ความสัมพันธ์ระหว่างความรู้ ทัศนคติ และการปฏิบัติในการส่งเสริมการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ของนักศึกษาพยาบาล วิทยาลัยพยาบาลสภากาชาดไทย

บทคัดย่อ

        การวิจัยพรรณาความสัมพันธ์ (Descriptive correlation) เพื่อศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างความรู้ ทัศนคติ และการปฏิบัติในการส่งเสริมการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ของนักศึกษาพยาบาล วิทยาลัยพยาบาลสภากาชาดไทย กลุ่มตัวอย่างเป็นนักศึกษาพยาบาล วิทยาลัยพยาบาลสภากาชาดไทย ชั้นปีที่3 หลักสูตรพยาบาลศาสตรบัณฑิต (หลักสูตรปรับปรุง พ.ศ. 2555) ที่ฝึกปฏิบัติในรายวิชาปฏิบัติการพยาบาลครอบครัวและการผดุงครรภ์ 1 จำนวน 132 ราย เก็บรวบรวมข้อมูลโดยใช้แบบสอบถามข้อมูลส่วนบุคคล แบบสอบถามความรู้ ทัศนคติ และการปฏิบัติในการส่งเสริมการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ (α = 0.75, 0.69 และ0.85 ตามลำดับ) วิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติเชิงพรรณา และสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์แบบสเปียร์แมน พบว่านักศึกษาพยาบาลมีคะแนนความรู้เกี่ยวกับการส่งเสริมการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ระดับสูง (x̅ = 25.17, S.D. = 2.87) คะแนนทัศนคติต่อการส่งเสริมการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ระดับสูง (x̅ = 72.31, S.D. = 4.77) และคะแนนการปฏิบัติในการส่งเสริมการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ระดับปานกลาง (x̅ = 67.39, S.D. = 10.93) เมื่อทดสอบความสัมพันธ์ระหว่างความรู้ ทัศนคติ และการปฏิบัติ พบว่า ความรู้ในการส่งเสริมการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่มีความสัมพันธ์กับทัศนคติในการส่งเสริมการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ อย่างไม่มีนัยสำคัญทางสถิติ (r =.009, p = .917) ความรู้ในการส่งเสริมการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ของนักศึกษาพยาบาล มีความสัมพันธ์กับการปฏิบัติในการส่งเสริมการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ อย่างไม่มีนัยสำคัญทางสถิติ (r = -.057, p = .517) ทัศนคติในการส่งเสริมการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ของนักศึกษาพยาบาล มีความสัมพันธ์กับ   การปฏิบัติในการส่งเสริมการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างไม่มีนัยสำคัญทางสถิติ   (r =.097, p = .271)

        สรุปและข้อเสนอแนะ ควรเพิ่มเติมการจัดการเรียนการสอนเพื่อพัฒนาทักษะการปฏิบัติการพยาบาลในการส่งเสริมการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ให้แก่นักศึกษาพยาบาล เช่น การสาธิต การสาธิตย้อนกลับเพื่อให้นักศึกษาพยาบาลได้ทดลองปฏิบัติ และอาจเพิ่มเติมการจัดการเรียนโดยใช้บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนด้วยตนเอง เพื่อให้นักศึกษาพยาบาลเกิดทักษะ และสามารถปฏิบัติการพยาบาลเพื่อส่งเสริมการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ได้อย่างถูกต้อง และครบถ้วน