ปัจจัยทำนายการเข้ารับการรักษาในหอผู้ป่วยวิกฤตหลังผ่าตัดของผู้บาดเจ็บหลังการผ่าตัดด่วน

บทคัดย่อ

   วัตถุประสงค์ของการวิจัย: เพื่อศึกษาอำนาจการทำนายของตำแหน่งผ่าตัด ระดับความรู้สึกตัวก่อนผ่าตัด ภาวะช็อกก่อนผ่าตัดปริมาณเลือดที่เสียในระหว่างผ่าตัด และระยะเวลาผ่าตัด ต่อการเข้ารับการรักษาในหอผู้ป่วยวิกฤตหลังผ่าตัดของผู้บาดเจ็บหลังการผ่าตัดด่วน
   การออกแบบการวิจัย: การศึกษาความสัมพันธ์เชิงทำนาย แบบเก็บข้อมูลย้อนหลัง
   วิธีดำเนินการวิจัย: กลุ่มตัวอย่างเป็นผู้บาดเจ็บจากอุบัติเหตุ จำนวน 427 ราย ที่มารับบริการที่หน่วยตรวจอุบัติเหตุฉุกเฉิน โรงพยาบาลระดับ ตติยภูมิขั้นสูงแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯระหว่าง 1 มกราคม พ.ศ. 2560 ถึง 31 ธันวาคม พ.ศ. 2562 มีอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป และย้ายเข้าห้องผ่าตัดด่วนจากหน่วยตรวจอุบัติเหตุฉุกเฉิน เครื่องมือที่ใช้เก็บข้อมูลประกอบด้วย แบบบันทึกข้อมูลส่วนบุคคลและข้อมูลทางคลินิก ตำแหน่งผ่าตัดระดับความรู้สึกตัว ดัชนีภาวะช็อก ปริมาณการเสียเลือดในระหว่างผ่าตัด ระยะเวลาผ่าตัด และการเข้ารับการรักษาในหอผู้ป่วยวิกฤตหลังผ่าตัดด่วน วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติไคสแคว์และสถิติถดถอยโลจิสติกทวิ กำหนดระดับนัยสำคัญที่ระดับ .05 
   ผลการวิจัย: ผู้บาดเจ็บส่วนใหญ่เป็นเพศชายร้อยละ 80.56 เข้ารับการรักษาในหอผู้ป่วยวิกฤตหลังผ่าตัดด่วนร้อยละ 42.15 ผลวิเคราะห์อำนาจการทำนายพบว่า ตำแหน่งผ่าตัด ระดับความรู้สึกตัวก่อนผ่าตัด ภาวะช็อกก่อนผ่าตัด และปริมาณเลือดที่เสียในระหว่างผ่าตัด สามารถทำนายการเข้ารับการรักษาในหอผู้ป่วยวิกฤตได้อย่างมีนัยสำคัญทาง สถิติ โดยมีอำนาจการทำนายร้อยละ 68 (Nagelkerke R2 = .68, p < .05)
   ข้อเสนอแนะ: พยาบาลและทีมสหสาขาสามารถนำตำแหน่งผ่าตัดระดับความรู้สึกตัวก่อนผ่าตัดภาวะช็อกก่อนผ่าตัด และปริมาณเลือดที่เสียในระหว่างผ่าตัด มาใช้พิจารณาความเหมาะสมของการเข้ารับการรักษาในหอผู้ป่วยวิกฤต เพื่อวางแผนจัดสรรหอผู้ป่วยวิกฤตให้แก่ผู้บาดเจ็บอย่างมีประสิทธิภาพ