การเปรียบเทียบประสิทธิภาพของยาวาร์ฟารินในขนาดเริ่มต้น โดยใช้สูตรการคำนวณยาวาร์ฟารินเทียบกับการให้ขนาดยาตามปกติของแพทย์
บทคัดย่อ
ความเป็นมา: การเริ่มใช้วาร์ฟาริน มีการให้ขนาดยาตั้งแต่ 0.5 – 5 มิลลิกรัมต่อวัน และมีระยะเวลาที่ INR เข้าช่วงการรักษาแตกต่างกัน การได้รับขนาดยาเริ่มต้นโดยใช้สูตรการคำนวณวาร์ฟาริน จะทำให้ INR อยู่ในช่วงการรักษาได้มากขึ้น
วัตถุประสงค์: เพื่อเปรียบเทียบประสิทธิภาพของวาร์ฟารินในขนาดเริ่มต้น โดยใช้สูตรการคำนวนวาร์ฟารินเปรียบเทียบกับการให้ขนาดยาตามปกติของแพทย์
วิธีวิจัย: ศึกษาแบบย้อนหลัง ณ โรงพยาบาลทั่วไป ขนาด 400 เตียง ในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ โดยรวบรวมข้อมูลผู้ป่วยที่เริ่มใช้วาร์ฟารินครั้งแรกในช่วงตั้งแต่ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2565 ถึง 29 มีนาคม พ.ศ. 2567 ที่มีข้อบ่งใช้ที่ค่า INR เป้าหมาย 2.0 - 3.0 ผู้ป่วยรักษาต่อเนื่องและติดตามค่า INR ได้อย่างน้อย 1 ครั้ง ในช่วง 7- 90 วันแรกหลังเริ่มยา
ผลการวิจัย: ผู้ป่วย 156 คน อายุเฉลี่ย 64.30±15.4 ปี เพศหญิง 85 คน (ร้อยละ 54.49) มีข้อบ่งใช้คือโรคหัวใจเต้นผิดจังหวะชนิด atrial fibrillation 101 คน (ร้อยละ 64.74) แบ่งเป็นกลุ่มที่ได้ขนาดยาตามปกติของแพทย์ 85 คน (ร้อยละ 54.49) และกลุ่มที่ใช้สูตรการคำนวณวาร์ฟาริน 71 คน (ร้อยละ 45.51) พบว่ากลุ่มที่ใช้สูตรการคำนวณวาร์ฟารินมีค่า INR อยู่ในช่วงการรักษา 62 ครั้ง (ร้อยละ 87.32) มากกว่าผู้ป่วยกลุ่มให้ขนาดยาปกติคือ 31 ครั้ง (ร้อยละ 36.47) อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p-value < 0.001)
สรุปผล: การให้ขนาดยาเริ่มต้นโดยใช้สูตรการคำนวณวาร์ฟาริน ทำให้ค่า INR อยู่ในช่วงเป้าหมายได้มากกว่าการให้ยาขนาดอื่นตามปกติของแพทย์
เอกสารอ้างอิง
สมาคมแพทย์โรคหัวใจแห่งประเทศไทย. แนวทางการรักษาผู้ป่วยด้วยยาต้านการแข็งตัวของเลือดชนิดรับประทาน พ.ศ. 2553 [อินเทอร์เน็ต]. กรุงเทพมหานคร: สมาคมแพทย์โรคหัวใจแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์; 2553 [สืบค้นเมื่อ 1 เม.ย. 2567]. สืบค้นจาก: http://www.thaiheart.org/images/column_1292154183/warfarin_Guideline%281%29.pdf
สุภารัตน์ วัฒนสมบัติ. ยาต้านการแข็งตัวของเลือด. ไทยไภษัชยนิพนธ์. 2553;5(1):87–98. doi: 10.69598/tbps.5.1.87-98.
Ansell J, Hirsh J, Hylek E, Jacobson A, Crowther M, Palareti G. Pharmacology and management of the vitamin K antagonists: American College of Chest Physicians Evidence-Based Clinical Practice Guidelines (8th Edition). Chest. 2008;133(6 SUPPL. 6):160S-98S. doi: 10.1378/chest.08-0670.
กองบริหารการสาธารณสุข. แนวทางการจัดการด้านยาตาม service plan สาขาโรคหัวใจและไต [อินเทอร์เน็ต].นนทบุรี: กองบริหารการสาธารณสุข สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข; 2563 [สืบค้นเมื่อ 1 เม.ย. 2567]. หน้า 5–18. สืบค้นจาก: https://dmsic.moph.go.th/index/detail/8490
Pongbangli N, Phrommintikul A, Wongcharoen W. Simplified warfarin dosing formula to guide the initiating dose in Thai patients. J Med Assoc Thai [Internet]. 2019 [cited 2024 May 2];102(9):957-61. Available from: http://www.jmatonline.com/view.php?id=2253
สกนวรรณ พวงหอม, มาศชุดา สุวรรณธัย. ขนาดยาวาร์ฟารินเริ่มต้นที่เหมาะสม และปัจจัยที่มีผลต่อขนาดยาวาร์ฟารินเริ่มต้นที่ทำให้ค่าไอเอ็นอาร์อยู่ในช่วงเป้าหมาย. วารสารเภสัชกรรมโรงพยาบาล [อินเทอร์เน็ต]. 2567 [สืบค้นเมื่อ 4 พ.ค. 2567];34(1):1-11. สืบค้นจาก: https://he02.tci-thaijo.org/index.php/TJHP/article/view/265495
Gao W, Zhang Z, Guan Z, Chen W, Li Z. Developing Chinese race-specific warfarin dose prediction algorithms. Int J Clin Pharm. 2023;45(3):731-8. doi: 10.1007/s11096-023-01565-1.
