Development of Survival Skills Model When Encountering Dangers and Emergencies for Child Mentors in Metropolitan Health and Wellness Institution, Nonthaburi Province
Keywords:
Model development, Survival skills, Dangers and emergencies, Child mentorAbstract
The purpose of this research and development study was to develop and assess knowledge and satisfaction of a survival skill program for mentors in a Metropolitan Health and Wellness Institution located in Nonthaburi, as well as to evaluate their satisfactions with the program. This study collected the data on satisfaction and knowledge using questionnaires with 35 mentors and 35 parents, for a total of 70 samples who used the model. The instrument was tested for reliability yielding Cronbach's alpha coefficient of 0.95, indicating high reliability. The data were analyzed using frequencies, percentages, means, standard deviations, and t-test.
Results from the study showed that, in phase 1, mentors developed the survival skills in dangerous and emergency encounters. In phase 2, mentors’ knowledge was evaluated both before and after the training. Prior to training, the average score was at 46.32 percent, while the average score increased significantly to 85.73 percent. Overall, mentors’ satisfaction with the program was rated at the highest level (=4.39, SD=0.52), with parents and model users also rated their satisfaction at a high level (
=4.64, SD=0.41 and
=4.66, SD=0.44, respectively). These findings suggested that the model should be applied in operational agency work.
References
นัทธี จิตสว่าง. ถอดบทเรียนจิตวิทยา กราดยิง ทางออก ป้องกันความรุนแรง [อินเทอร์เน็ต]. 2566 [เข้าถึงเมื่อ 2566 ม.ค. 10]. เข้าถึงได้จาก: https://dmh.go.th/newsdmh/view.asp?id=30197
รัชดา คงขุนเทียน. หนี ซ่อน สู้ เอาชีวิตรอดปลอดภัยในเหตุกราดยิง [อินเทอร์เน็ต]. 2566 [เข้าถึงเมื่อ 2566 ก.พ. 20]. เข้าถึงได้จาก: https://www.ryt9.com/s/iq01/3344747
กาญจนา ศรีสวัสดิ์. รายงานการทบทวนสถานการณ์ ความรุนแรงจากการถูกทำร้าย 5 ปี (2558- 2562) [อินเทอร์เน็ต]. 2566 [เข้าถึงเมื่อ 2566 ก.พ. 20]. เข้าถึงได้จาก: https://ddc.moph.go.th/uploads/publish/1175720210909094610.pdf
เกศินี วุฒิวงศ์. แนวทางการเอาชีวิตรอดจากเหตุการณ์กราดยิงในพื้นที่สาธารณะ สำหรับพยาบาล. วารสารสมาคมพยาบาลแห่งประเทศไทยฯ สาขาภาคเหนือ. 2563;26(2):116-27.
จิรฐา จรวงษ์. การพัฒนาหลักสูตรฝึกอบรมครู เรื่อง กลยุทธ์การสอนทักษะการคิดสำหรับนักเรียนระดับประถมศึกษา [วิทยานิพนธ์ศึกษาศาสตรดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาหลักสูตรและการสอน]. ชลบุรี: มหาวิทยาลัยบูรพา; 2556.
พชรกมล กลั่นบุศย์. หลักสูตรระยะสั้น หลักสูตรทักษะเอาตัวรอดได้เมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน สำหรับนักเรียน หลักสูตรใหม่ พ.ศ. 2564 [อินเทอร์เน็ต]. 2566 [เข้าถึงเมื่อ 2566 ก.พ. 26]. เข้าถึงได้จาก: http://acad.vru.ac.th/about_acad/staff/fileup_Achievement/5.pdf
วิริณธิ์ กิตติพิชัย, อังศินันท อินทรกําแหง, จุฑามาศ แกวพิจิตร. การประเมินผลหลักสูตรการพัฒนาผู้บริหารสถาบันอุดมศึกษา (นบอ.) ตามโครงการเสริมสร้างความเข้มแข็งด้านการบริหารมหาวิทยาลัยใหม่. วารสารพฤติกรรมศาสตร์. 2553;16(1):56-70.
สุกัญญา พรน้อย, ณัฐกฤตา งามมีฤทธ, สมโภชน อเนกสุข. การพัฒนาตัวบ่งชี้ความปลอดภัยในโรงเรียนประถมศึกษา. วารสารดุษฎีบัณฑิตทางสังคมศาสตร์. 2553;10(3):733-43.
นภัสวรรณ พชรธนสาร, สมรัตน์ เลิศมหาฤทธิ์. ความชุก ลักษณะ และปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับการเกิดเหตุความรุนแรงขณะปฏิบัติงานในสถานที่ทำงานของบุคลากรทางการแพทย์หน่วยงานอุบัติเหตุและฉุกเฉิน ของโรงพยาบาลภาครัฐในเขตบริการสุขภาพที่ 6. วารสารสมาคมเวช ศาสตร์ป้องกันแห่งประเทศไทย. 2561 ;8(2):212-25.
สมบัติ นพรัก, สําราญ มีแจง, เทียมจันทร พานิชยผลินไชย, อมรรัตน วัฒนาธร, ชํานาญ ปาณาวงษ.รูปแบบการพัฒนาครูและผูบริหารสถานศึกษาแบบใชโรงเรียนเปนฐานในโรงเรียนขนาดเล็ก: กรณีศึกษาของจังหวัดพิษณุโลก. วารสารศึกษาศาสตร มหาวิทยาลัยนเรศวร. 2557;16(4):141-54.
เชาวรินทร์ แก้วพรม, จำเนียร พลหาญ, ชยากานต์ เรืองสุวรรณ. รูปแบบการพัฒนาครูด้านการจัดการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 สำหรับโรงเรียนขยายโอกาสทางการศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ประถมศึกษาขอนแก่น เขต 3. วารสารวิชาการธรรมทรรศน์. 2564 ;21(4):196-212.
Downloads
Published
How to Cite
Issue
Section
License
Copyright (c) 2023 REGIONAL HEALTH PROMOTION CENTER 9 JOURNAL

This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความหรือข้อคิดเห็นใด ๆ ที่ประกฎในวารสารศูนย์อนามัยที่ 9 เป็นความคิดเห็นของผู้เขียน บรรณาธิการ คณะผู้จัดทำ และศูนย์อนามัยที่ 9 นครราชสีมา (เจ้าของ) ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย ผู้เขียนต้องรับผิดชอบต่อบทความของตนเอง
ผลการพิจารณาของกองบรรณาธิการและผู้ทรงคุณวุฒิถือเป็นที่สิ้นสุด คณะบรรณาธิการวารสารฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการตรวจแก้ไขข้อความให้ถูกต้องตามหลักภาษาและมีความเหมาะสม
กองบรรณาธิการวารสารฯ ขอสงวนสิทธิ์มิให้นำเนื้อหาใด ๆ ของบทความ หรือข้อคิดเห็นใด ๆ ของผลการประเมินบทความในวารสารฯ ไปเผยแพร่ก่อนได้รับอนุญาตจากกองบรรณาธิการ อย่างเป็นลายลักษณ์อักษร และผลงานที่ได้รับการตีพิมพ์ถือเป็นลิขสิทธิ์ของวารสารศูนย์อนามัยที่ 9