ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการทำความสะอาดช่องปากของผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 ที่มารับบริการที่คลินิกเบาหวานโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชกุฉินารายณ์ ตำบลบัวขาว อำเภอกุฉินารายณ์ จังหวัดกาฬสินธุ์

ผู้แต่ง

  • วรยา มณีลังกา ทันตแพทย์ชำนาญการพิเศษ วิทยาลัยการสาธารณสุขสิรินธร จังหวัดขอนแก่น คณะสาธารณสุขศาสตร์และสหเวชศาสตร์ สถาบันพระบรมราชชนก
  • มาลิกา นามทรรศนีย์ ทันตแพทย์ชำนาญการพิเศษ โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชกุฉินารายณ์ ตำบลบัวขาว อำเภอกุฉินารายณ์ จังหวัดกาฬสินธุ์
  • ชยานันท์ ทองคำ นักวิชาการสาธารณสุข (ทันตสาธารณสุข) สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดบึงกาฬ
  • ชลดา ไชยบุรี นักวิชาการสาธารณสุข (ทันตสาธารณสุข) โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลวังม่วงอำเภอเปือยน้อย จังหวัดขอนแก่น
  • ธรรศ แสวงเจริญ ทันตแพทย์ปฏิบัติการ วิทยาลัยการสาธารณสุขสิรินธร จังหวัดขอนแก่น คณะสาธารณสุขศาสตร์และสหเวชศาสตร์ สถาบันพระบรมราชชนก

คำสำคัญ:

พฤติกรรมการทำความสะอาดช่องปาก, การทำความสะอาดช่องปาก, ผู้ป่วยเบาหวาน, การเข้ารับบริการทางทันตกรรม

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้เป็นการศึกษาเชิงพรรณนา แบบภาคตัดขวาง (Cross-sectional descriptive study) เพื่อศึกษาปัจจัยที่มีความสัมพันธ์พฤติกรรมการทำความสะอาดช่องปากของผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 ที่มารับบริการที่คลินิกเบาหวานในโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช กุฉินารายณ์ อำเภอกุฉินารายณ์ ระหว่างเดือนกรกฎาคม-กันยายน พ.ศ. 2567 กลุ่มตัวอย่างจำนวน 153 คน ใช้แบบสอบถามที่ผ่านการตรวจสอบความตรงเชิงเนื้อหา และความเชื่อมั่น (IOC = 0.67-1.00, α = 0.649-0.774) วิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติเชิงพรรณนาและเชิงอนุมาน (Chi-square, Fisher’s Exact test) พร้อมรายงานค่า Odds Ratio (OR) และ 95% Confidence Interval (CI)

ผลการวิจัยพบว่า ผู้เข้าร่วมส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง (ร้อยละ 64.7) มีอายุ 50-59 ปี (ร้อยละ 80.4) ไม่เคย เข้ารับบริการทางทันตกรรม (ร้อยละ 65.4) และมีค่าระดับน้ำตาลในเลือดครั้งล่าสุดน้อยกว่า 130 mg/dL (ร้อยละ 60.1) มีความรู้และทัศนคติด้านการดูแลสุขภาพช่องปาก ในระดับสูง (ร้อยละ 76.5 และ 79.0) พฤติกรรมการดูแล สุขภาพช่องปากอยู่ในระดับปานกลาง (ร้อยละ 56.8) และมีปริมาณคราบจุลินทรีย์ในระดับต่ำ (ร้อยละ 81.0) และ ยัง พบว่าระดับความรู้และรายได้มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการทำความสะอาดช่องปากอย่างมีนัยสำคัญ ทางสถิติ (p = 0.042 และ p = 0.014 ตามลำดับ) โดยผู้ที่มีความรู้ด้านสุขภาพช่องปากในระดับสูงมีโอกาส มีพฤติกรรมการทำ ความสะอาดช่องปากที่ดีมากกว่ากลุ่มที่มีความรู้ต่ำ 2.42 เท่า (OR = 2.42, 95% CI = 1.02-5.77) และผู้ที่มีรายได้ สูงมีโอกาสมีพฤติกรรมที่ดีมากกว่า 2.31 เท่า (OR = 2.31, 95% CI = 1.18-4.51)

เอกสารอ้างอิง

สำนักสื่อสารความเสี่ยงฯ กรมควบคุมโรค. รณรงค์วันเบาหวานโลก [อินเทอร์เน็ต]. นนทบุรี: กระทรวงสาธารณสุข; 2566 [เข้าถึงเมื่อ 15 ม.ค. 2567]. เข้าถึงได้จาก: https://ddc.moph.go.th/brc/

สำนักทันตสาธารณสุข กรมอนามัย. รายงานผลการสำรวจสภาวะสุขภาพช่องปากแห่งชาติ ครั้งที่ 8 ประเทศไทย พ.ศ. 2560. นนทบุรี: กระทรวงสาธารณสุข; 2561.

Green LW, Kreuter MW. Health educational planning: an educational and ecological approach. 3rd ed. California: Mayfield Publishing Company; 1999.

ศิริพันธ์ หอมแก่นจันทร์. ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการดูแลสุขภาพช่องปากของผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลในเขตอำเภอแม่ทะ จังหวัดลำปาง [การค้นคว้าอิสระ หลักสูตรสาธารณสุขศาสตรมหาบัณฑิต วิชาเอกการจัดการการสร้างเสริมสุขภาพ]. ปทุมธานี: คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต; 2559.

ตวงพร กตัญญุตานนท์, วรรณรัตน์ จงเจริญ, สุวิมล พันธ์จันทร์, พัชรา จันทมนตรี, เพ็ญศิริ เอกนุ่ม, อรพรรณ ศิริวัฒน์ และคณะ. ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการดูแลสุขภาพช่องปากของผู้ป่วยเบาหวาน ในโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลวัดศรีวารีน้อย ตำบลศีรษะจรเข้ใหญ่ อำเภอบางเสาธง จังหวัดสมุทรปราการ. วารสารวิชาการสาธารณสุข. 2562; 28(5): 792-801.

เมธาวี นิยมไทย, สุพัฒตา คำสอน. ปัจจัยที่มีผลต่อพฤติกรรมทันตสุขภาพของผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 ที่มารับบริการในโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลปลักแรด อำเภอบางระกำ จังหวัดพิษณุโลก. วารสารวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี. 2564; 29(1): 167-79.

ธนาคม เสนา, อมรศักดิ์ โพธิ์อ่ำ. ความรู้และทัศนคติที่มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการดูแลสุขภาพช่องปาก ของผู้ป่วยโรคเบาหวานชนิดที่ 2 โรงพยาบาลศรีรัตนะ จังหวัดศรีสะเกษ. วารสารวิทยาศาสตร์สุขภาพและการสาธารณสุขชุมชน. 2561; 1(1): 106-17.

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2025-12-30

ฉบับ

ประเภทบทความ

บทความวิจัย (Research article)