Submissions
Submission Preparation Checklist
As part of the submission process, authors are required to check off their submission's compliance with all of the following items, and submissions may be returned to authors that do not adhere to these guidelines.- ต้นฉบับบทความทุกประเภทที่ส่งมายังวารสารฯ เพื่อพิจารณาตีพิมพ์ ต้องไม่เคยตีพิมพ์ที่วารสารใดหรือรายงานสืบเนื่อง (proceeding) ใดมาก่อน และต้องไม่อยู่ในระหว่างการพิจารณาของวารสารอื่น
- บทความพิมพ์ในรูปแบบไฟล์ Microsoft Word ใช้ระยะห่างบรรทัดปกติ (single-space) และพิมพ์เป็นคอลัมน์เดียว ใช้ font “TH Sarabun New” ขนาดตัวอักษร 16 pt ใช้ตัวเอนแทนการขีดเส้นใต้ (ยกเว้น ที่อยู่ URL) และแสดง รูปภาพ ตาราง โดยวางในตำแหน่งที่เหมาะสมในบทความ ไม่นำมารวมไว้ท้ายบทความ
-
ชื่อและนามสกุล คุณวุฒิ (ปริญญาตรี และสูงกว่า) สังกัด และ e-mail ของผู้นิพนธ์ทุกคนเป็นภาษาไทยและภาษาอังกฤษ พร้อมทั้งระบุชื่อผู้ประพันธ์บรรณกิจ (corresponding author)
* คุณวุฒิตัวย่อ แต่ละสถาบันอาจเขียนแตกต่างกัน โปรดระบุตัวอักษร จุด (.) และเว้นวรรค ให้ถูกต้องตามสถาบัน
** โปรดใส่เพียง 1 สังกัด ผู้ที่ยื่นบทความตีพิมพ์เพื่อจบการศึกษาโปรดสอบถามวิธีการเขียนสังกัดที่ถูกต้องของสถาบันการศึกษาจากอาจารย์ที่ปรึกษา - ชื่อเรื่อง มีชื่อภาษาไทยและภาษาอังกฤษ มีความยาวไม่เกิน 150 ตัวอักษร และไม่ใส่ชื่อสถานที่ทำการวิจัย เช่น ชื่อโรงพยาบาล/จังหวัด ไว้ในชื่อเรื่อง
- บทคัดย่อ และ abstract ไม่เกิน 300 คำ พร้อมคำสำคัญ และ keywords ไม่เกิน 5 คำ
- รูปภาพ ตาราง ไดอะแกรม ได้เขียนขึ้นเอง หากไม่ได้เขียนขึ้นเอง ให้อ้างอิงแหล่งที่มาพร้อมหนังสืออนุญาตให้ใช้
- เอกสารอ้างอิง เขียนตามแบบ Vancouver และเรียงลำดับด้วยเลขตามที่อ้างอิงในเนื้อเรื่อง โดยในเนื้อเรื่องให้อ้างอิงด้วยตัวเลขอารบิกที่เป็นตัวยกขึ้น (superscript) ไม่มีวงเล็บ
- บทความจัดเตรียมตามข้อกำหนดทั้งในด้าน รูปแบบ และ การอ้างอิง ตามคำแนะนำสำหรับผู้แต่ง (Author Guidelines)
- กรอกหมายเลขโทรศัพท์ของผู้เขียน และเลขสมาชิกสมาคมเภสัชกรรมโรงพยาบาล (ประเทศไทย) (ถ้ามี) ในช่อง "ข้อความถึงบรรณาธิการ"
Original Article
![]()
นิพนธ์ต้นฉบับ (Original Article)
เป็นบทความผลงานวิจัย หรือ นวัตกรรม ที่ดำเนินการอย่างมีแบบแผน และได้รับการรับรองจริยธรรมการวิจัยแล้ว ความยาวทั้งบทความประมาณ 12 หน้ากระดาษ A4 หรือไม่เกิน 4,000 คำ
รูปแบบของบทความประกอบด้วย:-
