ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับความรู้และทัศนคติเกี่ยวกับบุหรี่ไฟฟ้าของนักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร
คำสำคัญ:
ความรู้, ทัศนคติ, บุหรี่ไฟฟ้า, นักศึกษาบทคัดย่อ
การวิจัยเชิงสำรวจครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาระดับความรู้ และระดับทัศนคติเกี่ยวกับบุหรี่ไฟฟ้าของนักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในงานวิจัยครั้งนี้ได้แก่ นักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร ชั้นปีที่ 1-5 ภาคปกติ ปีการศึกษา 2564 จำนวน 380 คน เก็บรวบรวมข้อมูลโดยใช้แบบสอบถามที่ตอบด้วยตนเอง ประกอบด้วย แบบสอบถามข้อมูลส่วนบุคคล ความรู้และทัศนคติเกี่ยวกับบุหรี่ไฟฟ้า สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลได้แก่ ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการวิเคราะห์ความสัมพันธ์โดยไคสแควร์และการทดสอบของฟิสเชอร์
ผลการวิจัยพบว่ากลุ่มตัวอย่างมีอายุเฉลี่ย 20.19 ปี (SD=1.16) โดยกลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่มีความรู้เกี่ยวกับบุหรี่ไฟฟ้าอยู่ในระดับมาก (=15.43 SD=3.06) และทัศนคติของกลุ่มตัวอย่างต่อบุหรี่ไฟฟ้า อยู่ในระดับปานกลาง (=2.35 SD=0.51) ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับระดับความรู้เกี่ยวกับบุหรี่ไฟฟ้า อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p<0.05) ได้แก่ เพศ และปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับระดับทัศนคติเกี่ยวกับบุหรี่ไฟฟ้าอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p<0.05) ได้แก่ คณะที่กำลังศึกษาและการได้รับความรู้เกี่ยวกับบุหรี่ไฟฟ้า จากการศึกษาในครั้งนี้ควรมีการสร้างความตระหนักเกี่ยวกับบุหรี่ไฟฟ้าให้กับนักศึกษาโดยเฉพาะผลกระทบด้านสุขภาพที่จะเกิดขึ้น
References
รณชัย คงสกนธ์. บุหรี่ไฟฟ้าผิดกฎหมาย ป่วยหนัก ตายจริง. วารสารก้าวทันวิจัยกับศูนย์วิจัยและจัดการความรู้เพื่อการควบคุมยาสูบ (ศจย.) [อินเตอร์เน็ต]. 2563 [เข้าถึงเมื่อ 2566 ม.ค. 20]; 12(1):4-6. เข้าถึงได้จาก: https://www.trc.or.th/th/attachments/article/394.
สำนักข่าว Hfocus. ศจย. เผยผลวิจัยกว่า 7,000 ชิ้นยืนยันผลกระทบบุหรี่ไฟฟ้า [อินเตอร์เน็ต]. นนทบุรี. กระทรวงสาธารณสุข; 2565 [เข้าถึงเมื่อ 2566 ก.พ. 10] เข้าถึงได้จาก: https://www.hfocus.org/content/2022/12/26661.
สำนักงานสถิติแห่งชาติ. การสำรวจพฤติกรรมด้านสุขภาพของประชากร พ.ศ. 2564. กรุงเทพฯ: กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม; 2564.
ชนิกา เจริญจิตต์กุล, ชฎาภา ประเสริฐทรง. บุหรี่ไฟฟ้า: ภัยเงียบของวัยรุ่น. วารสารพยาบาลทหารบก. 2557;15(3):149-14.
สำนักงานสถิติแห่งชาติ. การสำรวจพฤติกรรมด้านสุขภาพของประชากร พ.ศ. 2564. กรุงเทพฯ: กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม; 2564.
