การติดตามผลการพัฒนาการจัดการเรียนการสอน RDU ในหลักสูตรพยาบาลศาสตรบัณฑิต

บทคัดย่อ

การใช้ยาอย่างสมเหตุผล (Rational Drug Use: RDU) มีความสำคัญเพราะช่วยให้ผู้ป่วยได้รับประโยชน์สูงสุด ปลอดภัย และลดค่าใช้จ่าย การศึกษานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ติดตามสมรรถนะและระบุปัจจัยด้านการจัดการศึกษาที่สัมพันธ์กับสมรรถนะ RDU 2) พัฒนานวัตกรรมสื่อการสอน RDU  และ 3) ประเมินความรู้ RDU ของนักศึกษาพยาบาลหลังเรียนผ่านนวัตกรรม แบ่งเป็น 3 ระยะ: ระยะที่ 1) ติดตามสมรรถนะ RDU ของบัณฑิตพยาบาล ปีการศึกษา 2561 จำนวน 1,388 คน และปีการศึกษา 2562 จำนวน 1,428 คน จากหลักสูตรพยาบาลศาสตรบัณฑิตทั่วประเทศ วิเคราะห์ด้วยสถิติเชิงพรรณนาและสหสัมพันธ์เพียร์สัน ระยะที่ 2) พัฒนานวัตกรรมสื่อการสอนด้าน RDU จากผลของระยะที่ 1 และระยะที่ 3) ประเมินความรู้ของนักศึกษาพยาบาลหลังใช้สื่อนวัตกรรมฯ ที่พัฒนาขึ้นจากระยะที่ 2 กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ นักศึกษาพยาบาลที่เรียนผ่านสื่อสถานการณ์จำลองเสมือนจริง 40 คน และเรียนผ่านสื่อวีดิทัศน์เชิงโต้ตอบ 88 คน กลุ่มทดลองและควบคุม กลุ่มละ 44 คน ข้อมูลวิเคราะห์โดยสถิติ paired t-test และ independent t-test ผลการวิจัยพบว่า 1) บัณฑิตปีการศึกษา 2562 มีสมรรถนะ RDU ในระดับสูงทุกมิติ และคะแนนรวมสูงกว่าปีการศึกษา 2561 อย่างมีนัยสำคัญ สมรรถนะ RDU มีความสัมพันธ์เชิงบวกกับทัศนคติ RDU การจัดการเรียนการสอน และการสนับสนุนจากผู้สอน 2) นวัตกรรมที่ผลิตขึ้นมีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ E1/E2 เท่ากับ 64.94/72.96 และ 97.27/90.00 ตามลำดับ และ 3) สื่อสถานการณ์จำลองเสมือนจริงและสื่อวีดิทัศน์เชิงโต้ตอบช่วยเพิ่มพูนความรู้ RDU แก่นักศึกษาพยาบาลอย่างมีนัยสำคัญ แสดงให้เห็นว่าการปฏิรูปหลักสูตร RDU ของสภาการพยาบาลช่วยพัฒนาสมรรถนะ RDU ในบัณฑิตพยาบาล และการสนับสนุนจากอาจารย์ในการสร้างสรรค์นวัตกรรม​​สามารถเพิ่มพูนความรู้ RDU ของนักศึกษาพยาบาลได้