- ชื่อเรื่อง: ความยาวไม่เกิน 150 ตัวอักษร เขียนเป็นภาษาไทย และ ภาษาอังกฤษ
- ชื่อผู้นิพนธ์: ใส่ชื่อและนามสกุล คุณวุฒิ (ปริญญาตรี และสูงกว่า) สังกัด และ e-mail ของผู้นิพนธ์ทุกคน พร้อมทั้งระบุชื่อผู้นิพนธ์หลัก (corresponding author) เขียนเป็นภาษาไทย และ ภาษาอังกฤษ
- บทคัดย่อ: ความยาวไม่เกิน 300 คำ พร้อมคำสำคัญ (keywords) ไม่เกิน 5 คำ เขียนเป็นภาษาไทย และ ภาษาอังกฤษ ในบทคัดย่อแสดงหัวข้อย่อย ได้แก่
- ความเป็นมา (Background)
- วัตถุประสงค์ (Objectives)
- วิธีวิจัย (Method)
- ผลการวิจัย (Results)
- สรุปผล (Conclusion)
- เนื้อเรื่อง: เขียนเป็นภาษาไทย หรือ ภาษาอังกฤษ ประกอบด้วยหัวข้อย่อย ได้แก่
- บทนำ (Introduction)
- วัตถุประสงค์ (Objectives)
- วัสดุและวิธีการศึกษา/วิจัย (Materials and Methods) พร้อมทั้งระบุว่าได้ผ่านการพิจารณาจากคณะกรรมการจริยธรรมการวิจัย (Ethic Committee) ในคนหรือสัตว์ทดลองแล้ว ระบุเลขที่ใบอนุญาต และแนบสำเนาหนังสือที่ได้รับอนุญาตนั้นมาพร้อมกับต้นฉบับ (scan ได้)
- ผลการศึกษา/วิจัย (Results)
- วิจารณ์ผล/อภิปรายผล (Discussion)
- สรุปผลการวิจัย (Conclusion)
- ข้อเสนอแนะ (ถ้ามี) (Suggestion)
- กิตติกรรมประกาศ (Acknowledgement): เขียนเป็นภาษาไทย หรือ ภาษาอังกฤษ หากได้รับทุนสนับสนุนให้เปิดเผยชื่อทุน พร้อมทั้งเปิดเผยว่าผู้นิพนธ์มีผลประโยชน์ทับซ้อนหรือไม่
- เอกสารอ้างอิง (References): เขียนตามแบบ Vancouver โดยในเนื้อเรื่องให้อ้างอิงด้วยตัวเลขอารบิกที่เป็นตัวยกขึ้น (superscript) เรียงเป็นลำดับเลขที่จากบทนำเรื่อยไปจนจบบทความ
Case Report
![]()
บทความรายงานผู้ป่วย (Case Report)
เป็นบทความที่เขียนในรูปแบบรายงานผู้ป่วยที่เภสัชกรพบการเกิดปัญหาที่เกี่ยวกับยา เช่น แพ้ยา (drug allergy) อาการไม่พึงประสงค์จากการใช้ยา (adverse drug reaction) อาการไม่พึงประสงค์จากปฏิกิริยาระหว่างยา (adverse drug interaction) เป็นต้น ความยาวทั้งบทความประมาณ 4 หน้ากระดาษ A4
รูปแบบของบทความประกอบด้วย:-
- ชื่อเรื่อง: ความยาวไม่เกิน 150 ตัวอักษร เขียนเป็นภาษาไทย และ ภาษาอังกฤษ
- ชื่อผู้นิพนธ์: ใส่ชื่อและนามสกุล คุณวุฒิ (ปริญญาตรี และสูงกว่า) สังกัด และ e-mail ของผู้นิพนธ์ทุกคน พร้อมทั้งระบุชื่อผู้นิพนธ์หลัก (corresponding author) เขียนเป็นภาษาไทย และ ภาษาอังกฤษ
- บทคัดย่อ: ความยาวไม่เกิน 300 คำ พร้อมคำสำคัญ (keywords) ไม่เกิน 5 คำ เขียนเป็นภาษาไทย และ ภาษาอังกฤษ