สำนักข่าว Hfocus. วัยรุ่นไทย” น่าห่วงร้อยละ 12.3 สูบบุหรี่ไฟฟ้า กว่า 2 ใน 3 สูบบุหรี่ไฟฟ้าเป็นผลิตภัณฑ์ยาสูบแรกของชีวิต. [อินเตอร์เน็ต]. 2565 เข้าถึงเมื่อ [2566 ก.พ. 10]. เข้าถึงได้จาก: https://www.hfocus.org/content/2022/06/25365
ณัฐพล รุ่งโรจน์สิทธิชัย. การรับรู้ ทัศนคติ และพฤติกรรม ที่มีต่อบุหรี่ไฟฟ้า. [วิทยานิพนธ์วารสารศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการจัดการการสื่อสารองค์กร]. กรุงเทพฯ. มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์; 2560.
กิติพงษ์ เรือนเพ็ชร. ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับการสูบบุหรี่ไฟฟ้าของนักเรียนชายอาชีวศึกษา จังหวัดบุรีรัมย์. [วิทยานิพนธ์พยาบาลศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการพยาบาลเวชปฏิบัติชุมชน]. ชลบุรี. มหาวิทยาลัยบูรพา; 2564.
สำนักส่งเสริมวิชาการและงานทะเบียน. [อินเตอร์เน็ต]. สกลนคร: มหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร; 2565 [เข้าถึงเมื่อวันที่ 2565 ม.ค. 21]. เข้าถึงได้จาก: http://academic.snru.at.th
Yamane T. Statistics: An introductory analysis. 3rd ed. New York: Harper & Row; 1973.
Bloom BS, Hastings JT, Madaus GF. Handbook on Formative and Summative Evaluation of Student Learning. New York: McGraw-Hill; 1971.
กัลยา วิริยะ, ประภาพร ชูกำเนิด, อังศุมา อภิชาโต. ความรู้และทัศนคติเกี่ยวกับบุหรี่กับพฤติกรรมการสัมผัสบุหรี่ของนักศึกษา มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์. วารสารวิทยบริการ. 2562; 30: 66-74.
ทิพยรัตน์ บุญมา, บุญวัฒน์ สว่างวงศ์, วันจักร น้อยจันทร์. ทัศนคติของนักศึกษาต่อการสูบบุหรี่ อิเล็กทรอนิกส์และบุหรี่มวน. วารสารมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์. 2564;9(1):202-15.
ศศิธร ชิดนายี. วราภรณ์ ยศทวี. ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการสูบบุหรี่ของวัยรุ่นจังหวัดอุตรดิตถ์. วารสารวิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี อุตรดิตถ์. 2561;10(1):83-93.
Good CV. Dictionary of Education. 3rd ed. New York: McGraw-Hill; 1973.
Downloads
เผยแพร่แล้ว
How to Cite
ฉบับ
บท
License
Copyright (c) 2023 วารสารศูนย์อนามัยที่ 9 : วารสารส่งเสริมสุขภาพและอนามัยสิ่งแวดล้อม
This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความหรือข้อคิดเห็นใด ๆ ที่ประกฎในวารสารศูนย์อนามัยที่ 9 เป็นความคิดเห็นของผู้เขียน บรรณาธิการ คณะผู้จัดทำ และศูนย์อนามัยที่ 9 นครราชสีมา (เจ้าของ) ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย ผู้เขียนต้องรับผิดชอบต่อบทความของตนเอง
ผลการพิจารณาของกองบรรณาธิการและผู้ทรงคุณวุฒิถือเป็นที่สิ้นสุด คณะบรรณาธิการวารสารฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการตรวจแก้ไขข้อความให้ถูกต้องตามหลักภาษาและมีความเหมาะสม
กองบรรณาธิการวารสารฯ ขอสงวนสิทธิ์มิให้นำเนื้อหาใด ๆ ของบทความ หรือข้อคิดเห็นใด ๆ ของผลการประเมินบทความในวารสารฯ ไปเผยแพร่ก่อนได้รับอนุญาตจากกองบรรณาธิการ อย่างเป็นลายลักษณ์อักษร และผลงานที่ได้รับการตีพิมพ์ถือเป็นลิขสิทธิ์ของวารสารศูนย์อนามัยที่ 9