การประยุกต์ใช้แนวคิด PRECEDE MODEL ในการสร้างเสริมสุขภาพ
คำสำคัญ:
แนวคิด PRECEDE MODEL, การสร้างเสริมสุขภาพ, การประยุกต์ใช้บทคัดย่อ
การสร้างเสริมสุขภาพเป็นบทบาทที่สำคัญของพยาบาล โดยการสร้างเสริมสุขภาพต้องอาศัยองค์ความรู้ในการนำมาออกแบบกิจกรรม หรือวางแผนให้บุคคล ชุมชนได้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสู่การสร้างเสริมสุขภาพตนเอง PRECEDE MODEL เป็นอีกหนึ่งแนวคิดที่ได้รับความสนใจและถูกนำมาใช้อย่างแพร่หลายมากขึ้นในศาสตร์สาขาต่าง ๆ ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ โดยแนวคิดนี้มีพื้นฐานที่ว่า พฤติกรรมสุขภาพของบุคคลเกิดขึ้นจากหลายสาเหตุร่วมกัน ทั้งปัจจัยภายในและภายนอกตัวบุคคล การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมต้องวิเคราะห์ปัจจัยที่เป็นสาเหตุของพฤติกรรมก่อน แล้วจึงวางแผนและกำหนดกลวิธีเพื่อให้มีการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมสุขภาพนั้น สามารถใช้ได้กับทุก ๆ ช่วงวัย ทั้งในชุมชน ในโรงพยาบาล กลุ่มที่มีสุขภาพดี และกลุ่มโรคเรื้อรัง ดังนั้นแนวคิดนี้จึงเหมาะสมต่อการนำมาประยุกต์ใช้ในการส่งเสริมสุขภาพ ซึ่งหากพยาบาลมีความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับแนวคิด PRECEDE MODEL ย่อมสามารถประยุกต์ใช้ในการปฏิบัติการพยาบาล การศึกษาและการวิจัยทางการพยาบาล เพื่อให้การพยาบาลผู้ป่วยและครอบครัวได้อย่างมีคุณภาพมากขึ้น
เอกสารอ้างอิง
http://wops.moph.go.th/ops/oic/data/20161115144754_1_.pdf
2. Dizaji MB, Taghdisi MH, Solhi M, Hoseini SM, Shafieyan Z, Qorbani M, et al. Effects of educational intervention based on PRECEDE model on self care behaviors and control in patients with type 2 diabetes in 2012. J Diabetes Metab Disord 2014:1-6.
3. Gheibizadeh M, Bazpour M, Malehi AS, Keikhaei B. Health-Promoting Lifestyle of Adolescents with β-Thalassemia Based on Precede Model in Ahvaz, Iran, 2016. Jundishapur J Chronic Dis Care 2017;6(1):1-7.
4. Mazloomymahmoodabad S, Masoudy G, Fallahzadeh H, Jalili Z. Education based on precede-proceed on quality of life in elderly. Glob J Health Sci 2014;6(6):178-184.
5. ปรียานุช นิธิรุ่งเรือง, นรลักขณ์ เอื้อกิจ. ปัจจัยทำนายพฤติกรรมป้องกันอาการภูมิแพ้ในเด็กวัยเรียน. วารสารพยาบาลสาธารณสุข 2556;27(2):1-13.
6. พัชราภัณฑ์ ไชยสังข์, ปัญจภรณ์ ยะเกษม, นุชจรีรัตน์ ชูทองรัตน์. ปัจจัยทำนายพฤติกรรมการบริโภคอาหารของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 -6 ที่มีนํ้าหนักเกินเกณฑ์. วารสารวิทยาลัยพยาบาลบรมราช ชนนี นครราชสีมา 2557;20(1):30-43.
7. บุศรา ชัยทัศน์, นรลักขณ์ เอื้อกิจ. ปัจจัยที่สัมพันธ์กับพฤติกรรมป้องกันการจมน้ำในเด็กวัยเรียน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ. วารสารพยาบาลศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 2558;27(2):72-84.
8. Green lW, Kreuter MW. Health program planning: An educational and ecological approach. 4th ed. New York: Emily Barrosse; 2005.
9. สมชาย พรหมจักร. ปัจจัยที่มีผลต่อพฤติกรรมของผู้ป่วยโรคเบาหวานชนิดไม่พึ่งอินซูลิน ในการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด. วารสารวิจัยและระบบสาธารณสุข 2550;1(2):10-8.
