครบ12 สัปดาห์ รอยโรค
ที่สายเสียงจึงหายดีการติดตามการเป็นซ้ าของโรคภายใน1ปี ไม่พบอาการเสียงแหบผิดปกติ
บทสรุป: เป็นรายงานการติดเชื้อการติดเชื้อ Laryngeal histoplasmosis ซึ่งเป็นโรคที่หายากในผู้ป่วยชายไทยที่ มีโรคประจำตัวเป็นเบาหวานโดยอาการและอาการแสดงคล้ายมะเร็งกล่องเสียงเป็นรายแรกของประเทศไทย โสต ศอ นาสิกแพทย์ควรตะหนักถึงการติดเชื้อราชนิดนี้ไว้เป็นการวินิจฉัยแยกโรคของสายเสียงที่มีลักษณะคล้ายมะเร็ง หรือ granulomatous disease ของกล่องเสียงไว้ด้วย
Article Details
This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
ต้นฉบับที่ส่งมาพิจารณายังวารสารหู คอ จมูก และใบหน้า จะต้องไม่อยู่ในการพิจารณาของวารสารอื่น ในขณะเดียวกันต้นฉบับที่จะส่งมาจะผ่านการอ่านโดยผู้ทรงคุณวุฒิ หากมีการวิจารณ์หรือแก้ไขจะส่งกลับไปให้ผู้เขียนตรวจสอบแก้ไขอีกครั้ง ต้นฉบับที่ผ่านการพิจารณาให้ลงตีพิมพ์ถือเป็นสมบัติของวารสารหู คอ จมูกและใบหน้า ไม่อาจนำไปลงตีพิมพ์ที่อื่นโดยไม่ได้รับอนุญาต
ตารางแผนภูมิ รูปภาพ หรือข้อความเกิน 100 คำที่คัดลอกมาจากบทความของผู้อื่น จะต้องมีใบยินยอมจากผู้เขียนหรือผู้ทรงลิขสิทธิ์นั้นๆ และใหร้ะบุกำกับไว้ในเนื้อเรื่องด้วย
References
Reference
Gupta DK, Tanwar D, Patel B, Singh V. Laryngeal histoplasmosis: masquerading malignancy. BMJ Case Rep. 2022 Jul 11;15(7):e248738.
Wilkerson WW: Histoplasmosis. Trans Am Acad Ophthal Otolaryngol 56:900-909, 1952.
Sataloff RT, Wilborn A, Prestipino A et.al. Histoplasmosis of the larynx. Am J Otolaryngol.1993 May- Jun;14(3):199-205.
Teoh JW, Hassan F, Mohamad Yunus MR. Laryngeal histoplasmosis: an occupational hazard. Singapore Med
J. 2013 Oct;54(10):e208-10.
Scheel, C.M., Gómez, B.L. Diagnostic Methods for Histoplasmosis: Focus on Endemic Countries
with Variable Infrastructure Levels. Curr Trop Med Rep 1, 129–137 (2014).
Norkaew T, Ohno H, Sriburee P et.al. Detection of environmental sources of Histoplasma capsulatum in Chiang
Mai, Thailand, by nested PCR. Mycopathologia. 2013 Dec;176(5-6):395-402.
Thompson GR 3rd, Le T, Chindamporn A, Kauffman CA et.al. Global guideline for the diagnosis
and management of the endemic mycoses: an initiative of the European Confederation of Medical
Mycology in cooperation with the International Society for Human and Animal Mycology. Lancet Infect
Dis. 2021 Dec;21(12):e364-e374.
Wongprommek P, Chayakulkeeree M. Clinical Characteristics of Histoplasmosis in Siriraj
Hospital. J Med Assoc Thai. 2016 Mar;99(3):257-61.