ผลของการพัฒนาแนวปฏิบัติทางการพยาบาลเพื่อป้องกันการเกิดแผลกดทับในผู้ป่วยกลุ่มเสี่ยง โรงพยาบาลระนอง จังหวัดระนอง
Article Sidebar
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาผลของการพัฒนาแนวปฏิบัติทางการพยาบาลเพื่อป้องกันการเกิดแผลกดทับในผู้ป่วยกลุ่มเสี่ยง โรงพยาบาลระนอง จังหวัดระนอง กลุ่มตัวอย่างคือ พยาบาลวิชาชีพจำนวน 112 คน และผู้ป่วยกลุ่มเสี่ยงอายุมากกว่า 60 ปี ที่ยังไม่มีแผลกดทับ และมีการประเมินความเสี่ยงต่อการเกิดแผลกดทับของ บราเดน ≤ 18 คะแนน เข้าพักรักษาตัวในหอผู้ป่วย จำนวน 10 หน่วยงาน ระหว่างเดือนกันยายน 2564 – กุมภาพันธ์ 2565 จำนวน 697 ราย วิเคราะห์ข้อมูลโดย ใช้สถิติเชิงพรรณนาและสถิติเชิงเปรียบเทียบ ผลการศึกษาพบว่า หลังการพัฒนาการใช้แนวปฏิบัติ พยาบาลวิชาชีพมีความรู้ในเรื่องการป้องกันการเกิดแผลกดทับในผู้ป่วยกลุ่มเสี่ยง อยู่ในระดับสูงเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.001 และเมื่อเปรียบเทียบค่าเฉลี่ยของการปฏิบัติตามแนวปฏิบัติทางการพยาบาลเพื่อป้องกันการเกิดแผลกดทับในผู้ป่วยกลุ่มเสี่ยง โรงพยาบาลระนอง ซึ่งกำหนดไว้ที่ ร้อยละ 75 พบว่า ค่าเฉลี่ยของความคิดเห็นพยาบาลวิชาชีพมีค่าสูงกว่าเกณฑ์เป้าหมาย อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.001 อัตราการเกิดแผลกดทับต่อ 1,000 วันนอนลดลงจาก 5.22 เป็น 2.80 จากผลการศึกษาครั้งนี้แสดงให้เห็นผลสำเร็จของใช้แนวปฏิบัติทางการพยาบาลเพื่อป้องกันการเกิดแผลกดทับในผู้ป่วยกลุ่มเสี่ยงโรงพยาบาลระนอง จังหวัดระนอง
Downloads
Article Details
อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
เอกสารอ้างอิง
Shahin ES, Dassen T, Halfens RJ. Pressure ulcer prevention in intensive care patients:
guidelines and practice. J Eval Clin Pract. 2009 ;15(2):370-74.
Coleman S, Nixon J, Wilson L, McGinnis E, Dealey C, et al. .A new pressure ulcer conceptual framework. JAN. 2014;70(10):2222-34.
Nursing Organization, Ranong Hospital. Nursing supervision report of Ranong Hospital for year 2021. Ranong Hospital, 2021.
National Health and Medical Research Council. [NMRC]. (1999). A guide to the developmental, implementation and evaluation of clinical practice guidelines. Retreived April 10, 2022, from http://www.nhmrc.gov.au/_file/_nhmrc/file/publications/synopses/cp30.pdf
Suttipong C. & Sinduh S. Factors predicting development of pressure ulcer in non-diabetic elderly stroke patients. Journal of Nursing Science 2011;29(2): 113-123. [In Thai]
Saimek R. Development and evaluation of clinical nursing practice guidelines for pressure ulcers prevention among elderly patients in intensive care unit [Dissertation].Songkla: Prince of Songkla University; 2016.(In Thai)
Makaraphirom A. Development of practice guideline for pressure sore prevention in Trat Hospital. Journal of Nursing Division 2020; 47(1): 139-52(In Thai)
Dongpho P. Effectiveness of clinical practice guidelines implementation for pressure sore prevention. Thammasat Medical Journal 2019;19(2):80-89. (In Thai)
Chai-aree C. Effectiveness of implementing clinical nursing practice guidelines for preventing pressure Iinjury at Nakhonpathom Hospital. Region 4-5 Medical Journal 2020; 39(4):684-96. (In Thai)
Thepchai P. Evidence-based practice for pressure ulcer prevention among perioperative nurses. Songklanagarind Journal of Nursing 2018; 38(3):38-51. (In Thai)
