จริยธรรมการเผยแพร่บทความ

            บทความที่ต้องการเผยแพร่ในวารสารกายภาพบำบัด หากมีความเกี่ยวข้องในการทำวิจัยในคน รวมทั้งรายงานผู้ป่วย (case report)  ที่มากกว่า 1  ราย  ผู้แต่ง ต้องแนบเอกสารรับรองการผ่านการพิจารณาจากคณะกรรมการพิจารณาจริยธรรมวิจัยของหน่วยงาน

            บทความที่ส่งมารับการพิจารณาเพื่อเผยแพร่ในวารสาร ต้องไม่เคยเผยแพร่ในวารสารอ่านมาก่อน หรือส่งไปที่วารสารอื่นขณะที่ขั้นตอนการพิจารณายังไม่สื้นสุด

            บทความเกี่ยวข้องกับ clinical trail  แนะนำให้ผู้แต่งลงทะเบียน clinical trial ก่อนที่จะเริ่มการวิจัย และแสดงหมายเลขที่ลงทะเบียนภายในวงเล็บในตอนท้ายของบทคัดย่อ

            จริยธรรมการตีพิมพ์บทความเป็นตาม Committee on Publication Ethics (COPE) ซึ่งขึ้นกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องได้แก่ ผู้แต่ง ผู้ทรงคุณวุฒิพิจารณาบทความ และบรรณาธิการ

 

จริยธรรมของผู้แต่ง (Ethics of Authors)

            ผู้แต่งต้องส่งบทความนิพนธ์ต้นฉบับ(original work) หากการนำงานของผู้อื่นมาใช้ในบทความ ต้องอ้างอิงอย่างถูกต้อง และใส่ชื่องานที่อ้างอิงในเอกสารอ้างอิง (reference) วารสารกายภาพบำบัดขอสงวนสิทธิ์ที่จะตรวจสอบ plagiarism ของบทความ

           ผู้แต่งต้องส่งบทความที่เป็นนิพนธ์ต้นฉบับ ต้องแสดงถึงการทำวิจัยที่ถูกต้องเหมาะสมและแสดงให้เห็นถึงความสำคัญของผลงานวิจัย ข้อมูลผลการวิจัย ต้องเป็นข้อมูลจริง ชัดเจน ไม่มีการสร้างข้อมูล หรือปรับเปลี่ยนข้อมูลเพื่อให้ได้ผลการวิเคราะห์ทางสถิติที่ต้องการ  นอกจากนี้ การสรุปผลการวิจัย ต้องสืบเนื่องมาจากผลการวิจัย ไม่ใช้ความเห็นส่วนบุคคล

            ในการส่งบทความ ผู้แต่งต้องระบุแหล่งทุนที่สนับสนุนงานวิจัยและ conflict of interest (ถ้ามี) 

 

จริยธรรมของผู้ทรงคุณวุฒิพิจารณาบทความ (Ethics of Reviewers)

            ผู้พิจารณาบทความต้องไม่เผยแพร่ข้อมูลใดที่เกี่ยวข้องกับบทความที่พิจารณาต่อบุคคลอื่น และไม่แสดงตัวว่าเป็นผู้พิจารณาบทความจนกว่าบทความจะได้รับการเผยแพร่  หากบทความไม่ได้รับการเผยแพร่ ผู้พิจารณาไม่สามารถอ้างอิงบทความดังกล่าวได้ ยกเว้นจะได้รับการอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจากผู้แต่ง โดยต้องดำเนอนการผ่านบรรณาธิการ

            หากผู้ทรงคุณวุฒิ พบว่า อาจมี conflict of interest หลังจากได้รับบทความไปพิจารณาแล้ว  ผู้พิจารณาบทความควรแจ้งบรรณาธิการและปฏิเสธการพิจารณาบทความนั้นในทันที