- วัตถุประสงค์: แสดงวัตถุประสงค์เชิงพฤติกรรมที่ผู้อ่านจะได้รับหลังจากการอ่านบทความ เขียนเป็นภาษาไทย
- บทนำ: ความยาวไม่เกิน 1 หน้ากระดาษ A4 แสดงเนื้อหาอย่างย่อของยา ประกอบด้วย เภสัชวิทยาของยา กลไกการออกฤทธิ์ การใช้ยา และอาการข้างเคียง เขียนเป็นภาษาไทย
- เนื้อเรื่อง: เขียนเป็นภาษาไทย แสดงข้อมูลที่เป็นสาเหตุนำผู้ป่วยมาโรงพยาบาล ประกอบด้วย
- ประวัติทั่วไปของผู้ป่วย ประวัติความเจ็บป่วย และประวัติการใช้ยา
- อาการสำคัญ
- ผลการตรวจร่างกาย
- ผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการ
- ยาที่ได้รับก่อนเข้าโรงพยาบาล
- การรักษาที่ได้รับในโรงพยาบาล
- อภิปราย: เขียนเป็นภาษาไทย แสดงการวิเคราะห์ปัญหาที่เกิดกับผู้ป่วยและนำผู้ป่วยมาโรงพยาบาล สาเหตุหรือกลไกการเกิดปัญหานั้น การคัดเลือกการรักษา และสรุปผลที่ผ่านกระบวนการวิเคราะห์และสังเคราะห์โดยผู้เขียน พร้อมเหตุผลประกอบ
- บทสรุป: เขียนเป็นภาษาไทย โดยเขียนสรุปและให้ข้อเสนอแนะเพื่อผู้อ่านนำไปใช้ประโยชน์
- เอกสารอ้างอิง: เขียนตามแบบ Vancouver โดยในเนื้อเรื่องให้อ้างอิงด้วยตัวเลขอารบิกที่เป็นตัวยกขึ้น (superscript) เรียงเป็นลำดับเลขที่จากบทนำเรื่อยไปจนจบบทความ
Medication Safety
![]()
บทความความปลอดภัยทางยา (Medication Safety)
เป็นบทความปริทัศน์ (review article) ร่วมกับรายงานผู้ป่วย (case report) เกี่ยวกับเหตุการณ์ความไม่ปลอดภัยที่เกิดจากการใช้ยา โดยมีการทบทวนความรู้ทางเภสัชวิทยา กลไกการออกฤทธิ์ การใช้ยา อาการข้างเคียง และการแก้ไข/ป้องกันเหตุการณ์ที่เกิดความไม่ปลอดภัย โดยมีรายงานผู้ป่วยที่เกิดเหตุการณ์ความไม่ปลอดภัยนั้น เพื่อให้ความรู้และประสบการณ์การดูแลผู้ป่วย อันจะนำไปสู่ความปลอดภัยทางยา (medication safety) ความยาวทั้งบทความประมาณ 8 หน้ากระดาษ A4 เขียนเป็นภาษาไทย (ยกเว้นชื่อยาและศัพท์เทคนิค ใช้ภาษาอังกฤษได้)
รูปแบบของบทความประกอบด้วย:-
- ชื่อเรื่อง: ความยาวไม่เกิน 150 ตัวอักษร เขียนเป็นภาษาไทย และ ภาษาอังกฤษ
- ชื่อผู้นิพนธ์: ใส่ชื่อและนามสกุล คุณวุฒิ (ปริญญาตรี และสูงกว่า) สังกัด และ e-mail ของผู้นิพนธ์ทุกคน พร้อมทั้งระบุชื่อผู้นิพนธ์หลัก (corresponding author) เขียนเป็นภาษาไทย และ ภาษาอังกฤษ
- บทคัดย่อ: ความยาวไม่เกิน 300 คำ พร้อมคำสำคัญ (keywords) ไม่เกิน 5 คำ เขียนเป็นภาษาไทย และ ภาษาอังกฤษ
- วัตถุประสงค์: แสดงวัตถุประสงค์เชิงพฤติกรรมที่ผู้อ่านจะได้รับหลังจากการอ่านบทความ เขียนเป็นภาษาไทย
- บทนำ: เขียนเป็นภาษาไทย ความยาวไม่เกิน 3 หน้ากระดาษ A4 แสดงเนื้อหาอย่างย่อของยา ประกอบด้วย เภสัชวิทยาของยา กลไกการออกฤทธิ์ การใช้ยา และอาการข้างเคียง
