การพัฒนาและประเมินผลแนวปฏิบัติการพยาบาลทางคลินิกเพื่อป้องกันผลลัพธ์ไม่พึงประสงค์ในการดูแลเด็กใส่ท่อเจาะคอที่บ้าน

บทคัดย่อ

การดูแลเด็กใส่ท่อเจาะคอที่บ้านมีความยุ่งยากซับซ้อน การพัฒนาและใช้แนวปฏิบัติการพยาบาลทางคลินิกจะช่วยให้การดูแลได้มาตรฐานและป้องกันการเกิดผลลัพธ์ไม่พึงประสงค์ การวิจัยครั้งนี้ เพื่อ (1) พัฒนาแนวปฏิบัติการพยาบาลทางคลินิกในการดูแลเด็กใส่ท่อเจาะคอที่บ้านโดยใช้หลักฐานเชิงประจักษ์ (2) ประเมินความเป็นไปได้ในการนำใช้แนวปฏิบัติฯ และ (3) ประเมินผลการทดลองใช้แนวปฏิบัติฯที่พัฒนาขึ้น กลุ่มตัวอย่าง คือ พยาบาล 29 คน และตัวอย่างกรณีศึกษาผู้ดูแลเด็กที่ใส่ท่อเจาะคอ  เครื่องมือเก็บข้อมูล คือ แบบประเมินความเป็นไปได้ และแบบประเมินความพึงพอใจของพยาบาลในการใช้แนวปฏิบัติฯ และแบบบันทึกตัวอย่างกรณีศึกษา ที่ผู้วิจัยพัฒนาขึ้น วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติบรรยายและการวิเคราะห์เนื้อหา  ผลการศึกษา พบว่า (1) แนวปฏิบัติฯที่พัฒนาขึ้น มี 3 ระยะ คือ 1) ก่อนจำหน่าย 2) เตรียมจำหน่าย และ 3) หลังจำหน่าย ใช้หลักฐานเชิงประจักษ์ รวม 80 เรื่อง ตรวจสอบโดยผู้ทรงคุณวุฒิ 3 คน มีค่าความตรงและความถูกต้องเชิงเนื้อหา S-CVI/Ave = 0.99 และค่า S-CVI/UA = 0.98  (2) ผลการประเมินความเป็นไปได้ในการนำใช้ พบว่า อยู่ในระดับสูง (Mean = 61.2, SD = 6.59) และ (3) ผลการทดลองใช้แนวปฏิบัติฯที่พัฒนาขึ้น พบว่า พยาบาล ร้อยละ 27.6 มีความพึงพอใจในระดับสูง (Mean = 4.25 SD = 0.46) และผลลัพธ์ไม่พึงประสงค์จากตัวอย่างกรณีศึกษา พบว่า เกิดอุบัติเหตุท่อเจาะคอเลื่อนหลุด แต่ผู้ดูแลสามารถจัดการได้โดยไม่ต้องเข้ารักษาในโรงพยาบาล การมีแนวปฏิบัติฯนี้ ช่วยให้ผู้ดูแลสามารถดูแลเด็กใส่ท่อเจาะคอที่บ้านได้อย่างปลอดภัย ซึ่งควรติดตามและประเมินผลต่อไป