การพัฒนารูปแบบการให้บริการการแพทย์ฉุกเฉินในผู้สูงอายุกระดูกสะโพกหัก
Article Sidebar
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยและพัฒนา มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1)ศึกษาสถานการณ์ สภาพปัจจุบัน ปัญหาและความต้องการได้รับบริการจากหน่วยให้บริการการแพทย์ฉุกเฉินของผู้สูงอายุกระดูกสะโพกหัก 2) พัฒนารูปแบบการให้บริการการแพทย์ฉุกเฉินของผู้สูงอายุกระดูกสะโพกหัก และ 3) ประเมินผลลัพธ์การใช้รูปแบบการให้ให้บริการการแพทย์ฉุกเฉินของผู้สูงอายุกระดูกสะโพกหัก กลุ่มตัวอย่าง ประกอบด้วย อาสาสมัครฉุกเฉินการแพทย์ จำนวน 60 คน และผู้สูงอายุกระดูกสะโพกหัก จำนวน 19 คน เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล ได้แก่ 1) แบบบันทึกโปรแกรมการส่งเสริมสมรรถนะแห่งตน 2) แบบประเมินความสามารถในการให้บริการการแพทย์ฉุกเฉินของอาสาสมัครฉุกเฉินการแพทย์ และ 3) แบบสอบถามความพึงพอใจของประชาชนต่อการให้บริการของหน่วยอาสาสมัครฉุกเฉินการแพทย์ วิเคราะห์ข้อมูลโดยค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการเปรียบเทียบสถิติ Paired t-test ผลการวิจัย ได้รูปแบบการให้บริการการแพทย์ฉุกเฉินในผู้สูงอายุกระดูกสะโพกหัก ประกอบด้วย 1)การดูแลโดยอาสาสมัครฉุกเฉินการแพทย์ที่ผ่านการเข้าโปรแกรมส่งเสริมสมรรถนะแห่งตน 2) คู่มือการให้บริการการแพทย์ฉุกเฉินในผู้สูงอายุกระดูกสะโพกหัก และ3)การใช้ไม้ดามกระดูกที่ถูกต้อง ผลลัพธ์ของการพัฒนารูปแบบการให้บริการการแพทย์ฯ พบว่า อาสาสมัครฉุกเฉินการแพทย์ มีค่าเฉลี่ยคะแนนความรู้ ความสามารถในการปฏิบัติงาน และทัศนคติของอาสาสมัครฉุกเฉินการแพทย์ เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p<.01) และผู้รับบริการมีความพึงพอใจต่อรูปแบบการให้บริการการแพทย์ฯ โดยรวมอยู่ในระดับความพึงพอใจระดับมากที่สุด (= 4.92, SD=.27) จากผลการวิจัยควรมีการสร้างผู้ฝึกสอนในการฝึกอบรมอาสาสมัครฉุกเฉินการแพทย์เพื่อพัฒนาสมรรถนะด้านการให้บริการการแพทย์ฉุกเฉินในด้านต่างๆ และการนำรูปแบบการให้บริการการแพทย์ฉุกเฉินในการให้บริการผู้ป่วยไปขยายผลกับกลุ่มผู้ป่วยโรคฉุกเฉินอื่น เพื่อลดการสูญเสียอวัยวะและชีวิตของผู้ป่วยก่อนถึงโรงพยาบาล
Article Details
บทความและรายงานวิจัยในวารสารพยาบาลกระทรวงสาธารณสุข เป็นความคิดเห็นของ ผู้เขียน มิใช่ของคณะผู้จัดทำ และมิใช่ความรับผิดชอบของสมาคมศิษย์เก่าพยาบาลกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งสามารถนำไปอ้างอิงได้
เอกสารอ้างอิง
2. Limthongkul M. Fracture in elderly. Ramathibodi Nursing Journal 2015;2(3):99-111.(in Thai).
3. Matteson M, McConnell ES, Linton AD. Gerontological nursing: concepts and practice. Philadelphia: Saunders; 1997.(in Thai).
4. Tasuwanin T. Falling and falling in the elderly. Journal of Public Health Research 2014;5(2):119-31.(in Thai).
5. Chutitharamanan L, editor. Summary of the orthopedic surgery group meeting at Phrae Hospital. Phrae: Orthopedic surgery group Phrae Hospital;2017 Oct. Sponsored by Orthopedic surgery group.(in Thai).
6. Hfocus. Hfocus news agency delves into health systems. An interview with Dr. Lak Chutithamanan:Hip fracture requires surgery as soon as possible. Reduce the risk of complications [internet].2017.[cited 14 November 20121]. Available from: https://www.hfocus.org/content/2017/02/13398.(in Thai).
7. Nugate B. Gerontological Nursing. Bangkok: Bunsiri Print;2002.(in Thai).
8. National Institute of Emergency Medicine. Summarize the overview of the standardization, criteria, criteria, and practice related to the emergency medical system. Nonthaburi: Ultimate Printing Co., Ltd;2013.(in Thai).
9. Tanuchit S, Chinnacom D, Malathong N, Doungthipsirikul S, Tantivess S. The situations of emergency medical services associated with elderly falls in Thailand: policy recommendation. Journal of Professional Routine to Research 019;6(2):57-68.(in Thai).
10. Population Statistics Group Social Statistics Division National Statistical Office, editors. Report on the 2017 survey of the older person in Thailand. Bangkok: Statistical Forecasting Division National Statistical Office;2018.
11. Minutes of the 2017 Orthopedic committee meeting. Summary of the minutes of the orthopedic group committee meeting at Phrae Hospital;2017 May. Sponsored by Phrae Hospital.(in Thai).
12. Bandura A. Self-efficacy: the exercise of control. New Yonk: WH. Freemam and Company;1997.
13. Srisatitnakun B. The methodology in nursing research. 5th ed. Bangkok: You and I Inter Media;2010.(in Thai).
14. Meeting of Executive Committee Plus: MEC Plus 2014. Summary of the meeting of executive committee plus Phrae;2014 Jan. Sponsored by Phrae Provincial Public Health Office.(in Thai).
15. Phonrak R. The effect of self-efficacy enhancement program on insulin- penfill injection Competency [Master thesis]. Songkla: Prince of Songkla University;2013.(in Thai).
16. Awae H, Khupantavee N, Damkliang J. Effect of a self-efficacy enhancement program on capability of
trauma patient care on scene and during transfer by emergency medical technician personnel. Songklanagarind Journal of Nursing.2020;40(3):15-25.(in Thai).
17. Chongsakul A, Yoosomboon N, Karuncharernpanit S. Development of comprehensive care model for one day surgery of Phaholpolpayuhasaena Hospital, Thailand. Medical Journal 2020; 39(1): 109-125.(in Thai)
18. Kongmun T. Effectiveness of multidisciplinary care development in geriatric hip fractures. Srinagarind Med J 2021;36(1):55-60.(in Thai).
