ประสิทธิผลของการใช้แนวปฏิบัติทางคลินิกในการฟื้นฟูสมรรถภาพปอด ในผู้ที่เป็นโรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง โรงพยาบาลเชียงกลาง จังหวัดน่าน
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยปฏิบัติการ (operation study) นี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาประสิทธิผลของการใช้แนวปฏิบัติทางคลินิกในการฟื้นฟูสมรรถภาพปอดในผู้ที่เป็นโรคปอดอุดกั้นเรื้อรังที่มารับบริการโรงพยาบาลเชียงกลาง จังหวัดน่าน ในเดือนพฤษภาคม ถึง กันยายน พ.ศ. 2559 กลุ่มตัวอย่างมี 2 กลุ่ม คือ กลุ่มก่อนใช้แนวปฏิบัติทางคลินิก 33 คน และกลุ่มที่ใช้แนวปฏิบัติทางคลินิก 35 คน เครื่องมือที่ใช้ คือ แนวปฏิบัติทางคลินิกในการฟื้นฟูสมรรถภาพปอดในผู้ที่เป็นโรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง แบบสอบถามข้อมูลส่วนบุคคล และแบบบันทึกผลลัพธ์ผู้ป่วย 4 ด้าน คือ ระยะทางที่เดินบนพื้นราบในระยะเวลา 6 นาที ความรุนแรงของอาการหายใจเหนื่อยหอบ การกลับมารักษาซ้ำในโรงพยาบาล และการกลับมารับบริการซ้ำที่แผนกฉุกเฉิน วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติเชิงพรรณนา
ผลการวิจัย พบว่า ระยะทางที่เดินได้บนพื้นราบใน 6 นาที กลุ่มก่อนใช้แนวปฏิบัติ มีระยะทาง 215 ถึง 472 เมตร ( =344.36, SD=52.57) ในผู้ที่เดินได้ระยะทางเพิ่มขึ้นจากเดิม 19 คน มีผู้ที่ผ่านเกณฑ์กำหนดระดับการเปลี่ยนแปลงที่น้อยที่สุดที่สามารถเห็นผลทางคลินิก (minimal clinically important difference [MCID]) 7 คน (ร้อยละ 36.84) ส่วนกลุ่มที่ใช้แนวปฏิบัติ มีระยะทาง 243 ถึง 508 เมตร ( =403.43, SD=60.67) ในผู้ที่เดินได้เพิ่มขึ้นจากเดิม 31 คน มีผู้ที่ผ่านเกณฑ์ MCID 19 คน (ร้อยละ 61.29) ความรุนแรงของอาการหายใจเหนื่อยหอบ กลุ่มก่อนมีการใช้แนวปฏิบัติฯ มีคะแนน 30 ถึง 70 คะแนน ( = 51.82, SD=9.78) ส่วนกลุ่มที่ใช้แนวปฏิบัติฯ มีคะแนน 0 ถึง 40 คะแนน ( = 22.29, SD=5.79) อัตราการกลับมารักษาซ้ำในโรงพยาบาล กลุ่มก่อนมีการใช้แนวปฏิบัติฯ มีการกลับมารักษาซ้ำในโรงพยาบาล ร้อยละ 9.09 ส่วนกลุ่มที่ใช้แนวปฏิบัติฯ มีเพียงร้อยละ 2.86 และ อัตราการกลับมารับบริการซ้ำที่แผนกฉุกเฉิน กลุ่มก่อนมีการใช้แนวปฏิบัติฯ มีการกลับมารับบริการซ้ำที่แผนกฉุกเฉิน ร้อยละ 6.06 ส่วนกลุ่มที่ใช้แนวปฏิบัติฯ มีเพียงร้อยละ 2.86 การวิจัยนี้ชี้ว่า การใช้แนวปฏิบัติฯ มีผลลัพธ์ที่ดีทั้ง 4 ด้าน ดังนั้น จึงควรนำแนวปฏิบัติทางคลินิกมาใช้ในการพัฒนาคุณภาพการดูแลผู้ที่เป็นโรคปอดอุดกั้นเรื้อรังต่อไป