ผลของโปรแกรมการส่งเสริมการรับรู้ความสามารถแห่งตนต่อพฤติกรรมการดูแลตนเองหลังผ่าตัดในผู้ป่วยสูงอายุที่ได้รับการทำผ่าตัดกระดูกสันหลัง

ผู้แต่ง

  • สุทธินี ชัยเฉลิมศักดิ์ นักศึกษาหลักสูตรพยาบาลศาสตรมหาบัณฑิต สาขาการพยาบาลผู้สูงอายุ คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล
  • นารีรัตน์ จิตรมนตรี คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล
  • วีนัส ลีฬหกุล คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล

คำสำคัญ:

โปรแกรมการส่งเสริมการรับรู้ความสามารถแห่งตน, ผู้ป่วยสูงอายุ, การผ่าตัดกระดูกสันหลังระดับเอว, พฤติกรรมการดูแลตนเอง

บทคัดย่อ

        การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยแบบกึ่งทดลอง ชนิดสองกลุ่มวัดผลหลังการทดลอง เพื่อศึกษาผลของโปรแกรมการส่งเสริมการรับรู้ความสามารถแห่งตนต่อพฤติกรรมการดูแลตนเองหลังผ่าตัด  กลุ่มตัวอย่างเป็นผู้ป่วยสูงอายุที่ได้รับการผ่าตัดกระดูกสันหลังส่วนเอวที่รับการรักษาในหอผู้ป่วยศัลยกรรมประสาท โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ระหว่างเดือนมิถุนายน พ.ศ.2559 ถึง กุมภาพันธ์ พ.ศ.2561 เลือกกลุ่มตัวอย่างตามเกณฑ์ที่กำหนด จำนวน 50 ราย แล้วจัดกลุ่มตัวอย่างเป็นกลุ่มทดลองและกลุ่มควบคุม กลุ่มละ 25 ราย ให้มีลักษณะใกล้เคียงกันด้วยการจับคู่ (matching) ในเรื่องเพศและจำนวนข้อของกระดูกสันหลังที่ได้รับการผ่าตัด กลุ่มทดลองได้รับโปรแกรมการส่งเสริมการรับรู้ความสามารถแห่งตนต่อพฤติกรรมการดูแลตนเองหลังผ่าตัดเป็นเวลา 5 วัน    กลุ่มควบคุมได้รับการพยาบาลตามปกติและติดตามประเมินพฤติกรรมหลังสิ้นสุดโปรแกรม 2 สัปดาห์ โดยใช้แบบบันทึกข้อมูลส่วนบุคคล และแบบสอบถามพฤติกรรมการดูแลตนเองหลังผ่าตัด วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติบรรยาย และสถิติ t-test

        ผลการวิจัยพบว่าผู้ป่วยสูงอายุกลุ่มทดลองหลังได้รับโปรแกรมการส่งเสริมการรับรู้ความสามารถแห่งตนต่อพฤติกรรมการดูแลตนเองหลังผ่าตัดกระดูกสันหลังส่วนเอวมีคะแนนเฉลี่ย พฤติกรรมการดูแลตนเองหลังผ่าตัดสูงกว่าผู้ป่วยสูงอายุกลุ่มควบคุมที่ได้รับการพยาบาลตามปกติอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p <.001) แสดงให้เห็นว่าโปรแกรมดังกล่าวมีประสิทธิผลในการส่งเสริมพฤติกรรมการดูแลตนเองของผู้ป่วยสูงอายุหลังผ่าตัดกระดูกสันหลังส่วนเอว  พยาบาลควรนำโปรแกรมนี้ไปประยุกต์ใช้ในหน่วยงานอื่นที่มีผู้ป่วยลักษณะคล้ายคลึงกับการศึกษานี้

References

1. Jun M, Jung J. Effectiveness of home health care service for elders after spinal surgery. J Korean Acad Nurs 2012;42(7):1009-18.

2. งานเวชระเบียนและสถิติโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย. สถิติผู้ป่วยโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์สภากาชาดไทย. กรุงเทพฯ: โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย; 2557.

3. ตติยา จำปาวงษ์. ผลของโปรแกรมการส่งเสริมการรับรู้สมรรถนะของตนเองต่อการฟื้นฟูสมรรถภาพหลังผ่าตัดกระดูกสันหลังส่วนเอวแบบลามิเนกโตมี่ในผู้สูงอายุโรคโพรงกระดูกสันหลังส่วนเอวตีบ [อินเทอร์เน็ต]. 2560 [เข้าถึงเมื่อ 1 มี.ค. 2560]. เข้าถึงได้จาก: https://gsbooks.gs.kku.ac.th/60/nigrc2017/pdf/MMO13.pdf

4. Abbott AD, Hedlund R, Tyni-Lenne R. Patients' experience post-lumbar fusion regarding back problems, recovery and expectations in terms of the International Classification of Functioning, Disability and Health. Disabil Rehabil 2011;33(15-16):1399-408.