- เนื้อเรื่อง: เขียนเป็นภาษาไทย ประกอบด้วย
- ประวัติทั่วไปของผู้ป่วย ประวัติความเจ็บป่วย และประวัติการใช้ยา
- อาการ/เหตุการณ์ที่แสดงถึงความไม่ปลอดภัยที่เกิดจากการใช้ยานั้น
- ผลการตรวจร่างกาย
- ผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการ
- ยาที่ได้รับก่อนเข้าโรงพยาบาล
- การรักษา/การจัดการแก้ไข ที่ได้รับในโรงพยาบาล
- อภิปราย: เขียนเป็นภาษาไทย แสดงการวิเคราะห์เหตุการณ์ที่เกิดกับผู้ป่วย สาเหตุหรือกลไกการเกิดเหตุการณ์นั้น การคัดเลือกการรักษา/การจัดการแก้ไข และสรุปผลที่ผ่านกระบวนการวิเคราะห์และสังเคราะห์โดยผู้เขียน พร้อมเหตุผลประกอบ
- บทสรุป: เขียนเป็นภาษาไทย โดยเขียนสรุปและให้ข้อเสนอแนะเพื่อผู้อ่านนำไปใช้ประโยชน์
- เอกสารอ้างอิง: เขียนตามแบบ Vancouver โดยในเนื้อเรื่องให้อ้างอิงด้วยตัวเลขอารบิกที่เป็นตัวยกขึ้น (superscript) เรียงเป็นลำดับเลขที่จากบทนำเรื่อยไปจนจบบทความ
Toxicology
![]()
บทความพิษวิทยา (Toxicology)
เป็นบทความปริทัศน์ (review article) ร่วมกับรายงานผู้ป่วย (case report) โดยมีการทบทวนความรู้ด้านพิษวิทยา กลไกการออกฤทธิ์ และอาการพิษ ของยา สารพิษ พืชพิษ หรือสัตว์พิษ ตลอดจนการแก้ไขเหตุการณ์ที่เกิดความเป็นพิษนั้น ร่วมกับมีรายงานผู้ป่วยที่เกิดอาการพิษนั้นและการแก้ไข เพื่อให้ความรู้และประสบการณ์การดูแลผู้ป่วย ความยาวทั้งบทความประมาณ 8 หน้ากระดาษ A4 เขียนเป็นภาษาไทย (ยกเว้นชื่อยา สารพิษ พืชพิษ สัตว์พิษ และศัพท์เทคนิค ใช้ภาษาอังกฤษได้)
รูปแบบของบทความประกอบด้วย:-
- ชื่อเรื่อง: ความยาวไม่เกิน 150 ตัวอักษร เขียนเป็นภาษาไทย และ ภาษาอังกฤษ
- ชื่อผู้นิพนธ์: ใส่ชื่อและนามสกุล คุณวุฒิ (ปริญญาตรี และสูงกว่า) สังกัด และ e-mail ของผู้นิพนธ์ทุกคน พร้อมทั้งระบุชื่อผู้นิพนธ์หลัก (corresponding author) เขียนเป็นภาษาไทย และ ภาษาอังกฤษ
- บทคัดย่อ: ความยาวไม่เกิน 300 คำ พร้อมคำสำคัญ (keywords) ไม่เกิน 5 คำ เขียนเป็นภาษาไทย และ ภาษาอังกฤษ
- วัตถุประสงค์: แสดงวัตถุประสงค์เชิงพฤติกรรมที่ผู้อ่านจะได้รับหลังจากการอ่านบทความ เขียนเป็นภาษาไทย
- บทนำ: เขียนเป็นภาษาไทย ความยาวไม่เกิน 3 หน้ากระดาษ A4 แสดงเนื้อหาอย่างย่อทางพิษวิทยาของ ยา สารพิษ สัตว์พิษ หรือพืชพิษ อาการพิษ และกลไกการเกิดพิษ
- เนื้อเรื่อง: เขียนเป็นภาษาไทย ประกอบด้วย
- ประวัติทั่วไปของผู้ป่วย ประวัติความเจ็บป่วย และประวัติการได้รับยา สารพิษ พืชพิษ หรือสัตว์พิษ
