ผลของการใช้แนวปฏิบัติการดูแล ผู้ป่วยเด็กที่ใส่ท่อช่วยหายใจ ทางปากต่ออุบัติการณ์การหลุดของ ท่อช่วยหายใจโดยไม่ได้วางแผนใน หออภิบาลผู้ป่วยเด็ก
Main Article Content
บทคัดย่อ
วัตถุประสงค์:เพื่อศึกษาผลของการใช้แนวปฏิบัติการดูแลผู้ป่วยใส่ท่อช่วยหายใจทางปากต่ออุบัติการณ์การหลุดของท่อช่วยหายใจโดยไม่ได้วางแผน และศึกษาปัจจัยเสี่ยงต่อการหลุดของท่อช่วยหายใจโดยไม่ได้วางแผนในหออภิบาลผู้ป่วยเด็ก โรงพยาบาลศิริราช
วิธีการ: เป็นวิจัยกึ่งทดลอง แบบใช้ข้อมูลย้อนหลังเป็นกลุ่มควบคุม ศึกษาผู้ป่วยใส่ท่อช่วยหายใจทางปากทั้งหมดจำนวน 323 รายแบ่งเป็นกลุ่มควบคุมจำนวน 78 ราย และกลุ่มทดลองจำนวน 245 ราย กลุ่มควบคุมรวบรวมข้อมูลย้อนหลังการเกิดท่อช่วยหายใจทางปากหลุดโดยไม่ได้วางแผนในหออภิบาลผ้ปู่วยเด็กก่อนใช้แนวปฏิบัติฯ กลุ่มทดลองรวบรวมขอ้ มูลหลังการใชแ้ นวปฏิบัติฯ วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้แผนภูมิควบคุม U – control chart และ Multiple logistic regression
ผลการศึกษา: พบว่าอัตราการหลุดของท่อช่วยหายใจทางปากก่อนและหลังการใช้แนวปฏิบัติฯ ไม่แตกต่างกันอย่างมีนัย
สำคัญทางสถิติ อย่างไรก็ตามในหออภิบาลผู้ป่วยเด็ก(PICU) พบว่าอัตราการเกิดท่อช่วยหายใจทางปากหลุดโดยไม่ได้วางแผน
หลังการใช้แนวปฏิบัติฯลดลง ส่วนปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับการหลุดของท่อช่วยหายใจทางปากอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ได้แก่
ประวัติท่อช่วยหายใจทางปากหลุด และคะแนนความง่วงซึม โดยผู้ป่วยที่ได้รับยาระงับความรู้สึกแต่มีคะแนนความง่วงซึมไม่ถึง
เกณฑ์ที่กำหนดมีโอกาสเกิดท่อช่วยหายใจทางปากหลุดมากกว่า
สรุป: แนวปฏิบัติในการดูแลผู้ป่วยใส่ท่อช่วยหายใจทางปากสามารถลดอุบัติการณ์ท่อช่วยหายใจทางปากหลุดโดยไม่ได้วางแผน
ได้ โดยผู้ป่วยต้องมีระดับความง่วงซึมที่เหมาะสม