10. ปฐญาภรณ์ ลาลูน. พฤติกรรมการดูแลตนเองของผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูงที่มารับบริการแผนกผู้ป่วยนอกอายุรกรรม โรงพยาบาลศูนย์การแพทย์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ [ปริญญานิพนธ์วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต]. กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ; 2554.
11. จุฑามาศ คชโคตร, แอนน์ จิระพงษ์สุวรรณ, พัชราพร เกิดมงคล, ขวัญใจ อำนาจสัตย์ซื่อ, อรวรรณ แก้วบุญชู. พฤติกรรมป้องกันโรคหลอดเลือดหัวใจของพนักงานธนาคารกสิกรไทย ในเขต กรุงเทพมหานคร. วารสารเกื้อการุณย์ 2555;19(1):71-86.
12. ณัฏฐ์สิณี สุขสมัย, ขวัญใจ อำนาจสัตย์ซื่อ, พัชราพร เกิดมงคล, วันเพ็ญ แก้วปาน, นิตยา วัจนะภูมิ. ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมสร้างเสริมสุขภาพในผู้สูงอายุที่ทำงานนอกระบบ ใน กรุงเทพมหานคร. วารสารพยาบาลสาธารณสุข 2555;26(3):80-93.
13. มนพัทธ์ อารัมภ์วิโรจน์. ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการดูแลสุขภาพตนเองของผู้สูงอายุโรคความดันโลหิตสูง ในชุมชนบ้านท่าข้องเหล็ก หมู่ที่ 9 จังหวัดอุบลราชธานี. การประชุมวิชาการและ
นำเสนอ ผลงานวิจัยระดับชาติ ราชธานีวิชาการ ครั้งที่ 2; 26-27 กรกฎาคม 2560. อุบลราชธานี: มหาวิทยาลัยราชธานี; 2560. หน้า 933-44.
14. นรลักขณ์ เอื้อกิจ. เอกสารคำสอนการสร้างเสริมสุขภาพ. กรุงเทพฯ: คณะพยาบาลศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย; 2553.
15. Stetler CB, Morsi D, Rucki S, Broughton S, Corrigan B, Fitzgerald J, et al. Utilization-focused integrative reviews in a nursing service. Appl Nurs Res1998;11(4):195-206.
16. เพ็ญศิริ ดวงผุนมาตย์, ประสิทธิ์ ลีระพันธ์, ธราดล เก่งการพานิช, กีรติ เจริญชลวานิช. พฤติกรรมการดูแลตนเองที่บ้านของผู้ป่วยหลังผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียม. วารสารสุขศึกษา 2557;37(1):49-65.
17. วิภาวรรณ ศิริกังวาลกุล, รัตน์ศิริ ทาโต, ระพิณ ผลสุข. ปัจจัยทำนายพฤติกรรมป้องกันโรคหลอดเลือดหัวใจของกำลังพลกองทัพบก. วารสารพยาบาลศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 2560;29(2): 99-111.
18. ลัดดาวัลย์ เพ็ญศรี. ผลของโปรแกรมการให้ความรู้ร่วมกับการสนับสนุนทางสังคมต่อพฤติกรรม สุขภาพของผู้ป่วยที่ได้รับการใส่เครื่องกระตุ้นหัวใจแบบถาวร [วิทยานิพนธ์ปริญญาพยาบาลศาสตร
มหาบัณฑิต]. กรุงเทพฯ: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย; 2560.
19. สุจิตรา คุ้มสะอาด, วีณา เที่ยงธรรม, เพลินพิศ สุวรรณอำไพ. ปัจจัยด้านพฤติกรรมที่มีความสัมพันธ์กับ การกลับเป็นซ้ำของผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง. วารสารพยาบาลสาธารณสุข 2560;31(1):13-26.
20. ทิพนันท์ ปันคำ, นรลักขณ์ เอื้อกิจ. ปัจจัยทำนายพฤติกรรมสุขภาพของผู้ป่วยที่ได้รับการใส่เครื่องกระตุ้นหัวใจแบบถาวร. วารสารพยาบาลโรคหัวใจและทรวงอก 2560;28(1):129-41.
เผยแพร่แล้ว
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
เนื้อหาบทความหรือข้อคิดเห็นต่างๆ ในวารสารพยาบาลสภากาชาดไทยนี้ เป็นความคิดเห็นของผู้เขียนบทความ ไม่ใช่ความเห็นของกองบรรณาธิการ หรือสถาบันการพยาบาลศรีสวรินทิรา สภากาชาดไทย