- อาการที่แสดงถึงความเป็นพิษ
- ผลการตรวจร่างกาย
- ผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการ
- การรักษา และการแก้พิษ/การจัดการแก้ไข ที่ได้รับในโรงพยาบาล
- อภิปราย: เขียนเป็นภาษาไทย แสดงการวิเคราะห์เหตุการณ์ที่เกิดกับผู้ป่วยนั้น การคัดเลือกการรักษา และการแก้พิษ/การจัดการแก้ไข และสรุปผลที่ผ่านกระบวนการวิเคราะห์และสังเคราะห์โดยผู้เขียน พร้อมเหตุผลประกอบ
- บทสรุป: เขียนเป็นภาษาไทย โดยเขียนสรุปและให้ข้อเสนอแนะเพื่อผู้อ่านนำไปใช้ประโยชน์
- เอกสารอ้างอิง: เขียนตามแบบ Vancouver โดยในเนื้อเรื่องให้อ้างอิงด้วยตัวเลขอารบิกที่เป็นตัวยกขึ้น (superscript) เรียงเป็นลำดับเลขที่จากบทนำเรื่อยไปจนจบบทความ
Drug Monograph
![]()
บทความข้อมูลยา (Drug Monograph)
เป็นบทความปริทัศน์ (review article) ที่เรียบเรียงจากการรวบรวมความรู้ทางวิชาการหรืองานวิจัย ของยาที่มีการจำหน่ายในประเทศไทย แล้วนำมาอธิบาย หรือเปรียบเทียบคุณสมบัติของยา โดยผ่านการวิเคราะห์ และ สังเคราะห์ ของผู้เขียน ความยาวทั้งบทความประมาณ 8 หน้ากระดาษ A4 เขียนเป็นภาษาไทย (ยกเว้นชื่อโรค ชื่อยา ชื่อรายงานการศึกษาทางคลินิก (clinical trial) และศัพท์เทคนิค ใช้ภาษาอังกฤษได้)
รูปแบบของบทความประกอบด้วย:-
- ชื่อเรื่อง: ความยาวไม่เกิน 150 ตัวอักษร เขียนเป็นภาษาไทย และ ภาษาอังกฤษ
- ชื่อผู้นิพนธ์: ใส่ชื่อและนามสกุล คุณวุฒิ (ปริญญาตรี และสูงกว่า) สังกัด และ e-mail ของผู้นิพนธ์ทุกคน พร้อมทั้งระบุชื่อผู้นิพนธ์หลัก (corresponding author) เขียนเป็นภาษาไทย และ ภาษาอังกฤษ
- บทคัดย่อ: ความยาวไม่เกิน 300 คำ พร้อมคำสำคัญ (keywords) ไม่เกิน 5 คำ เขียนเป็นภาษาไทย และ ภาษาอังกฤษ
- วัตถุประสงค์: แสดงวัตถุประสงค์เชิงพฤติกรรมที่ผู้อ่านจะได้รับหลังจากการอ่านบทความ เขียนเป็นภาษาไทย
- บทนำ: เขียนเป็นภาษาไทยความยาวไม่เกิน 3 หน้ากระดาษ A4 แสดงข้อมูลอย่างย่อเกี่ยวกับโรคที่มีการรักษาด้วยยาที่ต้องการเขียน สาเหตุของโรค อาการของโรค การรักษา กลุ่มยาที่ใช้ ข้อจำกัดของยาที่มีอยู่ แนวคิดในการพัฒนายาที่ต้องการเขียน
- เนื้อเรื่อง: เขียนเป็นภาษาไทย ความยาว 3-5 หน้ากระดาษ A4 แสดงข้อมูลยาในเชิงเปรียบเทียบกับยาที่มีอยู่เดิม (อาจเป็นยาอื่น ๆ ในกลุ่มเดียวกัน/ต่างกลุ่ม) ประกอบด้วย
- ข้อมูลทั่วไป (ชื่อสามัญ ชื่อทางเคมี สูตรโมเลกุล รูปแบบยา)
- เภสัชพลศาสตร์ (กลไกการออกฤทธิ์ และ ผลต่อระบบของร่างกาย)
- เภสัชจลนศาสตร์ (การดูดซึมยา การกระจายยา การเปลี่ยนสภาพยา การกำจัดยา)
