ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับการใช้หูฟังของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายโรงเรียน แห่งหนึ่งในอำเภอเมืองสุพรรณบุรี จังหวัดสุพรรณบุรี

ผู้แต่ง

  • กนกรัตน์ จุมปาแฝด นักวิชาการสาธารณสุข โรงพยาบาลแม่ลาน้อย จังหวัดแม่ฮ่องสอน
  • กุลธิดา กิ่งสวัสดิ์ อาจารย์ คณะสาธารณสุขศาสตร์และสหเวชศาสตร์ สถาบันพระบรมราชชนก
  • ปริญญา จิตอร่าม อาจารย์ วิทยาลัยการสาธารณสุขสิรินธร จังหวัดสุพรรณบุรี คณะสาธารณสุขศาสตร์และสหเวชศาสตร์ สถาบันพระบรมราชชนก
  • ภัฐ ไทยตรง อาจารย์ คณะสาธารณสุขศาสตร์และสหเวชศาสตร์ สถาบันพระบรมราชชนก
  • อาภาพร กฤษณพันธุ์ อาจารย์ คณะสาธารณสุขศาสตร์และสหเวชศาสตร์ สถาบันพระบรมราชชนก
  • นพมาศ เครือสุวรรณ อาจารย์ คณะสาธารณสุขศาสตร์และสหเวชศาสตร์ สถาบันพระบรมราชชนก

คำสำคัญ:

การใช้หูฟัง, มัธยมศึกษาตอนปลาย, แบบแผนความเชื่อด้านสุขภาพ

บทคัดย่อ

สมรรถภาพการได้ยินซึ่งมีผลต่อพัฒนาการทางด้านภาษาและการสื่อสาร ในคนวัยรุ่น การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาแบบแผนความเชื่อด้านสุขภาพและปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับการใช้หูฟังในนักเรียนมัธยมศึกษาตอนปลาย เป็นการศึกษาแบบภาคตัดขวาง (Cross-sectional study) กลุ่มตัวอย่าง คือ นักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายโรงเรียนแห่งหนึ่งในอำเภอเมืองสุพรรณบุรี จังหวัดสุพรรณบุรี จำนวน 328 คน โดยใช้แบบสอบถาม (Questionnaire) วิเคราะห์หาความสัมพันธ์หลายตัวแปร (Multivariate) ใช้สถิติวิเคราะห์ถดถอยพหุโลจิสติก (Multiple logistic regression)

ผลการศึกษา พบว่า กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่เป็น เพศหญิง ร้อยละ 62.20 มีอายุเฉลี่ย 17.53 ปี (S.D. = 0.94 , Min = 15 , Max = 20) มีการใช้หูฟังเฉลี่ยครั้งละ 1 - 4 ชั่วโมง ร้อยละ 68.00 โดยใช้มากที่บ้าน โดยมีระดับเสียงอยู่ระหว่าง 50-60% ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับการใช้หูฟังเกิน 4 ชั่วโมงต่อวัน ได้แก่ เพศ (Adj.OR = 1.72, 95% CI: 1.49 - 5.82) ระดับการศึกษา (Adj.OR = 5.49, 95% CI: 4.12 - 11.26) การรับรู้ความรุนแรงจากการใช้หูฟัง (Adj.OR = 2.41, 95% CI: 2.05 - 13.56) การรับรู้ต่ออุปสรรคจากการใช้หูฟัง (Adj.OR = 7.61, 95% CI: 5.84 - 14.27) และสิ่งชักนำให้เกิดการใช้หูฟัง (Adj.OR = 6.14, 95% CI: 4.12 - 7.96) จากผลการศึกษานี้แสดงให้เห็นว่า โรงเรียนควรจัดกิจกรรมให้ความรู้เรื่องการใช้หูฟังที่ถูกวิธี ประโยชน์และโทษของการใช้หูฟัง รวมถึงการเพิ่มการรับรู้และพฤติกรรมการป้องกันอันตรายจากเสียง โดยเฉพาะเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่งในกลุ่มเด็กวัยเรียน

เอกสารอ้างอิง

วิทยาลัยประชากรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. [อินเทอร์เน็ต]. ทั่วโลกพบคนมีปัญหา การได้ยินพุ่ง 360 ล้านคน. สืบค้นเมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 2563. เข้าถึงได้จาก: http://www.cps.chula.ac.th/newcps/hot_news_detail.php?id=205

Healthy Hearing.com. [Internet]. Healthy Hearing. 2020 [cite 2020 Aug 15]. Available from: https://www.healthyhearing.com

โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์. อย่าเพิ่งใช้หูฟัง!…ถ้ายังไม่ได้อ่านเรื่องนี้. [อินเทอร์เน็ต]. 2563 [เข้าถึงเมื่อ 15 สิงหาคม 2563]. เข้าถึงได้จาก: https://www.bumrungrad.com/th/health-blog/may-2020/headphones-damage-ears

สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสุพรรณบุรี. อัตราป่วยโรคการได้ยินเสื่อมจากเสียง [อินเทอร์เน็ต].2563 [เข้าถึงเมื่อ 8 พฤษภาคม 2563]. เข้าถึงได้จาก: https://spb.hdc.moph.go.th/hdc/reports/report.php?source=envocc/format1php&cat_id=f16421e617aed29 602f9f 09d951cce68&id=3b33d665833af6cc2b503cb9635aaf37

Becker M. The Health Belief Model and Preventive Health Behavior. Health Education Monographs. 1997; 2: 354-385.

Best JW. Research in Education. 3rd ed. New Jersey: Prentice Hell, Inc.; 1997.

วิยกาญจน์ เกตุแก้ว. ความชุกและปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับการเกิดโรคประสาทหูเสื่อมจากเสียงดังในพนักงานโรงงานจังหวัดประจวบคีรีขันธ์. หัวหินเวชสาร. 2567; 3(1): 12-26.

หัทยา เพ็ชรเจริญ. ความสัมพันธ์ระหว่างพฤติกรรมการใช้หูฟังเพลงทางโทรศัพท์มือถือและสมรรถภาพการได้ยินของนักศึกษาวิทยาลัยการสาธารณสุขสิรินธร จังหวัดชลบุรี. วารสารสาธารณสุขมหาวิทยาลัยบูรพา. 2551; 3(1): 15-23.

มงคล รัชชะ, จักรกฤษ เสลา, อนุ สุราช, สาโรจน์ นาคจู. ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์การสูญเสียสมรรถภาพการได้ยินเสียงดังในพนักงานโรงงานผลิตเข้าโพดบรรจุกระป๋อง. วารสารวิจัยการพยาบาลและสุขภาพ. 2565; 23(1): 28-40.

Widen SE, Båsjö S, Möller C, Kähäri K. Headphone listening habits and hearing thresholds in swedish adolescents. Noise Health. 2017; 19(88): 125-32.

ก่อฤกษ์ ละอองกุล. ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจซื้อหูฟังของผู้บริโภคในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล. [การค้นคว้าอิสระ ปริญญาบริหารธุรกิจมหาบัณฑิต]. กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์; 2559.

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2025-06-29

ฉบับ

ประเภทบทความ

บทความวิจัย (Research article)