            การพิจารณาบทความควรอยู่บนพื้นฐานของความเชี่ยวชาญของสาขา พิจารณาว่าบทความมีการสร้างองค์ความรู้ใหม่อย่างไร มีอ้างอิงหลักฐานเชิงประจักษ์ในการนำเสนอผลการวิจัย ไม่ใช้ความเห็นส่วนตัว

            นอกจากนี้ ผู้ทรงคุณวุฒิที่พิจารณาบทความควรมีข้อเสนอแนะให้ผู้แต่ง acknowledge ผลงานวิจัยของผู้อื่นที่นำมาใช้ในบทความหากพบว่า ผู้แต่งไม่ได้อ้างอิงและแจ้งบรรณาธิการเมื่อพบว่าบทความมีความซ้ำซ้อนหรือคล้ายกับบทความอื่นที่ผู้พิจารณาเคยพบในบทความที่เผยแพร่มาก่อนหน้านี้

 

จริยธรรมของบรรณาธิการ (Ethics of Editors)

            เนื่องจากกระบวนการพิจารณาบทความของวารสารกายภาพบำบัดเป็นการพิจารณาแบบ double-blind ดังนั้น บรรณาธิการต้องปิดบังรายชื่อผู้แต่ง และผู้พิจารณาเป็นความลับ  บทความที่ไม่ผ่านการพิจารณาให้เผยแพร่ ต้องไม่ถูกอ้างอิงจากบรรณาธิการเว้นแต่ได้รับการยินยอมเป็นลายลักษณ์จากผู้แต่ง ข้อมูลใดๆที่เกียวข้องกับบทความต้องปกปิดเป็นความลับ

            ในกรณีที่บรรณาธิการมี conflict of interest ในกระบวนการพิจารณาบทความไม่ว่าจะเป็นในด้านใด  บรรณาธิการควรถอนตัวจากบทความนั้น และให้บรรณาธิการอื่นเป็นผู้ดูแลแทน

 

การตัดสินการเผยแพร่บทความ

            เมื่อได้รับผลการพิจารณาจากผู้ทรงคุณวุฒิผู้พิจารณาบทความครบแล้ว บรรณาธิการต้องตัดสินว่าจะเผยแพร่บทความหรือไม่จากผลการพิจารณา ทั้งนี้ ต้องคำนึงถึงองค์ความรู้ที่ได้จากบทความ หลักฐานเชิงประจักษ์ ที่สนับสนุนหรือขัดแย้งกับบทความดังกล่าว

           

การคัดลอกบทความอื่น

            เมื่อบทความส่งเข้ามาในระบบวารสาร บทความจะถูกตรวจสอบการคัดลอกบทความอื่นโดย software Copy –Catch ในฐานข้อมูล หากพบว่าผลการตรวจสอบมีความคล้ายในสัดส่วนที่มากกับบทความอื่น (เช่นคัดลอกทั้งย่อหน้า) มีผลในการปฏิเสธการตีพิมพ์ในทันที  หากบทความมีความคล้ายบ้าง บรรณาธิการจะแจ้งให้ผู้แต่งปรับแก้ก่อนเข้าสู่กระบวนการพิจารณา

            ในกรณีที่พบความคล้ายกับผลงานผู้อื่นในระหว่างการพิจารณาบทความ บรรณาธิการยับยั้งกระบวนการพิจารณา และจะขอคำอธิบายจากผู้แต่ง ซึ่งหากคำอธิบายไม่มีเหตุผลที่สมควร  บทความจะถูกปฏิเสธการเผยแพร่

            ในกรณีที่พบความคล้าย ภายหลังบทความได้เผยแพร่แล้ว บรรณาธิการจะดึงบทความออกจากวารสาร และประกาศในวารสารในทันทีว่าบทความถูกถอดออกจากวารสาร  นอกจากนี้ บรรณาธิการจะแจ้งไปยังหน่วยงานต้นสังกัดของผู้แต่งทุกคนในบทความนั้นถึงเหตุผลที่ต้องถอดบทความนั้นออกจากวารสาร