สิระ ชวรัศมิ์, ชนัชชา อุปฮาด. ปัจจัยที่มีผลต่อค่า INR ของผู้ใช้ยาวาร์ฟาริน โรงพยาบาลเบญจลักษณ์เฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา. วารสารอนามัยสิ่งแวดล้อมและสุขภาพชุมชน [อินเทอร์เนต]. 2565 [สืบค้นเมื่อ 2 มิ.ย. 2567];7(1):137-46. สืบค้นจาก: https://he03.tci-thaijo.org/index.php/ech/article/view/519
กรรณิกา เหมือนจันทร์แจ่ม. ขนาดยาวาร์ฟารินที่เหมาะสมและปัจจัยทางคลินิกที่มีผลต่อขนาดยาวาร์ฟารินในขนาดคงที่ ที่โรงพยาบาลราชบุรี. วารสารหัวหินสุขใจไกลกังวล [อินเทอร์เนต]. 2563 [สืบค้นเมื่อ 2 มิ.ย. 2567];5(1):18-29. สืบค้นจาก: https://he01.tci-thaijo.org/index.php/hhsk/article/view/240517
กิตติศักดิ์ พนมพงศ์, พัชริยา โทนหงษา. ปัจจัยทำนายขนาดยาวาร์ฟารินและปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับระดับไอเอ็นอาร์ของผู้ป่วย ที่ได้รับยาวาร์ฟาริน โรงพยาบาลหนองพอก จังหวัดร้อยเอ็ด. วารสารวิจัยและพัฒนานวัตกรรมทางสุขภาพ [อินเทอร์เนต]. 2564 [สืบค้นเมื่อ 2 มิ.ย. 2567];2(3):109-20. สืบค้นจาก: https://he01.tci-thaijo.org/index.php/jrhi/article/view/252824
Yang W, Ma J, Hu W, Dai H, Xu H. Associated factors and safety of the rapidly achieving first therapeutic target of warfarin in hospitalized patients: a retrospective cohort study. Int J Clin Pharm. 2022;44(4):939-46. doi: 10.1007/s11096-022-01404-9.
Alamri AM, Almogbel YS, Salazar M, Putney K, Bayat M. Comparison of initial warfarin dosing in hospitalised patients considered sensitive to warfarin: low-dose versus standard-dose strategy. J Pharm Pract Res. 2020;50(1):71-4. doi: 10.1002/jppr.1541.
นาตยา หวังนิรัติศัย, สกนธ์ สุภากุล, ภูขวัญ อรุณมานะกุล. ผลของการบริบาลทางเภสัชกรรมในผู้ป่วยที่ได้รับยาวาร์ฟาริน ของคลินิกวาร์ฟาริน โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์. วารสารเภสัชกรรมไทย [อินเทอร์เน็ต]. 2561 [สืบค้นเมื่อ 6 พ.ค. 2567];10(1):120-8. สืบค้นจาก: https://he01.tci-thaijo.org/index.php/TJPP/article/view/171018
ศุภกร อ่อนงาม. ผลลัพธ์ของการบริบาลทางเภสัชกรรมกรรมในผู้ป่วยที่ได้รับยาวาร์ฟารินขณะพักรักษาตัวในโรงพยาบาลชุมชน. วารสารเภสัชกรรมไทย [อินเทอร์เน็ต]. 2560 [สืบค้นเมื่อ 6 พ.ค. 2567];9(2):433-46. สืบค้นจาก: https://he01.tci-thaijo.org/index.php/TJPP/article/view/170897
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 สมาคมเภสัชกรรมโรงพยาบาล(ประเทศไทย)

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
ข้อความภายในบทความที่ตีพิมพ์ในวารสารเภสัชกรรมโรงพยาบาลทั้งหมด รวมถึงรูปภาพประกอบ ตาราง เป็นลิขสิทธิ์ของสมาคมเภสัชกรรมโรงพยาบาล (ประเทศไทย) การนำเนื้อหา ข้อความหรือข้อคิดเห็น รูปภาพ ตาราง ของบทความไปจัดพิมพ์เผยแพร่ในรูปแบบต่าง ๆ เพื่อใช้ประโยชน์ในเชิงพาณิชย์ ต้องได้รับอนุญาตจากกองบรรณาธิการวารสาร (สมาคมเภสัชกรรมโรงพยาบาล (ประเทศไทย)) อย่างเป็นลายลักษณ์อักษร
สมาคมเภสัชกรรมโรงพยาบาล (ประเทศไทย) อนุญาตให้สามารถนำไฟล์บทความไปใช้ประโยชน์และเผยแพร่ต่อได้ โดยอยู่ภายใต้เงื่อนไขสัญญาอนุญาตครีเอทีฟคอมมอน (Creative Commons License: CC) โดย ต้องแสดงที่มาจากวารสาร – ไม่ใช้เพื่อการค้า – ห้ามแก้ไขดัดแปลง, Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International (CC BY-NC-ND 4.0)
ข้อความที่ปรากฏในบทความในวารสารเป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนแต่ละท่านไม่เกี่ยวข้องกับสมาคมเภสัชกรรมโรงพยาบาล (ประเทศไทย) และบุคลากรในสมาคมฯ แต่อย่างใด ความรับผิดชอบองค์ประกอบทั้งหมดของบทความแต่ละเรื่องเป็นของผู้เขียนแต่ละท่าน หากมีความผิดพลาดใด ๆ ผู้เขียนแต่ละท่านจะรับผิดชอบบทความของตนเอง ตลอดจนความรับผิดชอบด้านเนื้อหาและการตรวจร่างบทความเป็นของผู้เขียน ไม่เกี่ยวข้องกับกองบรรณาธิการ

.png)