ประสิทธิผลของโปรแกรมการพัฒนาความรอบรู้ด้านสุขภาพใน ผู้ป่วยโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ที่เสี่ยงต่อโรคไตเรื้อรัง
Article Sidebar
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยกึ่งทดลองแบบสองกลุ่มวัดผลก่อนและหลังการทดลอง มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษา ประสิทธิผลของโปรแกรมการพัฒนาความรอบรู้ด้านสุขภาพในผู้ป่วยโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ที่เสี่ยงต่อโรคไตเรื้อรัง ต่อความรอบรู้ด้านสุขภาพ พฤติกรรมการจัดการตนเอง ระดับโซเดียมในปัสสาวะ (urine sodium) ระดับน้ำตาลในเลือด (FBS) และอัตราการกรองของไต (eGFR) กลุ่มตัวอย่างเป็นผู้ป่วยโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ที่เสี่ยงต่อโรคไตเรื้อรัง โดยมีระดับน้ำตาลในเลือดอยู่ระหว่าง 155-182 มิลลิกรัมต่อเดซิลิตร และมีอัตราการกรองของไตอยู่ระดับ 1 และ 2 ในอำเภอเจริญศิลป์ จังหวัดสกลนคร ซึ่งถูกคัดเลือกโดยวิธีการสุ่มแบบชั้นภูมิ เป็นกลุ่มทดลองและกลุ่มเปรียบเทียบ กลุ่มละ 30 คน เครื่องมือการวิจัย ประกอบด้วย 1) โปรแกรมการพัฒนาการความรอบรู้ด้านสุขภาพตามแบบจำลองเส้นทางความรอบรู้ด้านสุขภาพ มีระยะเวลา 12 สัปดาห์ 2) คู่มือความรอบรู้ด้านสุขภาพกับการชะลอไตเสื่อมจากเบาหวาน 3) แบบสอบถาม มีค่าดัชนีความตรงของเนื้อหาของความรอบรู้ด้านสุขภาพและพฤติกรรมการจัดการตนเอง เท่ากับ .97 และ 1.00 และส่วนความรอบรู้ด้านสุขภาพมีค่าความเที่ยงคูเดอร์-ริชาดสัน เท่ากับ .78 ส่วนพฤติกรรมการจัดการตนเองมีค่าสัมประสิทธิ์แอลฟาของครอนบราค เท่ากับ .84 วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติเชิงพรรณนาและสถิติที ผลการวิจัยพบว่า หลังการเข้าร่วมโปรแกรม ผู้ป่วยโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ที่เสี่ยงต่อโรคไตเรื้อรังในกลุ่มทดลองมีคะแนนเฉลี่ยของความรอบรู้ด้านสุขภาพและพฤติกรรมการจัดการตนเองมากกว่าก่อนเข้าร่วมโปรแกรมและมากกว่ากลุ่มเปรียบเทียบอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ส่วนระดับโซเดียมในปัสสาวะและระดับน้ำตาลในเลือดมีค่าน้อยกว่าก่อนเข้าร่วมโปรแกรมและน้อยกว่ากลุ่มเปรียบเทียบอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ส่วนค่าเฉลี่ยอัตราการกรองของไตมีค่ามากกว่าก่อนเข้าร่วมโปรแกรมและมากกว่ากลุ่มเปรียบเทียบแต่ไม่มีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
Article Details
บทความและรายงานวิจัยในวารสารพยาบาลกระทรวงสาธารณสุข เป็นความคิดเห็นของ ผู้เขียน มิใช่ของคณะผู้จัดทำ และมิใช่ความรับผิดชอบของสมาคมศิษย์เก่าพยาบาลกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งสามารถนำไปอ้างอิงได้
เอกสารอ้างอิง
2. The Nephrology Society of Thailand. Clinical practice recommendation for the evaluation and management of chronic kidney disease in adults. 2015. Bangkok: Tex and Journal publication; 2017. (in Thai).
3. Charoensin Hospital. Results progress for the year 2017. Sakon Nakhon. 2017. (in Thai).
4. Chuasuwan A, Praditpornsilpa K. Annual report: Thailand renal replacement Therapy; 2559.
5. Bains SS, Egede LE. Associations between health literacy, diabetes knowledge, self-care behav iors, and glycemic control in a lo income population with type 2 diabetes. Diabetes Technol Ther. 2011;13(3): 335-341.dol: 10.1089/dia.2010.0160 [internet]. 2017 [cited 2017 Aug 18]. Available from: https://www.low.nlm.nih.gov/pmc/articles PMC3690006/
6. Bohanny W, Wu S, Liu C, Yeh S, Tsay S, Wang, T. Health literacy, self-efficacy, and self- care behaviors in patients with type 2 diabetes mellitus. Journal of the American Association of Nurse. Version of Record online: 4 Mar 2013 / doi: 10.1111/1745-7599.12017(page 495-502).
7. Dewalt D, Berkman N, Sheridan S. Literacy and health outcomes. Journal of General International Medicine. 2004; 19:1228-9.
8. Edwards M, Wood F, Davies M, Edwards A. The development of health literacy in patients with a long-term health condition: the health literacy pathway model. BMC Public Health 2012; 2:130. doi.:10.1186/1471-2458-12-130
9. Pannark P, Moolsart S, Kaewprom C. The Effectiveness of a program for health literacy development of the patients with uncontrolled type 2 diabetes at bangwua district, chach0engsao province. Nursing Journal of the Ministry of Public Health Research. 2016;27 (3):91-106 [internet]. 2018 [cited 2518 Aug 19]. Available from: https:// tci-thaijo.org/index.php/tnaph/article/view/111192/86931. (in Thai)
10. Bloom BS,et al. Hand book on Formtive Summatie Ealuation. New York: Mc Graw-Hill Book Company.
11. Thanachaikhan N. Preliminary statistics for research. Bangkok: Wittayapat. (in Thai)
12. Moss T. The impact of health literacy on clinical outcomes for adults with type 2 diabetes mellitus advances in diabetes and metabolism. Arch Intern Med 2014;2(1):10–19.doi: 10.13189/adm.2014.020103 [internet]. 2018 [cited 2518 Aug 18]. Available from: https://www.hrpub.org/download/20140701/ADM3-17102378.pdf
13. Boonsiri C, Piaseu N, Putwatana P, Kantachuvesiri S. Effects of program promoting food consumption for sodium reduction on knowledge and urinary sodium in nursing student. Thai Journal of Nursing Council 2017; 32(3) 119-34. (in Thai)
14. Boonkaew N. Relationships between Nursing Journal of the Ministry of Public Health. ;24(3):119-131. (in Thai)
15. Rattanapongsai P, Lagampan S, Pichayapinyo P. Impact of Thai Journal of Nursing Council.2018;31(4):50-62 (in Thai)
16. Souza J, Apolinario D, Magaldi M, Busse A, Campora F, Wilson J. Functional health literacy and glycaemic control in older adults with type 2 diabetes: a cross-sectionalstudy [internet]. 2018 [cited 2018 Mar 12]. Available from: https://bmjopen.bmj.com/content/4/2/e004180.full.pdf+html.
17. Thungtong S. Effects of self-management support program for delayed progression of diabetic nephropathy on self-management behaviors and clinical outcome in patients with uncontrolled type 2 diabetes mellitus [internet]. 2018 [cited 2018 Mar 17]. Available from: https://kb.psu.ac.th/psukb/bitstream/2010/9952/1/392773.pdf. (in Thai)
