ผลของการจัดการเรียนรู้วิธีการแบบเปิด (Open Approach) ร่วมกับรูปแบบการเรียนรู้ เอสเอสซีเอส (SSCS) ต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ทักษะการแก้ไขปัญหาและความพึงพอใจ ของนักศึกษาหลักสูตรพยาบาลศาสตรบัณฑิต

ผู้แต่ง

  • ศรีจันทร์ พลับจั่น วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี นครลำปาง คณะพยาบาลศาสตร์ สถาบันพระบรมราชชนก
  • สรรพพร วิรัตนโภคิน วิทยาลัยเทคโนโลยีทางการแพทย์และสาธารณสุข กาญจนาภิเษก คณะสาธารณสุขศาสตร์และสหเวชศาสตร์ สถาบันพระบรมราชชนก

คำสำคัญ:

การเรียนรู้วิธีแบบเปิด, รูปแบบการเรียน SSCS, ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน, ทักษะในการแก้ปัญหา, คะแนนพัฒนาการสัมพัทธ์

บทคัดย่อ

การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาผลของการจัดการเรียนรู้วิธีแบบเปิด (Open Approach) ร่วมกับรูปแบบการเรียนรู้เอสเอสซีเอส (SSCS) ต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ทักษะการแก้ไขปัญหาด้วยกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ และความพึงพอใจต่อการจัดการเรียนรู้ ของนักศึกษาหลักสูตรพยาบาลศาสตรบัณฑิต ชั้นปีที่ 1 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษา คือ นักศึกษาหลักสูตรพยาบาลศาสตรบัณฑิต ชั้นปีที่ 1 ของวิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี นครลำปาง ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2563 จำนวน 1 ห้องเรียน รวม 58 คน โดยการคัดเลือกแบบเจาะจง (Purposive sampling) ระยะเวลาในการจัดการเรียนรู้ 16 ชั่วโมง ระหว่างวันที่ 2 - 23 มีนาคม 2564 เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย แผนการจัดการเรียนรู้วิธีการแบบเปิด (Open Approach) ร่วมกับรูปแบบการเรียนรู้ SSCS  แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง ไวรัสที่ก่อให้เกิดพยาธิสภาพ แบบประเมินทักษะการแก้ปัญหาด้วยกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ และ แบบสอบถามความพึงพอใจต่อการจัดการเรียนรู้ ดำเนินการวิจัยแบบ One group Pretest-Posttest Design วิเคราะห์ข้อมูลโดยหาค่าเฉลี่ยและการหาค่าคะแนนพัฒนาการ (Gain Score) ด้วยสูตรวัดคะแนนเพิ่มสัมพัทธ์ (Relative Gain Score) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและทักษะการแก้ปัญหา โดยใช้สถิติ Paired t-test

ผลการวิจัยพบว่า 1) นักศึกษามีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 (ก่อนเรียน x̄ =14.93, S.D.= 2.21 และหลังเรียน x̄ = 21.81, S.D.= 2.80)  2) นักศึกษามีคะแนนพัฒนาการหลังการเรียนรู้วิธีการแบบเปิด (Open Approach) ร่วมกับรูปแบบการเรียนรู้ SSCS เฉลี่ยเท่ากับ 45.30 มีพัฒนาการอยู่ในระดับปานกลาง 3) นักศึกษามีทักษะในการแก้ปัญหาหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .00 (ก่อนเรียน x̄ =10.83, S.D.=1.42 และหลังเรียน x̄ =14.16, S.D.=1.14) และ 4) นักศึกษามีความพึงพอใจต่อการจัดการเรียนการสอนวิธีการแบบเปิด (Open Approach) ร่วมกับรูปแบบการเรียนรู้ SSCS อยู่ในระดับมาก (x̄ = 4.36, S.D.= 0.59)

ผลการวิจัยนี้สามารถนำไปใช้ในการพัฒนาการเรียนการสอนรายวิชาอื่นทั้งหมวดวิชาวิทยาศาสตร์และวิชาพื้นฐานวิชาชีพเพื่อพัฒนาผลการเรียนรู้ตามมาตรฐานคุณวุฒิระดับปริญญาตรีสาขาพยาบาลศาสตร์ทั้งด้านความรู้ ทักษะปัญญา และความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล เพื่อเตรียมความพร้อมนักศึกษาชั้นปีที่ 1 สำหรับการเรียนรู้ในรายวิชาชีพพยาบาลต่อไป

References

Abell, S. K., & Pizzini, E. L. (1992). The effect of a problem solving in-service program on

the classroom behaviors and attitudes of middle school science teachers. Journal of Research in Science Teaching, 29(7), 649–667.

Chin, C. (1997). Promoting higher cognitive learning in science through a problem-solving

approach. REACT, 1, 7-11.

Choengchao, C. (2013). Introduction to educational research. Pattani: Prince of Songkla

University. (In Thai)

Fongsri, P. (2006). Educational research “Concept Theory”. (2nd ed.). Bangkok: Tiemfa

Press. (In Thai)

Kaday, A. & Mopant, N. (2017). Effect of Open Approach with SSCS Problem Solving

Learning Model on science achievement, problem solving ability, and satisfaction with learning organizing of grade 10 students. AL-NUR Journal of Graduate School, 12, 23-36.

Kanchanawasee, S. (2009). Theory of traditional testing. (6th ed.). Bangkok: Chulalongkorn

University. (In Thai)

Nohda, N. (1986). A study of “Open – Approach” method in school mathematics

teaching focusing on mathematical problem solving activities. Tsukuba Journal

of Education Study in Mathematics. 5, 119-131.

Office of the Basic Education Commission. (2010). Assessment criteria of the Office of Academic Affairs and Educational Standards. Bangkok. Ministry of Education. (In Thai)

Panich, V. (2015). Creative learning for students in the 21st century. Walailak Journal of

Learning Innovations, 1(2), 3-14. (In Thai)

Pantaewan, P. (2016). Development of students in the 21st century with active

learning in nursing profession. Journal of The Royal Thai Army Nurses, 17(3), 17-25. (In Thai)

Laohaphaiboon, P. (2009). Science teaching approach. (8th ed.). Bangkok: Thai Watthana

Panich Press. (In Thai)

Praboromarajchanok Institute of Health Workforce Development. (2018). Learning assessment

measurement guide according to the bachelor's qualification standards nursing science. Nonthaburi: Ministry of Public Health. (In Thai)

Prommaruk, R. (2010). A study of some factors contributed to mathematical reasoning ability

and mathematical problem solving of Mathayomsuksa 4 students in schools under

Nakornpathom education area 1. A dissertation submitted in partial fulfillment of the requirements for the master degree (Research and Educational Statistics), Srinakharinwirot University. (In Thai)

Sadao, Y. (2011). Development of activities for Thai language teaching through the lesson

study process, bringing an open approach (open teaching style). Academic Journal, 15, 24-35.

Srisa-aad, B. (2008). Basic research in education. (5th ed.). Kalasin: Prasaan Press. (In Thai)

Downloads

เผยแพร่แล้ว

2022-04-06