ประสิทธิผลของโปรแกรมการสร้างเสริมการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วมเพื่อป้องกันโรคโควิด-19 ในกลุ่มเด็กวัยเรียนชาวมุสลิม

บทคัดย่อ

บทนำ สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนในชุมชน โดยเฉพาะเด็กวัยเรียนชาวมุสลิม ควรได้รับการสร้างเสริมการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วมเพื่อป้องกันโรคโควิด-19 

วัตถุประสงค์ของการวิจัย 1) เพื่อเปรียบเทียบความตระหนักรู้ ความรู้ และพฤติกรรมในการป้องกัน โรคโควิด-19 ของเด็กวัยเรียนชาวมุสลิมกลุ่มทดลองก่อนและหลังเข้าร่วมโปรแกรม และ 2) เพื่อเปรียบเทียบ ความตระหนักรู้ ความรู้ และพฤติกรรมในการป้องกันโรคโควิด-19 ของเด็กวัยเรียนชาวมุสลิมระหว่างกลุ่มทดลอง และกลุ่มเปรียบเทียบหลังเข้าร่วมโปรแกรม 

การออกแบบการวิจัย การวิจัยกึ่งทดลอง แบบสองกลุ่มวัดผลก่อนและหลังการทดลอง โดยประยุกต์ ทฤษฎีการเรียนรู้จากประสบการณ์ของ Kolb เป็นกรอบแนวคิด 

การดำเนินการวิจัย กลุ่มตัวอย่างเป็นเด็กนักเรียนชาวมุสลิมในจังหวัดแห่งหนึ่งทางภาคกลาง ผู้วิจัยทำ การ สุ่มโรงเรียน 2 แห่งเข้าเป็นโรงเรียนกลุ่มทดลองและโรงเรียนกลุ่มเปรียบเทียบ จากนั้นสุ่มอย่างง่ายนักเรียน ในโรงเรียนกลุ่มทดลองจำ นวน 37 คน และโรงเรียนกลุ่มเปรียบเทียบจำ นวน 38 คน กลุ่มทดลองได้รับโปรแกรม การสร้างเสริมการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วมเพื่อป้องกันโรคโควิด-19 เป็นเวลา 6 สัปดาห์ ประกอบด้วยกิจกรรม 4 ขั้นตอน ได้แก่ 1) การแบ่งปันประสบการณ์ 2) การสะท้อนคิดและอภิปราย 3) ความคิดรวบยอด และ 4) การทดลอง และประยุกต์แนวคิดเพื่อใช้ในการป้องกันโรคโควิด-19 เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล ได้แก่ 1) แบบสอบถาม ความตระหนักรู้ในการป้องกันโรคโควิด-19 2) แบบสอบถามความรู้ในการป้องกันโรคโควิด-19 และ 3) แบบสอบถาม พฤติกรรมในการป้องกันโรคโควิด-19 มีค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ .91, .89 และ .94 ตามลำ ดับ วิเคราะห์ข้อมูล ด้วยสถิติเชิงพรรณนา การทดสอบทีแบบอิสระและการทดสอบทีแบบคู่ 

ผลการวิจัย ภายหลังเข้าร่วมโปรแกรม เด็กวัยเรียนกลุ่มทดลองมีความตระหนักรู้ (M = 3.17, SD = 0.43) ความรู้ (M = 22.30, SD = 3.88) และพฤติกรรมในการป้องกันโรคโควิด-19 (M = 3.43, SD = 0.59) สูงกว่า ก่อนเข้าร่วมโปรแกรมอย่างมีนัยสำ คัญทางสถิติ (M = 3.10, SD = 0.32, t = 0.524, p = .026; M = 21.59, SD = 3.50, t = 5.376, p = .003; M = 2.92, SD = 0.51, t = 5.376, p < .001 ตามลำ ดับ) และสูงกว่ากลุ่มเปรียบเทียบ (M = 3.16, SD = 0.25, t = 7.316, p = .035; M = 21.13, SD = 3.12, t = 7.316, p < .001; M = 2.91, SD = 0.54, t = 7.316, p < .001 ตามลำ ดับ) อย่างไรก็ตามความรู้ด้านการระบาดของโรคติดเชื้อและพฤติกรรมด้านการดูแลตนเอง เพื่อป้องกันการติดเชื้อโควิด-19 ไม่แตกต่างจากก่อนเข้าร่วมโปรแกรมอย่างมีนัยสำ คัญทางสถิติ 

ข้อเสนอแนะ บุคลากรทีมสุขภาพและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องสามารถประยุกต์ใช้โปรแกรมส่งเสริมการเรียนรู้แบบมี ส่วนร่วมเพื่อส่งเสริมความตระหนักรู้ ความรู้ และพฤติกรรมในการป้องกันโรคโควิด-19 ของเด็กวัยเรียนชาวมุสลิม