ผลของโปรแกรมการจัดการตนเองต่อระดับน้ำตาลสะสมในเลือดของผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 ที่ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดไม่ได้ ในเขตพื้นที่ตำบลหนองปลาไหล อำเภอวังทรายพูน จังหวัดพิจิตร
คำสำคัญ:
ผู้ป่วยโรคเบาหวานชนิดที่ 2, ผู้ป่วยโรคเบาหวานที่ควบคุมระดับน้ำตาลไม่ได้, โปรแกรมการจัดการตนเองบทคัดย่อ
วัตถุประสงค์: เพื่อศึกษาประสิทธิผลของโปรแกรมการจัดการตนเองในการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดสะสม (HbA1C) ของผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 ที่ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดไม่ได้
วิธีการศึกษา: การวิจัยกึ่งทดลองชนิดมีกลุ่มเปรียบเทียบวัดผลก่อนและหลังการทดลอง กลุ่มตัวอย่างเป็นผู้ป่วยเบาหวานที่มีค่า HbA1C มากกว่าร้อยละ 7 และอาศัยอยู่ในพื้นที่ตำบลหนองปลาไหล อำเภอวังทรายพูน จังหวัดพิจิตร คัดเลือกแบบการสุ่มอย่างง่าย จำนวน 60 ราย สุ่มอย่างง่ายเพื่อแบ่งเป็นกลุ่มทดลอง 30 คน และกลุ่มควบคุม 30 คน เครื่องมือประกอบด้วยโปรแกรมการจัดการตนเองในการควบคุมระดับ HbA1C ของผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 ที่ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดไม่ได้ และเครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลคือแบบบันทึกการจัดการตนเอง แบ่งเป็น 3 ส่วน คือ ข้อมูลส่วนบุคคล แบบบันทึกการจัดการตนเอง และตารางบันทึกค่าระดับน้ำตาลในเลือด เก็บรวบรวมข้อมูลโดยกลุ่มทดลองได้รับโปรแกรม ส่วนกลุ่มเปรียบเทียบได้รับการดูแลตามปกติ ดำเนินการทดลองเป็นเวลา 14 สัปดาห์ วิเคราะห์ข้อมูลโดยแจกแจงความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ทดสอบสมมติฐานด้วยสถิติ paired t test และ independent t test
ผลการศึกษา: กลุ่มทดลองมีค่าเฉลี่ยระดับ HbA1C ก่อนและหลังการทดลองแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p = .05) โดยก่อนการทดลองมีค่าเฉลี่ยระดับ HbA1C เท่ากับ 8.31 (SD = 0.95) และหลังการทดลองมีค่าเฉลี่ยระดับ HbA1C เท่ากับ 7.61 (SD = 1.21) โดยไม่พบความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p = .64) ของค่าเฉลี่ยระดับน้ำตาลสะสมหลังการทดลองระหว่างกลุ่มทดลองและกลุ่มเปรียบเทียบ
สรุป: ผลการศึกษานี้แสดงให้เห็นว่าโปรแกรมการจัดการตนเอง ทำให้ผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 สามารถควบคุมระดับน้ำตาลได้ดีขึ้น และสามารถนำมาใช้ในงานคลินิกโรคเบาหวานเพื่อช่วยพัฒนาคุณภาพการดูแลผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 ได้
References
กองโรคไม่ติดต่อ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข. รายงานประจำปี NCDs 2565. กรุงเทพมหานคร: อักษรกราฟฟิค แอนด์ ดีไซน์; 2565.
กระทรวงสาธารณสุข. Health data center: ข้อมูลเพื่อตอบสนอง service plan สาขาโรคไม่ติดต่อ (NCD DM, HT, CVD) [อินเทอร์เน็ต]. 2565 [เข้าถึงเมื่อ วันที่ 30 กันยายน 2565]; เข้าถึงได้จาก: URL: https://pct.hdc.moph.go.th/hdc/main/index.php
American Diabetes Association Professional Practice Committee. Introduction and Methodology: Standards of Care in Diabetes—2024. Diabetes Care 2024;47(Supplement 1):S1–4. doi: 10.2337/dc24-SINT.
กนกวรรณ ด้วงกลัด, ปัญญรัตน์ ลาภวงศ์วัฒนา, ณัฐกมล ชาญสาธิตพร. โปรแกรมการส่งเสริมการจัดการตนเองในผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 ที่ควบคุมไม่ได้. วารสารวิจัยสุขภาพและการพยาบาล 2563;36(1):66–80.
อภิญญา ถามูลแสน. ผลของโปรแกรมการ จัดการโรคเบาหวาน ด้วยตนเองต่อพฤติกรรมการดูแลตนเอง และระดับน้ำตาลสะสมในเลือดของผู้ป่วยโรคเบาหวาน ชนิดที่ 2 ที่ควบคุม ระดับน้ำตาลไม่ได้ โรงพยาบาล พระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต จังหวัดสกลนคร. วารสาร สุขภาพ และ สิ่งแวดล้อมศึกษา 2567;9(1):257–66.
