แรงจูงใจในการปฏิบัติงานของอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้านจังหวัดสุพรรณบุรี
Article Sidebar
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาระดับแรงจูงใจในการปฏิบัติงาน ความสัมพันธ์และอิทธิพลของปัจจัยที่มีผลต่อแรงจูงใจในการปฏิบัติงานของอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน จังหวัดสุพรรณบุรี สุ่มตัวอย่าง แบบหลายขั้นตอน ได้กลุ่มตัวอย่าง จำนวน 348 คน โดยใช้ตารางของเครซี่และมอร์แกน เก็บรวบรวมข้อมูล ใช้แบบสอบถาม ประกอบด้วย 3 ส่วน 1) ปัจจัยส่วนบุคคล 2) ปัจจัยจูงใจและปัจจัยค้ำจุน และ 3) แรงจูงใจในการปฏิบัติงานของ อสม. จำนวน 40 ข้อ มีค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ .91 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลได้แก่ สถิติเชิงพรรณนา สัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ของเพียร์สันและการถดถอยพหุแบบเป็นขั้นตอน
ผลการวิจัยพบว่ากลุ่มตัวอย่างมีแรงจูงใจในการปฏิบัติงานในระดับมาก (=4.47, SD=.45) ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์ทางบวกอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 กับแรงจูงใจในการปฏิบัติงานได้แก่ ค่าตอบแทนและสวัสดิการ (r=.69) ความก้าวหน้า (r=.64) การได้รับการยอมรับนับถือ (r=.62) ความสัมพันธ์ในการทำงาน (r=.60) และสภาพแวดล้อมในการทำงาน (r=.55) และเมื่อวิเคราะห์ถดถอยพหุคูณแบบขั้นตอน พบว่าค่าตอบแทนและสวัสดิการ ความก้าวหน้าและการได้รับการยอมรับนับถือ สามารถร่วมกันทำนายแรงจูงใจในการปฏิบัติงานของ อสม.ได้ร้อยละ 58.6 การศึกษานี้แสดงถึงความสำคัญของการส่งเสริมในเรื่องค่าตอบแทนและสวัสดิการและความก้าวหน้าอย่างต่อเนื่องเพื่อให้อสม.มีแรงจูงใจในการปฏิบัติงานซึ่งจะส่งผลต่อการดูแลสุขภาพประชาชนของ อสม. ให้เพิ่มมากยิ่งขึ้น
Article Details
บทความและรายงานวิจัยในวารสารพยาบาลกระทรวงสาธารณสุข เป็นความคิดเห็นของ ผู้เขียน มิใช่ของคณะผู้จัดทำ และมิใช่ความรับผิดชอบของสมาคมศิษย์เก่าพยาบาลกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งสามารถนำไปอ้างอิงได้
เอกสารอ้างอิง
2. Department of Health Service Support. Manual for community health manager on five non-communicable disease.(2nded.).Bangkok:The society of agricultural cooperative Ltd;2012. (in Thai).
3. Department of Health Service Support. Organizationof Ministry of Public Health for health village volunteer Bangkok:The association of agricultural marketing cooperative;2010. (in Thai).
4. Strategic Development Suphanburi Health Office. Annual report health statistic Suphanburi Health Office ; 2015. (in Thai).
5. Herzberg F. The Motivation to Work. New York:Wiley;1959.
6. Krejcie RV, Morgan DW. Determining Sample Size for Research Activities. Educational and Psychological Measurement 1970;30(3):607-10.
7. Lohayanjaree A. Motivation Factors in Working of Public Health Volunteers in Thonburi, Bangkok. Thesis : Bansomdejchaopraya Rajabhat University;2007. (in Thai).
8. Ornprasong W, OrnprasongS. Factor influencing Motivation of Village Health Volunteers in Kalasin Province. Journal of Health Science 2007;16(3):463-70. (in Thai).
9. John W. Best. Research in Education 4th ed. New Jersey: Prentice– Hall Inc.;1981.
10. Cronbach, LJ. Coefficient alpha and the internal structure of tests. Psychometrika 1951; 16(3): 297-334.
11. Saritwanich S. Modern organizational behaviors: Concepts and theory. (2nded.). Bangkok: Thamasart University;2009. (in Thai).
12. Rodsawad P, Sumpowthong K. Factors related to the implementing mental health promotion by health volunteers in Laksi community, Bangkok. The Journal of Psychiatric Nursing and Mental Health 2016;30(3):92-108. (in Thai).
13. Suwanaprom P, Sanpanawat N, Wongglao. Factors Affecting the Performance for the Health Promotion of the Elderly of the Village Public Health Volunteers in UbonRatchathani Province. UbonRatchathani Province Journal for Public Health Research 2014;3(2):5-17. (in Thai).
14. Lopet S. Associated factors to role performance in primary health care of village health volunteers. Journal of YalaRajabhat University 2011;6(2):140-49. (in Thai).
15. Kalyanamitra K. Two powerful motivation factors to sucesses. Valaya Alongkorn Review(Humanities and Social Science) 2016;5(3) :175-83. (in Thai).
16. Chienchana C. Using multiple variables for research. Bangkok:Chulalongkorn University; 2015. (in Thai).
