การสร้างเสริมสุขภาพเด็กวัยก่อนเรียนที่มีอายุระหว่าง 2-5 ปี ในเขตบางพลัด กรุงเทพมหานคร: การจัดการในครอบครัว

Main Article Content

อรนุช ชูศรี
ณัฐรพี ใจงาม
ศรีสุดา วงศ์วิเศษกุล
ปณวัตร สันประโคน

บทคัดย่อ

               การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาความสามารถในการจัดการ  ความพยายามในการจัดการดูแและความร่วมมือกันของผู้ปกครองและ เพื่อเปรียบเทียบความแตกต่างค่าเฉลี่ยของการจัดการของครอบครัวในการสร้างเสริมสุขภาพเด็กวัยก่อนเรียนที่อายุระหว่าง 2-5 ปี ที่ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ในเขตบางพลัด เก็บรวบรวมข้อมูลจากบิดา มารดาหรือผู้ปกครองจำนวน 95 คนจากศูนย์พัฒนาเด็กวัยก่อนเรียนทั้ง 5 แห่งในชุมชนเขตบางพลัดโดยใช้ แบบสอบถามความสามารถในการจัดการ ความพยายามในการดูแลและความร่วมมือกันของผู้ปกครอง วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติบรรยาย และ one-way ANOVA ผลการศึกษาพบว่า บิดา มารดา มีการรับรู้ความสามารถในการจัดการส่งเสริมสุขภาพ ความพยายามและความร่วมมือกันของผู้ปกครองในการส่งเสริมสุขภาพ อยู่ในระดับปานกลางโดยมีค่าเฉลี่ย 43.55, 12.43, และ 29.40 ตามลำดับคะแนนเฉลี่ย ความร่วมมือกันของผู้ปกครองในการส่งเสริมสุขภาพทั้ง 5 ศูนย์ไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p>.05) ความสามารถในการจัดการส่งเสริมสุขภาพบุตรของ พ่อ แม่ หรือผู้ปกครองจากศูนย์พัฒนาเด็กเล็กชุมชนวัดเทพากรมากกว่าชุมชนสวนพริกและชุมชนวัดบางพลัดในขณะที่ ความพยายามในการจัดการส่งเสริมสุขภาพบุตรของ พ่อ แม่ หรือผู้ปกครองจากศูนย์พัฒนาเด็กเล็กชุมชนสวนพริกมากกว่าศูนย์พัฒนาเด็กเล็กวัดวิมุตรารามและชุมชนวัดบางพลัด การวิจัยนี้เสนอแนะว่า ข้อค้นพบจากการวิจัยสามารถใช้เป็นแนวทางให้ครูและผู้ดูแลของศูนย์พัฒนาเด็กเล็กส่งเสริมพัฒนาการของเด็กวัยก่อนเรียนโดยให้บิดามารดา ผู้ปกครองหรือสมาชิกครอบครัวเข้ามามีส่วนร่วม โดยเน้นพฤติกรรมสุขภาพ เช่น ด้านการออกกำลังกาย การเลือกรับประทานอาหารแก่เด็ก

Article Details

รูปแบบการอ้างอิง
1.
ชูศรี อ, ใจงาม ณ, วงศ์วิเศษกุล ศ, สันประโคน ป. การสร้างเสริมสุขภาพเด็กวัยก่อนเรียนที่มีอายุระหว่าง 2-5 ปี ในเขตบางพลัด กรุงเทพมหานคร: การจัดการในครอบครัว. NJPH (วารสาร พ.ส.) [อินเทอร์เน็ต]. 31 ธันวาคม 2018 [อ้างถึง 28 ธันวาคม 2025];28(3):51-62. available at: https://he02.tci-thaijo.org/index.php/tnaph/article/view/164205
ประเภทบทความ
บทความวิจัย
ประวัติผู้แต่ง

