ผลของวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ตามชนิดของวัคซีน และสูตรการได้รับวัคซีนในการป้องกันการติดเชื้อของประชาชน อำเภอพรหมคีรี จังหวัดนครศรีธรรมราช

บทคัดย่อ

     การวิจัยนี้เป็นแบบ Retrospective cohort study เพื่อศึกษา 1) ผลของวัคซีนโควิด-19 ในการป้องกันการติดเชื้อตามจำนวนเข็ม ชนิดและสูตรวัคซีนที่ได้รับ 2) ฟังก์ชันความเสี่ยงอันตราย และฟังก์ชันระยะเวลาปลอดเหตุการณ์ตามชนิดและสูตรวัคซีน  ของอำเภอพรหมคีรี จังหวัดนครศรีธรรมราช  ใช้กลุ่มตัวอย่าง 4,428 ตัวอย่าง จากประชากรอายุ 12 ปีขึ้นไปที่มารับบริการตรวจวินิจฉัยโควิด-19 ระหว่างวันที่ 1 มกราคม ถึง 30 กันยายน  2565 อาศัยอยู่จริงในพื้นที่ไม่น้อยกว่า 14 วันนับถึงวันตรวจ เชื่อมโยงข้อมูลการรับวัคซีนจากฐานข้อมูลการรับวัคซีนของกระทรวงสาธารณสุข วิเคราะห์ค่าสัดส่วนด้วยการวิเคราะห์การถดถอยโลจิสติกพหุกลุ่ม ส่วนฟังก์ชันความเสี่ยงอันตราย ฟังก์ชันระยะเวลาปลอดเหตุการณ์ ใช้ cox regression analysis โดยควบคุมตัวแปร  เพศ อายุ และการมีโรคประจำตัว

     ผลการศึกษาพบว่า การรับวัคซีน 3 เข็มมีโอกาสลดการติดเชื้อได้ร้อยละ 91.0 และการรับวัคซีน 1-2 เข็ม มีโอกาสลดการติดเชื้อได้ ระหว่างร้อยละ 48-57 วัคซีน SV, AZ และ PZ มีผลในการป้องกันการติดเชื้อไม่แตกต่างกัน ส่วนวัคซีน 2 เข็ม สูตร SV-AZ มีโอกาสลดการติดเชื้อได้ร้อยละ 39.9 เมื่อเทียบกับการรับวัคซีนสูตรเชื้อตาย 2 เข็ม และวัคซีน 3 เข็มสูตร SV-AZ-PZ มีโอกาสลดการติดเชื้อได้ ร้อยละ 50.3 เมื่อเทียบกับวัคซีนสูตร SV-AZ-AZ  และพบว่า วัคซีน AZ มีสัดส่วนความเสี่ยงในการติดเชื้อสูงกว่า SV 2.452 เท่า วัคซีนสูตร SV-AZ มีค่าสัดส่วนความเสี่ยงการติดเชื้อน้อยที่สุด สูตรที่มีค่าสัดส่วนความเสี่ยงสูงที่สุดคือ AZ-PZ, AZ-AZ และ SPh-SPh เท่ากับ 3.846, 3.160 และ 1.405 เท่าเมื่อเทียบกับสูตร SV-AZ และ วัคซีน 3 เข็มสูตร SV-AZ-PZ มีค่าสัดส่วนความเสี่ยงติดเชื้อน้อยที่สุด โดยน้อยกว่าสูตร SV-AZ-AZ ร้อยละ 48.7

     ดังนั้น จึงควรให้ประชาชนได้รับวัคซีนอย่างน้อย 3 เข็ม โดยพิจารณาใช้สูตร วัคซีนชนิดเชื้อตาย-ไวรัลเวกเตอร์-เอ็มอาร์เอ็นเอ หรือ วัคซีนชนิดเชื้อตาย-เชื้อตาย-เอ็มอาร์เอ็นเอ