- ปฏิกิริยาระหว่างยา
- การศึกษาทางคลินิก
- ข้อบ่งใช้
- คำแนะนำการใช้ยาตามแนวทางการรักษา
- ขนาดยาและวิธีการให้ยา (ขนาดยาในเด็ก ผู้ใหญ่ ผู้ที่มีภาวะตับ/ไตบกพร่อง)
- อาการไม่พึงประสงค์และความเป็นพิษ
- ข้อห้ามใช้ (ข้อห้ามใช้ในเด็ก สตรีตั้งครรภ์และมารดาที่ให้นมบุตร)
- อื่นๆ เช่น การเก็บรักษายา การละลายยา ความคงตัวหลังการเปิดใช้หรือหลังการละลายยา
- อภิปราย: เขียนเป็นภาษาไทย แสดงการวิเคราะห์ความแตกต่างระหว่างยา และสรุปผลพร้อมเหตุผลประกอบที่ผ่านกระบวนการวิเคราะห์และสังเคราะห์โดยผู้เขียน
- บทสรุป: เขียนเป็นภาษาไทย โดยเขียนสรุปและให้ข้อเสนอแนะเพื่อผู้อ่านนำไปใช้ประโยชน์
- เอกสารอ้างอิง: เขียนตามแบบ Vancouver โดยในเนื้อเรื่องให้อ้างอิงด้วยตัวเลขอารบิกที่เป็นตัวยกขึ้น (superscript) เรียงเป็นลำดับเลขที่จากบทนำเรื่อยไปจนจบบทความ
Review Article
![]()
บทความปริทัศน์ (Review Article)
เป็นบทความที่เรียบเรียงขึ้นใหม่จากการรวบรวมความรู้ทางวิชาการหรืองานวิจัยของตนเองหรือของผู้อื่น แล้วนำมาอธิบาย โดยผ่านการวิเคราะห์ และ สังเคราะห์ ความยาวทั้งบทความประมาณ 8 หน้ากระดาษ A4 เขียนเป็นภาษาไทย
รูปแบบของบทความประกอบด้วย:-
- ชื่อเรื่อง: ความยาวไม่เกิน 150 ตัวอักษร เขียนเป็นภาษาไทย และ ภาษาอังกฤษ
- ชื่อผู้นิพนธ์: ใส่ชื่อและนามสกุล คุณวุฒิ (ปริญญาตรี และสูงกว่า) สังกัด และ e-mail ของผู้นิพนธ์ทุกคน พร้อมทั้งระบุชื่อผู้นิพนธ์หลัก (corresponding author) เขียนเป็นภาษาไทย และ ภาษาอังกฤษ
- บทคัดย่อ: ความยาวไม่เกิน 300 คำ พร้อมคำสำคัญ (keywords) ไม่เกิน 5 คำ เขียนเป็นภาษาไทย และ ภาษาอังกฤษ
- วัตถุประสงค์: แสดงวัตถุประสงค์เชิงพฤติกรรมที่ผู้อ่านจะได้รับหลังจากการอ่านบทความ เขียนเป็นภาษาไทย
- เนื้อเรื่อง: เขียนเป็นภาษาไทย ประกอบด้วย บทนำ เนื้อหา อภิปรายและข้อเสนอแนะที่ผ่านกระบวนการวิเคราะห์และสังเคราะห์โดยผู้เขียน
- บทสรุป: เขียนเป็นภาษาไทย โดยเขียนสรุปและให้ข้อเสนอแนะเพื่อผู้อ่านนำไปใช้ประโยชน์
- เอกสารอ้างอิง: เขียนตามแบบ Vancouver โดยในเนื้อเรื่องให้อ้างอิงด้วยตัวเลขอารบิกที่เป็นตัวยกขึ้น (superscript) เรียงเป็นลำดับเลขที่จากบทนำเรื่อยไปจนจบบทความ
Continuing Pharmaceutical Education
![]()
บทความการศึกษาต่อเนื่อง (Continuing Pharmaceutical Education; CPE)
เป็นบทความที่ให้ความรู้เรื่องยาแก่เภสัชกร เพื่อให้เภสัชกรได้ทบทวนความรู้และ/หรือได้ความรู้ใหม่
รูปแบบของบทความประกอบด้วย:-