ณัฐภัสสร เดิมขุนทด, สว่างจิต สุรอมรกูล, รัชนีวรรณ ขวัญเจริญ, และคณะ. ผลของการให้ความรู้และสนับสนุนการจัดการตนเองของผู้เป็นเบาหวานในผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 ที่ควบคุมไม่ดี. วชิรสารการพยาบาล 2565;24(1):1–21.
สมาคมโรคเบาหวานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาสยามบรมราชกุมารี, สมาคมต่อมไร้ท่อแห่งประเทศไทย. แนวทางเวชปฏิบัติสำหรับโรคเบาหวาน 2566. กรุงเทพมหานคร: ศรีเมืองการพิมพ์. 2566.
Kanfer FH, Gaelick-Buys L. Self-management method. In: Kanfer FH, Goldstein AP, editors. Helping people to change: Textbook of methods. 4th ed. New York: Pergamon Press; 1991. 305–360.
Chrvala CA, Sherr D, Lipman RD. Diabetes self-management education for adults with type 2 diabetes mellitus: a systematic review of the effect on glycemic control. Patient education and counseling 2016;99(6):926–43.
Tasfia S, Benojir A, Elahi T, et al. Impact of physical exercise and food habit on type II diabetes mellitus medicated patients-A cross sectional study. J Chem Health Risks 2021;11(special):33–43. doi: 10.22034/jchr.2021.1909296.1179
ฐิตารัตน์ โกเสส, วิลาวัณย์ เตือนราษฎร์, ศิวพร อึ้งวัฒนา. ผลของโปรแกรมการกำกับตนเองต่อการจัดการอาหารและระดับน้ำตาลในเลือดในผู้ที่มีภาวะเบาหวานชนิดที่ 2 ที่ควบคุมไม่ได้ในชุมชน. พยาบาลสาร มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ 2565;49(2):55–68.
Ernawati U, Wihastuti TA, Utami YW. Effectiveness of diabetes self-management education (Dsme) in type 2 diabetes mellitus (T2Dm) patients: systematic literature review. J Public Health Res 2021;10(2):2240. doi:10.4081/jphr.2021.2240
Abdulah DM, Hassan AB, Saadi FS, et al. Impacts of self-management education on glycaemic control in patients with type 2 diabetes mellitus. Diabetes Metab Syndr 2018;12(6):969–75. doi: 10.1016/j.dsx.2018.06.007.
วัชราพร เนตรคำยวง. ผลของการพัฒนารูปแบบการจัดการตนเองของผู้ป่วยโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ที่ควบคุมระดับน้ำตาลไม่ได้ โรงพยาบาลบ้านธิ จังหวัดลำพูน. วารสารวิจัยการพยาบาลและการสาธารณสุข 2566;3(2):78–95.
Bergenstal RM, Mullen DM, Strock E, et al. Randomized comparison of self-monitored blood glucose (BGM) versus continuous glucose monitoring (CGM) data to optimize glucose control in type 2 diabetes. J Diabetes Complications 2022;36(3):108106. doi: 10.1016/j.jdiacomp.2021.108106
Mikhael EM, Hassali MA, Hussain SA. Effectiveness of diabetes self-management educational programs for type 2 diabetes mellitus patients in middle east countries: a systematic review. Diabetes Metab Syndr Obes 2020;13:117–38. doi: 10.2147/DMSO.S232958.
Person SN, Luzio SD, Havey JN, et al. Effect of structured self-monitoring of blood glucose, with and without additional telecare support, on overall glycemic control in non-insulin treated type 2 diabetes: the SMBG study, a 12-month randomized controlled trial. Diabet Med 2019;36(5):578–90. doi: 10.1111/dme.13899.
Johari SM, Razalli NH, Chua KJ, et al. The efficacy of self-monitoring of blood glucose (SMBG) intervention package through a subscription model among type-2 diabetes mellitus in Malaysia: a preliminary trial. Diabetol Metab Syndr 2024;16(1):135. doi: 10.1186/s13098-024-01379-9
Bergenstal RM, Mullen DM, Strock E, et al. Randomized comparison of self-monitored blood glucose (BGM) versus continuous glucose monitoring (CGM) data to optimize glucose control in type 2 diabetes. J Diabetes Complications 2022;36(3):108106. doi: 10.1016/j.jdiacomp.2021.108106.
American Diabetes Association Professional Practice Committee. Facilitating positive health behaviors and well-being to improve health outcomes: standards of care in diabetes. Diabetes Care 2024;47(Suppl 1):S77–110 doi:10.2337/dc24-S005.
Downloads
เผยแพร่แล้ว
How to Cite
ฉบับ
บท
License

This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
ลิขสิทธิ์บทความเป็นของผู้เขียนบทความ แต่หากผลงานของท่านได้รับการพิจารณาตีพิมพ์ลงวารสารแพทย์เขต 4-5 จะคงไว้ซึ่งสิทธิ์ในการตีพิมพ์ครั้งแรกด้วยเหตุที่บทความจะปรากฎในวารสารที่เข้าถึงได้ จึงอนุญาตให้นำบทความในวารสารไปใช้ประโยชน์ได้ในเชิงวิชาการโดยจำเป็นต้องมีการอ้างอิงถึงชื่อวารสารอย่างถูกต้อง แต่ไม่อนุญาตให้นำไปใช้ในเชิงพาณิชย์