อรนุช ชูศรี, คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยสวนดุสิต

การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาความสามารถในการจัดการ  ความพยายามในการจัดการดูแและความร่วมมือกันของผู้ปกครองและ เพื่อเปรียบเทียบความแตกต่างค่าเฉลี่ยของการจัดการของครอบครัวในการสร้างเสริมสุขภาพเด็กวัยก่อนเรียนที่อายุระหว่าง 2-5 ปี ที่ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ในเขตบางพลัด เก็บรวบรวมข้อมูลจากบิดา มารดาหรือผู้ปกครองจำนวน 95 คนจากศูนย์พัฒนาเด็กวัยก่อนเรียนทั้ง 5 แห่งในชุมชนเขตบางพลัดโดยใช้ แบบสอบถามความสามารถในการจัดการ ความพยายามในการดูแลและความร่วมมือกันของผู้ปกครอง วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติบรรยาย และ one-way ANOVA ผลการศึกษาพบว่า บิดา มารดา มีการรับรู้ความสามารถในการจัดการส่งเสริมสุขภาพ ความพยายามและความร่วมมือกันของผู้ปกครองในการส่งเสริมสุขภาพ อยู่ในระดับปานกลางโดยมีค่าเฉลี่ย 43.55, 12.43, และ 29.40 ตามลำดับคะแนนเฉลี่ย ความร่วมมือกันของผู้ปกครองในการส่งเสริมสุขภาพทั้ง 5 ศูนย์ไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p>.05) ความสามารถในการจัดการส่งเสริมสุขภาพบุตรของ พ่อ แม่ หรือผู้ปกครองจากศูนย์พัฒนาเด็กเล็กชุมชนวัดเทพากรมากกว่าชุมชนสวนพริกและชุมชนวัดบางพลัดในขณะที่ ความพยายามในการจัดการส่งเสริมสุขภาพบุตรของ พ่อ แม่ หรือผู้ปกครองจากศูนย์พัฒนาเด็กเล็กชุมชนสวนพริกมากกว่าศูนย์พัฒนาเด็กเล็กวัดวิมุตรารามและชุมชนวัดบางพลัด การวิจัยนี้เสนอแนะว่า ข้อค้นพบจากการวิจัยสามารถใช้เป็นแนวทางให้ครูและผู้ดูแลของศูนย์พัฒนาเด็กเล็กส่งเสริมพัฒนาการของเด็กวัยก่อนเรียนโดยให้บิดามารดา ผู้ปกครองหรือสมาชิกครอบครัวเข้ามามีส่วนร่วม โดยเน้นพฤติกรรมสุขภาพ เช่น ด้านการออกกำลังกาย การเลือกรับประทานอาหารแก่เด็ก

เอกสารอ้างอิง

1.Puttikankit. T. Community context under the semi-urban, semi-rural society. Journal of the Far Eastern University Gateway to Entrepreneurship 2558;9(1):7-15. (in Thai).

2.Phillipd. D. Early childhood development and disability: a discussion paper 2012. Malta; World Health Organization.

3.Chusri, Wannee O. Deoisres, W. Marcia Van Riper. M. The styles of management in families having a child with thalassemia. SDU Res. J. 2016;9(3):111-26.

4.Knafl K, Deatrick J. Family management style and the challenge of moving from Conceptualization to measurement. Journal of Pediatric Oncology Nursing 2006;23(1):12-8.


5.UNICEF Thailand. Early childhood development [Internet]. 2009[cited 2017 March12]. Available:https://www.unicef.org/thailand/tha/education_6555.html

6.National Statistical Office. The results of survey on children and youth 2008 [Internet].2010[cited 2017 March12]. Available: http://service.nso.go.th/nso/nsopublish/service/child51/child Rep51.pdf

7.Faul F, Erdfelder E, Buchner A, Lang A-G. Statistical power analyses using G*Power 3.1: tests for correlation and regression analyses. Behavior Research Methods 2009; 41:1149-60.

8.Hamilton K, Spinks T, White KM, Kavanagh DJ, Walsh AM. A psychosocial analysis of parents’ decisions for limiting their young child’s screen time: an examination of attitudes, social norms and roles, and control perceptions. British Journal of Health Psychology 2016; 21(2): 285-301.

9.Mosuwan L. (2008). Nutrition in Thai children. National Institute for Children and Family Development, Mahidol University. [Internet]. 2009[cited 2017 March12]. Available: http://www.cf.mahidol.ac.th/autopage/file/MonAugust2008-12-30-1-Copy%20of%202.pdf. (InThai)

10.Nanthamongkolchai S. Family, childrearing and development of preschoolers in Thailand. Journal of Public Health 2016; 46(3):205-10. (in Thai).

11.Xu H, Wen LM, Rissel C. Associations of parental influences with physical activity and screen time among young children: a systematic review. Journal of Obesity 2015: Retrieve from https://pdfs.semanticscholar.org/10a2/b928d8035051d05b5eed55f6162624885fb7.pdf.

12.McSweeney LA, Rapley T, Summerbell CD, Haighton CA, Adamson AJ. Perceptions of nursery staff and parent views of healthy eating promotion in preschool settings: an exploratory qualitative study. BMC public health 2016;16(1):841.

13.Blaine RE, Fisher JO, Taveras EM, Geller AC, Rimm EB, Land T. Davison KK. Reasons low-income parents offer snacks to children: how feeding rationale influences snack frequency and adherence to dietary recommendations. Nutrients 2015;7(7):5982-99.

14.Teagan SH, Kyra H. Investigating mothers’ decisions to give their 2- to 3-year-old child a nutritionally balanced diet. Journal of Nutrition Education and Behavior 2016;48(4):250-7.

15.Natale RA, Messiah SE, Asfour L, Uhlhorn SB, Delamater A, Arheart KL. Role modeling as an early childhood obesity prevention strategy: effect of parents and teachers on preschool children’s healthy lifestyle habits. Journal of Developmental & Behavioral Pediatrics 2014;35(6):378-87.
16.Chusri, O. Wannee Deoisres, W, Van Riper. M, Influencing of Family Management in Families with Thalassemic Children on Health Related Quality of Life and Family Functioning: SEM approach. [internet]. [cited 2018 April 4]. Available from: http://wjst.wu.ac.th/index.php/wjst/article/view/3653