5. Abbott AD, Tyni-Lenne R, Hedlund R. Early rehabilitation targeting cognition, behavior, and motor function after lumbar fusion: a randomized controlled trial. Spine 2010;35(8):848-57.

6. Abbott AD, Tyni-Lenné R, Hedlund R. The influence of psychological factors on pre-operative levels of pain intensity, disability and health-related quality of life in lumbar spinal fusion surgery patients. Physiotherapy 2010;96(3):213-21.

7. Lee DY, Lee SH, Maeng DH. Two-level anterior lumbar interbody fusion with percutaneous pedicle screw fixation: a minimum 3-year follow-up study. Neurol Med Chir (Tokyo) 2010;50(8):645-50.

8. Archer KR, Seebach CL, Mathis SL, Riley LH, 3rd, Wegener ST. Early postoperative fear of movement predicts pain, disability, and physical health six months after spinal surgery for degenerative conditions. Spine J 2014;14(5):759-67.

9. Neblett R, Mayer G, Brede E, Gatchel J. The effect of prior lumbar surgeries on the flexion relaxation phenomenon and its responsiveness to rehabilitative treatment. Spine J 2014;(14):892–902.

10. Speerin R, Slater H, Li L, Moore K, Chan M, Dreinhofer K, et al. Moving from evidence to practice: models of care for the prevention and management of musculoskeletal conditions. Best Pract Res Clin Rheumatol 2014;28(3):479-515.

11. Reiter K. A look at best practices for patient education in outpatient spine surgery. AORN J 2014;99(3):376-84.

12. อัญชนา แก้วคา. การพัฒนาคุณภาพการเตรียมความพร้อมสาหรับผู้ป่วยก่อนผ่าตัดกระดูกสันหลัง โรงพยาบาลประสาทเชียงใหม่ [วิทยานิพนธ์ปริญญาพยาบาลศาสตร์มหาบัณฑิต]. เชียงใหม่: มหาวิทยาลัยเชียงใหม่; 2555.

13. Nielsen PR, Jorgensen LD, Dahl B, Pedersen T, Tonnesen H. Prehabilitation and early rehabilitation after spinal surgery: randomized clinical trial. Clin Rehabil 2010;24(2):137-48.

14. พรวิมล บุญมา. การส่งเสริมการรับรู้ความสามารถแห่งตนต่อพฤติกรรมการดูแลตนเองหลังผ่าตัดในผู้ป่วยโรคกระดูกสันหลังส่วนคอเสื่อม [วิทยานิพนธ์ปริญญาพยาบาลศาสตร์มหาบัณฑิต]. เชียงใหม่: มหาวิทยาลัยเชียงใหม่; 2552.

15. สุวคล โกสีย์ไกรนิรมล. ผลของโปรแกรมการส่งเสริมสมรรถนะของตนเอง ต่อการรับรู้สมรรถนะของตนเอง การปฏิบัติกิจวัตรประจำวัน และการเคลื่อนไหวของลำไส้ของผู้ป่วยที่ได้รับการผ่าตัดกระดูกสันหลังระดับบั้นเอว [วิทยานิพนธ์ปริญญาพยาบาลศาสตร์มหาบัณฑิต]. กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยมหิดล; 2552.

16. Bandura A. Self-efficacy: the exercise of control. New York: W.H. Freeman; 1997.

17. ทัศนี ประสบกิตติคุณ. การรับรู้สมรรถนะของตนเองกับพฤติกรรมสุขภาพ. วารสารสภาการพยาบาล 2544;16(3):1-10.

18. บุญใจ ศรีสถิตย์นรากูร. ระเบียบวิธีการวิจัยทางการพยาบาล. กรุงเทพฯ: ยูแอนด์ไออินเตอร์มีเดีย; 2550.

19. สุวรรณี ชอบการไร่. ปัจจัยทำนายพฤติกรรมการดูแลตนเองของผู้ป่วยกระดูกสันหลังเสื่อมที่ได้รับการผ่าตัดกระดูกสันหลังระดับเอว [วิทยานิพนธ์ปริญญาพยาบาลศาสตร์มหาบัณฑิต]. กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยมหิดล. 2550.

20. จุฬาลักษณ์ วงศ์อ่อน, อารี พันธ์มณี. ผลของการใช้โปรแกรมการสอนทางกายภาพบำบัดตามรูปแบบความเชื่อด้านสุขภาพของโรเชนสต๊อกต่อพฤติกรรมการดูแลตนเองและการออกกำลังกายของผู้ป่วยหลังผ่าตัด กระดูกสันหลัง แบบเชื่อมต่อกระดูกสันหลัง. วารสารพฤติกรรมศาสตร์ 2558;21(1):23-38.

Downloads

เผยแพร่แล้ว

2019-07-15