- ชื่อเรื่อง: ความยาวไม่เกิน 150 ตัวอักษร เขียนเป็นภาษาไทย และ ภาษาอังกฤษ
- ชื่อผู้นิพนธ์: ใส่ชื่อและนามสกุล คุณวุฒิ (ปริญญาตรี และสูงกว่า) สังกัด และ e-mail ของผู้นิพนธ์ทุกคน พร้อมทั้งระบุชื่อผู้นิพนธ์หลัก (corresponding author) เขียนเป็นภาษาไทย และ ภาษาอังกฤษ
- บทคัดย่อ: ความยาวไม่เกิน 300 คำ พร้อมคำสำคัญ (keywords) ไม่เกิน 5 คำ เขียนเป็นภาษาไทย และ ภาษาอังกฤษ
- วัตถุประสงค์: แสดงวัตถุประสงค์เชิงพฤติกรรมที่ผู้อ่านจะได้รับหลังจากการอ่านบทความ เขียนเป็นภาษาไทย
- เนื้อเรื่อง: เขียนเป็นภาษาไทย ประกอบด้วย
- บทนำ
- เนื้อหา
- บทสรุป
- เอกสารอ้างอิง: เขียนตามแบบ Vancouver โดยในเนื้อเรื่องให้อ้างอิงด้วยตัวเลขอารบิกที่เป็นตัวยกขึ้น (superscript) เรียงเป็นลำดับเลขที่จากบทนำเรื่อยไปจนจบบทความ
- แบบทดสอบ: เขียนเป็นภาษาไทย เป็นแบบทดสอบแบบ 4 ตัวเลือก จำนวน 15 ข้อ ให้ผู้อ่านทำเพื่อเก็บคะแนนหน่วยกิตการศึกษาต่อเนื่อง
Copyright Notice
ข้อความภายในบทความที่ตีพิมพ์ในวารสารเภสัชกรรมโรงพยาบาลทั้งหมด รวมถึงรูปภาพประกอบ ตาราง เป็นลิขสิทธิ์ของสมาคมเภสัชกรรมโรงพยาบาล (ประเทศไทย) การนำเนื้อหา ข้อความหรือข้อคิดเห็น รูปภาพ ตาราง ของบทความไปจัดพิมพ์เผยแพร่ในรูปแบบต่าง ๆ เพื่อใช้ประโยชน์ในเชิงพาณิชย์ ต้องได้รับอนุญาตจากกองบรรณาธิการวารสาร (สมาคมเภสัชกรรมโรงพยาบาล (ประเทศไทย)) อย่างเป็นลายลักษณ์อักษร
สมาคมเภสัชกรรมโรงพยาบาล (ประเทศไทย) อนุญาตให้สามารถนำไฟล์บทความไปใช้ประโยชน์และเผยแพร่ต่อได้ โดยอยู่ภายใต้เงื่อนไขสัญญาอนุญาตครีเอทีฟคอมมอน (Creative Commons License: CC) โดย ต้องแสดงที่มาจากวารสาร – ไม่ใช้เพื่อการค้า – ห้ามแก้ไขดัดแปลง, Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International (CC BY-NC-ND 4.0)
ข้อความที่ปรากฏในบทความในวารสารเป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนแต่ละท่านไม่เกี่ยวข้องกับสมาคมเภสัชกรรมโรงพยาบาล (ประเทศไทย) และบุคลากรในสมาคมฯ แต่อย่างใด ความรับผิดชอบองค์ประกอบทั้งหมดของบทความแต่ละเรื่องเป็นของผู้เขียนแต่ละท่าน หากมีความผิดพลาดใด ๆ ผู้เขียนแต่ละท่านจะรับผิดชอบบทความของตนเอง ตลอดจนความรับผิดชอบด้านเนื้อหาและการตรวจร่างบทความเป็นของผู้เขียน ไม่เกี่ยวข้องกับกองบรรณาธิการ
Privacy Statement
ชื่อและที่อยู่อีเมลที่ป้อนในเว็บไซต์วารสารนี้จะใช้สำหรับวัตถุประสงค์ที่ระบุไว้ในวารสารนี้เท่านั้นและจะไม่เผยแพร่เพื่อวัตถุประสงค์ในกิจกรรมอื่นๆ หรือหน่วยงานอื่น

.png)